OPPO เปิดตัว เทคโนโลยีการชาร์จแบบ Flash Charging รุ่นใหม่ ปลอดภัยมากขึ้น

OPPO

ออปโป้ (OPPO) เปิดตัว เทคโนโลยีการชาร์จแบบ Flash Charging รุ่นใหม่ ที่ถูกพัฒนาให้พัฒนาให้มีความเร็ว ปลอดภัย และชาญฉลาดยิ่งกว่าเดิม…

OPPO เปิดตัว เทคโนโลยีการชาร์จแบบ Flash Charging รุ่นใหม่ ปลอดภัยมากขึ้น

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ออปโป้ จัดงาน Whats Next for Flash Charging?” ออปโป้ Flash Charge Open Day พร้อมเปิดเผยความสำเร็จล่าสุดจากการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับเทคโนโลยีการชาร์จที่มีความเร็วสูง และการพัฒนาเทคโนโลยี Flash Charge ใหม่ โดย ออปโป้ ได้การพัฒนาเทคโนโลยี VOOC Flash Charge ว่าครอบคลุมตั้งแต่หัวชาร์จ สายชาร์จ PMIC แบตเตอรี่ ฯลฯ

OPPO

Jeff Zhang Chief Scientist ของ ออปโป้ VOOC Flash Charge กล่าวว่า ไม่ว่าผู้คนจะเลือกการชาร์จแบบไร้สาย หรือแบบมีสาย เทคโนโลยี VOOC Flash Charge ในตอนนี้ ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย เมื่อต้องชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ แม้แต่ภายใต้สถานการณ์ที่สุดขั้วก็ตาม

Safe Charging : การพัฒนา และนวัตกรรมใหม่ ที่สร้างประสบการณ์การชาร์จที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

ออปโป้ ให้ความสำคัญในด้านประสิทธิภาพ และความปลอดภัย เป็นจุดสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี Flash Charge เสมอมา และตามแนวคิดนี้ ออปโป้ จึงได้นำระบบป้องกันความปลอดภัยแบบ 5 ชั้นมาใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge

และยังได้มีการค้นคว้าวัสดุแบบใหม่ AI Algorithm สถาปัตยกรรมการชาร์จ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่จะสามารถนำมาใช้งานเพื่อส่งต่อนวัตกรรมอื่น ๆ ดังต่อไปนี้

