เอชพีอี (HPE) ปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ โปรไลแอนท์ (ProLiant) รุ่นใหม่ ที่ออกแบบมา เพื่อรองรับความปลอดภัยขั้นสูง มีระบบ AI แบบอัตโนมัติ และประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น…
highlight
- เอชพีอี เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ “เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12” (HPE ProLiant Compute Gen12) รุ่นใหม่ที่ ผ่านมาตรฐานการรับรองความปลอดภัยจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้าน IT ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก AI แบบอัตโนมัติ พร้อมช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 65%
HPE เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ ProLiant รุ่นใหม่ รองรับความปลอดภัยขั้นสูงด้วย AI แบบอัตโนมัติ
HPE ProLiant Compute Gen12
ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ (Hewlett Packard Enterprise) ประกาศเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ “เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12” ใหม่ จำนวน 8 รุ่น ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์เจเนอเรชันล่าสุดสำหรับองค์กรธุรกิจที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน และช่วยเพิ่มผลผลิตงานด้วยคุณสมบัติการจัดการที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่นี้จะรองรับการทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 รุ่นล่าสุด สำหรับการใช้งานทั้งในศูนย์ข้อมูล และสภาพแวดล้อมแบบเอดจ์ (edge)
คริสตา แซทเทอร์ธเวต รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปของ เอชพีอี คอมพิว
คริสตา แซทเทอร์ธเวต รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปของ เอชพีอี คอมพิว กล่าวว่า ลูกค้าของเรากำลังเผชิญกับเวิร์กโหลดที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล และมีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ เซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 รุ่นใหม่นี้เป็นขุมพลัง และให้ข้อมูลเชิงลึกด้านการจัดการ
ที่จำเป็นต่อการเติบโตของธุรกิจพร้อม ๆ กับรักษาสมดุลระหว่างเป้าหมายด้านความยั่งยืน และต้นทุนในการจัดการให้แก่องค์กรต่าง ๆ ครอบคลุมทั้ง ภาคสาธารณะ ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมเฉพาะ (Vertical industry) เช่น อุตสาหกรรมการเงิน การรักษาทางการแพทย์ และอื่น ๆ
นี่จึงเป็นแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรสมัยใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับโลกของไฮบริด โดยออกแบบมาพร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัย และการควบคุมที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถเอาชนะภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงความท้าทายด้านประสิทธิภาพที่ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าไม่สามารถแก้ไขได้
ความปลอดภัยแบบครอบคลุม Chip–to–Cloud ตลอดวงจรชีวิตของเซิร์ฟเวอร์

กลุ่มผลิตภัณฑ์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 สร้างมาตรฐานใหม่ให้การรักษาความปลอดภัยขององค์กรด้วยมาตรการป้องกันด้วยการสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชิปจนถึงระบบคลาวด์ และตลอดทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตเซิร์ฟเวอร์
ซึ่ง Integrated Lights Out (iLO) 7 มาพร้อมกับ “Secure Enclave” ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รักษาความปลอดภัยแบบเฉพาะทางที่ได้รับการพัฒนาโดย เอชพีอี ตั้งแต่ต้นจนจบและถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทเอง เซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว ที่ติดตั้ง iLO 7
จะช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยคุกคามในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นเซิร์ฟเวอร์ตัวแรกที่มีความพร้อมในการต้านทานการโจมตีจาก Quantum Computing และเป็นไปตามข้อกำหนดสำหรับมาตรฐานความปลอดภัยการเข้ารหัสระดับสูง ได้แก่ การรับรอง FIPS 140-3 ระดับ 3
คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เสริมประสิทธิภาพด้วยชิปของ iLO 7 ทำให้เซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ มีความโดดเด่นอย่างชัดเจน Secure Enclave ที่ฝังอยู่ในฮาร์ดแวร์ของเซิร์ฟเวอร์จะสร้าง Chain of Trust ที่แข็งแกร่ง