  • สายชนวนที่มีความต้านทานต่อไฟฟ้าสลับต่ำ : สายชนวนที่อยู่ในระบบป้องกันความปลอดภัย 5 ชั้นของ Flash Charge จะสามารถหยุดทำงานได้ทันที ในกรณีที่มีกระแสไฟเกินขีดจำกัด หรือพบความผิดปกติอื่น ๆ ซึ่งเป็นการปกป้องแบตเตอรี่โดยการแยกตัวแบตเตอรี่ออกจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า การออกแบบสายชนวนที่ได้รับการพัฒนามาแล้วนั้น มีความต้านทานภายในต่อไฟฟ้าสลับที่ลดลง และมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบการชาร์จให้มากกว่าเดิม
  • สวิตช์ Gallium Nitride (GaN) : ออปโป้ ได้มีการนำสวิตช์ GaN มาใช้งานบนสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก โดยสวิตช์เหล่านี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการทำงานเทียบเท่ากับสวิตช์ Silicon MOSFET แบบดั้งเดิม ภายใต้พื้นที่ที่น้อยกว่า ซึ่งเป็นการช่วยลดพื้นที่ที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีความต้านทานต่อกระแสไฟฟ้าสลับที่ต่ำและการทำงานด้วยไฟฟ้าแรงสูงอีกด้วย จึงสามารถช่วยลดการสร้างความร้อน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการชาร์จได้
  • การออกแบบภายในของ Series BiCell : การออกแบบ Series Bi-Cell ช่วยให้สามารถส่งต่อพลังงานในปริมาณเดิม แต่ลดกระแสไฟฟ้าและการสร้างความร้อนลงได้ โดยการออกแบบภายในของ Series Bi-Cell จะทำให้แนวคิดนี้สามารถก้าวขึ้นไปอีกขั้น โดยการรวม Dual Battery Cell เหล่านี้ไว้เอาในโครงสร้างเดียวกัน ซึ่งจะทำให้สามารถใช้พื้นที่น้อยลง ในขณะเดียวกันนั้น ก็ยังคงประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยเทียบเท่าเดิม โดยการออกแบบใหม่นี้ ทำให้แบตเตอรี่มีความจุเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% ทั้งที่มีขนาดเท่าเดิม
  • Battery Safety Detection Chip : Battery Safety Detection Chip ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ ออปโป้ ที่มาพร้อมกับ AI Algorithm ในตัว ซึ่งสามารถตรวจจับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวแบตเตอรี่จากภายนอก โดยการตรวจจับค่าแรงดันไฟฟ้าที่ตกลงได้แบบ Real-Time และจะดำเนินการทำงานให้เป็นไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญ ซึ่งหากพบว่าแรงดันไฟฟ้าที่ตกนั้นเกิดจากความเสียหายของแบตเตอรี่ โทรศัพท์จะทำการแจ้งเตือนผู้ใช้ และเริ่มปฏิบัติการตามมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  • Composite Current Collector : ออปโป้ ได้พัฒนาแบตเตอรี่แบบ Composite Structure Safety Battery ที่มีตัว Composite Current Collector รุ่นใหม่ โดยตัวแบตเตอรี่จะใช้วัสดุประกอบชนิดใหม่ให้ถูกประกบอยู่ตรงกลางระหว่างชั้นอะลูมิเนียม 2 ชั้นเหมือนกับแซนวิช เพื่อนำมาใช้แทนการออกแบบที่ใช้เพียงเเค่อะลูมิเนียมเท่านั้น ซึ่งพบได้ทั่วไปในการผลิตแบตเตอรี่อื่น ๆ โดยโครงสร้างแบบ “แซนวิช” นี้ จะมีการเคลือบอีกชั้นด้วยวัสดุป้องกันเพิ่มเติม เพื่อให้ได้โครงสร้าง Composite Current Collector ที่ครบทั้ง 5 ชั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับแบตเตอรี่ ด้วยการปกป้องจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สามารถเกิดจากความเสียหายภายนอก นอกจากนี้ การทดสอบในห้องปฏิบัติการของ ออปโป้ แสดงให้เห็นว่า แบตเตอรี่แบบใหม่ได้ผ่านการทดสอบการเจาะและการชนได้ด้วยอัตราความสำเร็จเป็น 100% และไม่ส่งผลในการลดทอนประสิทธิภาพ

Smart Charging : เพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็วและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพื่อความสมดุลที่สมบูรณ์แบบ

ออปโป้ ยังได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยี Smart Charging แบบใหม่ภายในงาน ด้วยการออกแบบที่ทำขึ้นเพื่อให้ความเร็วในการชาร์จอยู่ภายใต้ระยะที่ปลอดภัยที่สุด จึงทำให้เทคโนโลยีนี้ จะมีการปรับกระแสไฟที่ใช้ในการชาร์จตามระบบการตรวจจับอัจฉริยะ ให้เหมาะกับสถานการณ์ในการชาร์จต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่ผิดปกติ ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับการใช้งานแบตเตอรี่ในช่วงที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เป็นเวลานานที่สุดอีกด้วย โดย เทคโนโลยี Smart Charging สามารถส่งมอบประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของแบตเตอรี่ ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดในหลายด้าน อันประกอบไปด้วย

OPPO

  • อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่าเดิม : ในขณะที่ยังคงสามารถรับประกันความเร็วในการชาร์จของ 65W SuperVOOC และการชาร์จหรือการคายประจุแบตเตอรี่จนเต็มที่แล้ว เทคโนโลยีนี้ก็ยังสามารถรักษาความจุของแบตเตอรี่ให้อยู่ที่80% ของความจุดั้งเดิม หลังจากผ่านการใช้งานในการชาร์จมากถึง 1,500 รอบอีกด้วย
  • ความเร็วในการชาร์จตามสถานการณ์เฉพาะที่ดียิ่งขึ้น : ความเร็วในการชาร์จสามารถเพิ่มขึ้นได้ตามสถานการณ์เฉพาะ โดยจะเปลี่ยนไปตามค่ากำลังไฟฟ้าสูงสุด ณ ขณะนั้น ที่แบตเตอรี่จะสามารถรองรับได้อย่างปลอดภัย โดยในกรณีของ 65W SuperVOOC นั้น จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ประมาณ 20% ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4500mAh ให้เต็มได้ภายใน เวลาเพียง 30 นาทีเมื่อจำเป็น
  • ปรับสมดุลระหว่างความเร็วในการชาร์จ และอุณหภูมิของโทรศัพท์ : เทคโนโลยีนี้สามารถค้นหาจุดสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในการชาร์จกับอุณหภูมิเครื่องที่จะเพิ่มขึ้นตามมาภายใต้สถานการณ์การใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโทรศัพท์ในขณะที่กำลังชาร์จแบบ Flash Charging ได้โดยไม่ได้รับความรู้สึกไม่สบายใด ๆ

OPPO

Extreme Charging : แม้ในสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นที่สุด Flash Charge ก็ยังคงประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากการทำให้ VOOC Flash Charge มีความปลอดภัย และชาญฉลาดสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว ออปโป้ ยังได้ค้นคว้าวิธีการอื่น ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีการชาร์จอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่สุดขั้วมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่แบบ Lithiumion ที่สามารถทำการชาร์จได้ยากลำบากกว่าปกติ

ในสภาพเเวดล้อมที่เย็นจัด ซึ่งการฝืนชาร์จแบตเตอรี่นั้น อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ซึ่งในกรณีนี้ ออปโป้ ได้ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาการชาร์จในสถานการณ์ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติได้ โดยการใช้ Algorithm ที่มีความชาญฉลาดเพื่อกำหนดอุณหภูมิสำหรับทำการชาร์จที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวแบตเตอรี่

และทำการเพิ่มอุณหภูมิเครื่องก่อนเริ่มทำการชาร์จ ซึ่งผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า แบตเตอรี่สามารถเพิ่มอุณหภูมิจาก 20 ให้อยู่ที่ 10 ได้ในเวลาเพียง 10 วินาที เท่านั้น ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตามปกติ

จากการเปิดตัว VOOC Flash Charge ในปี ค.ศ. 2014 ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการใช้งาน ยังคงเป็น 3 ปัจจัยหลัก อันเป็นส่วนสำคัญในการวิจัย และพัฒนาของ ออปโป้ ในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการชาร์จ โดยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2021 ออปโป้ ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีการชาร์จ

อย่างรวดเร็วไปกว่า 3,000 รายการ และด้วยอุปกรณ์กว่า 30 ชนิดที่ใช้ในการรองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge นั้น ทำให้ ออปโป้ สามารถนำประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยมาสู่ผู้คนกว่า 195 ล้านคนทั่วโลก

ในปี ค.ศ. 2021 ออปโป้ ได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่ภายใต้ชื่อ The Flash Initiative โดยมีการนำเทคโนโลยี VOOC ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ออปโป้ มาใช้ในรถยนต์ พื้นที่สาธารณะ และชิปที่ใช้ภายในอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ภายในยุคของ Internet of Experience นั้น

เทคโนโลยี Flash Charge ของ ออปโป้ กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะสามารถนำประสบการณ์การชาร์จแบบใหม่ ที่ออกแบบมาให้มีความโดดเด่นในทุกสถานการณ์มาให้กับผู้ใช้งาน และทำให้ผู้คนสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้ทุกที่ ทุกเวลา

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th