เพื่อป้องกันการโจมตีในระดับเฟิร์มแวร์ และสร้างความมั่นใจในห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ของ เอชพีอี ตั้งแต่โรงงานผลิตจนถึงการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีผ่านบริการ Onsite Decommission Services ซึ่งจะรวบรวมอุปกรณ์ และขนส่งไปยังส่วนงานคัดแยก และรีไซเคิลที่ได้รับอนุญาต
ข้อมูลเชิงลึกจาก AI ช่วยปรับปรุงการจัดการด้านการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพระบบอัตโนมัติ และประหยัดพลังงาน

เอชพีอี “Compute Ops Management” เป็นแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บนคลาวด์ที่ช่วยให้องค์กรสามารถเสริมสร้างความปลอดภัยและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานอัตโนมัติของเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับระบบการทำงานอัตโนมัติแบบคาดการณ์ล่วงหน้าเชิงรุก
ที่ช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ด้วยการ คาดการณ์การใช้พลังงานล่วงหน้า และกำหนดเกณฑ์เพื่อควบคุมต้นทุน และลดการปล่อยคาร์บอนในระดับโลกได้ผ่าน Global Map View แบบใหม่ และยังช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถระบุปัญหาของเซิร์ฟเวอร์
ในแต่ละสภาพแวดล้อมไอทีที่มีการกระจายตัวอยู่ในเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งชุดรวมเครื่องมือผู้ให้บริการ (Multi-Vendor Toolset Integration) ที่ช่วยลดเวลาที่ระบบหยุดทำงานได้ปีละ 4.8 ชั่วโมงต่อเซิร์ฟเวอร์ การเริ่มปรับใช้ระบบอัตโนมัติช่วยให้การตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์
และการจัดการแบบต่อเนื่องนั้นทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานระยะไกล หรือสำนักงานสาขาที่ไม่มีทรัพยากรด้านไอที คุณสมบัติใหม่ทั้งหมดของ Compute Ops Management รวมถึงข้อมูลเชิงลึกจาก AI มุมมองการจัดการบนแผนที่ (new map-based visibility)
และการผสานการทำงานกับเครื่องมือจากผู้ให้บริการรายอื่น จะสามารถใช้งานได้กับเซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน10 และเซิร์ฟเวอร์รุ่นที่ใหม่กว่า นอกจากนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการประเมินการจัดซื้อในอนาคต
นอกจากนี้ เอชพีอี ได้พัฒนาเครื่องมือแบบสแตนด์อโลนที่เรียกว่า “Power Advisor” ที่ช่วยคำนวณตัวชี้วัดประสิทธิภาพของสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ต้นทุนด้านพลังงาน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกด้วย
เซิร์ฟเวอร์ “เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12” เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ประหยัดพลังงาน และรองรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง

ผลิตภัณฑ์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับเวิร์กโหลดที่มีความต้องการสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, การประมวลผลแบบเอจคลาวด์แบบไฮบริด และโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริง (VDI)
โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพลังงงานไฟฟ้าในศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ช่วยประหยัดพลังงาน และลดต้นทุน โดยมีประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่สูงขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับรุ่นเก่า
อีกทั้ง เซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 ยังสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 65% ต่อปี(iv) และช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มความจุของศูนย์ข้อมูลได้ โดยเซิร์ฟเวอร์ Gen12 เพียงเดียวสามารถให้ประสิทธิภาพการประมวลผลมากเท่ากับเซิร์ฟเวอร์ Gen10 จำนวน 7 เครื่อง
“การร่วมมือกับพันธมิตรด้านฮาร์ดแวร์ที่น่าเชื่อถือ และมีนวัตกรรมที่ทันสมัยอย่าง เอชพีอี ช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มศักยภาพให้ลูกค้าด้วยโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีที่ครอบคลุม และเหมาะสมกับเวิร์กโหลด”
วิลเลียม เบลล์ รองประธานบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ phoenixNAP กล่าว เราเป็นลูกค้ารายแรกของโลกที่สั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 และได้สัมผัสถึงประโยชน์จากการอัปเกรดการใช้งานทันที
จากการส่งมอบเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ในรูปแบบบริการ phoenixNAP ช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถรับมือกับความท้าทายด้านประสิทธิภาพการทำงาน การประหยัดพลังงาน ความปลอดภัยของข้อมูล และการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานในระดับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการศูนย์ข้อมูลที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น เอชพีอี ได้นำเสนออุปกรณ์เสริมอย่าง “ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง” (DLC) สำหรับ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 แบบซ็อกเก็ตเดี่ยว และซ็อกเก็ตคู่ที่ใช้โปรเซสเซอร์ของ Intel
โดยของเหลวจะสามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบระบายความร้อนด้วยอากาศถึง 3,000 เท่า เมื่อเทียบตามปริมาตร เอชพีอี เป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง
โดยเป็นผู้พัฒนาระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรงที่เร็วที่สุดในโลก และด้วยสิทธิบัตร DLC มากกว่า 300 รายการ รวมถึงประสบการณ์มากกว่า 50 ปี เอชพีอี จึงถือเป็นผู้นำในการใช้งานระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และศูนย์ข้อมูล
การวางจำหน่าย
เซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 ใหม่ 6 เซิร์ฟเวอร์จากทั้งหมด 8 เซิร์ฟเวอร์ ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon 6 จะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งรวมถึงเซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว DL320, DL340, DL360, DL380, DL380a และ ML350 Gen12
ส่วนเซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี ซินเนอร์จี้ 480 และ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว DL580 เจน12 คาดว่าจะวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนของปี 2025
กลุ่มผลิตภัณฑ์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 จะวางจำหน่ายแบบแยกเดี่ยว (Standalone) หรือผ่าน เอชพีอี กรีนเลท ซึ่งจะให้คุณสมบัติในการปรับขนาด การประหยัดต้นทุน และความคล่องตัวในการให้บริการ โดยสามารถซื้อโซลูชันเหล่านี้ได้ผ่านช่องทางพาร์ทเนอร์ที่ได้รับอนุญาต เอชพีอี เซอร์วิส
ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์สูงสุดจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 โดยจะให้ความช่วยเหลือด้านการให้คำปรึกษา ความเชี่ยวชาญ การดำเนินงาน การบริหารจัดการ การเงิน และการบริหารจัดการสินทรัพย์เพื่อให้การดำเนินธุรกิจขององค์กรรวดเร็วยิ่งขึ้น
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
- การรับรอง FIPS 140-3 ระดับ 3 คือ มาตรฐานของสถาบันมาตรฐาน และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) และอัลกอริทึมความปลอดภัยเชิงพาณิชย์แห่งชาติ (CNSA) 2.0 ในการตรวจสอบโมดูลการเข้ารหัส
- Forrester Consulting, New Technology : The Projected Total Economic Impact™ ของ HPE Compute Ops Management ได้รับมอบหมายจาก HPE (มิถุนายน 2024) https://www.hpe.com/psnow/doc/a00141308enw
- อ้างอิงตามการวัดพลังงานภายใน และประสิทธิภาพการทำงานโดยเปรียบเทียบเซิร์ฟเวอร์ เอชพีอี โปรไลแอนท์ คอมพิว เจน12 แบบ 86 คอร์ กับเซิร์ฟเวอร์ Gen10 ซึ่งมีการกำหนดค่าแบบเดียวกัน
- ผลลัพธ์การวิเคราะห์ที่โพสต์บน spec.org SPECrate2017_int_base: #20893 เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 01-01-2025 ข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์นั้นขึ้นอยู่กับการวัดพลังงานภายใน และประสิทธิภาพการทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ที่กำหนดค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงเหมือนกัน และเปรียบเทียบกับระบบ Gen12 86 คอร์โดยประมาณ SPEC และ SPECrates เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Standard Performance Evaluation Corporation (SPEC)
- ผลลัพธ์การวิเคราะห์ที่โพสต์บน spec.org SPECrate2017_int_base: #20893 เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 01-01-2025 ซึ่งเปรียบเทียบค่าพลังงานความร้อนโดยประมาณของเซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Compute Gen12 แบบ 48 คอร์ SPEC และ SPECrates เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Standard Performance Evaluation Corporation (SPEC)
- สารหล่อเย็นเหลวที่มีส่วนประกอบของโพรพิลีนไกลคอลเป็นหลักสามารถระบายความร้อนได้เร็วกว่าอากาศที่มีมวลเท่ากันถึง 3.94 เท่า และมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศถึง 869.9 เท่า ทำให้สารหล่อเย็นเหลวชนิดนี้สามารถรองรับความร้อนได้มากกว่าอากาศที่มีปริมาตรเท่ากันถึง 3,427.5 เท่า
- ตามรายชื่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก TOP500 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2024
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th
