rtb ปล่อยเครื่องเล่นแผ่นเสียง “Audio-Technica” 3 รุ่นใหม่ ลงตลาด

อาร์ทีบี (rtb) เปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงจากแบรนด์ Audio-Technica 3 รุ่นใหม่ ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเสียงสุดล้ำ พร้อมการเชื่อมต่อครบครันลงตลาด…

rtb ปล่อยเครื่องเล่นแผ่นเสียง “Audio–Technica” 3 รุ่นใหม่ ลงตลาด

อาร์ทีบี ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เสริมภายใต้แบรนด์ ออดิโอ เทคนิก้า (Audio-Technica) รับเทรนด์เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่กลับมาคึกคัก ด้วยการเปิดตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียง 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ AT–LP60XUSB, AT–LP60XBT และ AT–SB2022

โดยทั้ง 3 รุ่น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีเสียงอันทรงพลัง รวมถึงการออกแบบให้ใช้งานง่าย พร้อมการเชื่อมต่อที่ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

โดย AT–LP60XUSB เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบ Belt–Drive อัตโนมัติ ที่จะช่วยให้คอเพลงดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีที่คมชัดยิ่งกว่าเดิม มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบอนาล็อก และ USB นอกจากนี้ยังมาพร้อมสายต่อแบบ RCA และสาย USB ที่ให้คนรักเสียงเพลงสามารถเชื่อมต่อ

โดยตรงกับลำโพง คอมพิวเตอร์ และเครื่องเสียงอื่น ๆ เพื่อให้เสียงออกมาในรูปแบบสเตอริโอ ทั้งยังสามารถบันทึกเสียงจากแผ่นเสียงให้เป็นไฟล์ดิจิตอลคุณภาพสูงเอาไว้ฟังในเครื่องเล่นแบบพกพาได้อย่างง่ายดายผ่านโปรแกรม Audacity ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมแขนจับหัวเข็ม (Tonearm) และหัวเข็มคุณภาพ Dual Magnet

ที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ เพื่อช่วยลดเสียงสะท้อน ทำให้เสียงมีความคมชัดยิ่งขึ้น รวมถึงปุ่มปรับระดับความเร็วในการเล่นแผ่นเสียง 2 ระดับ คือ 33–1/3 และ 45 รอบต่อนาที ที่สามารถเลือกได้ตามความต้องการ อีกทั้งแอมป์ Phono ในตัวเครื่องยังรองรับการเชื่อมต่อทั้งลำโพงทั่วไปได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่ระบบแอมป์ขยายเสียงจะทำให้คุณสามารถ Mix & Match เสียงเพลงได้ตามใจชอบในสไตล์คุณอีกด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมฝาครอบกันฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ โดย AT–LP60XUSB มีให้เลือก 2 สี คือ Black และ Gun Metal พร้อมวางจำหน่ายในราคา 7,500 บาท

ส่วน AT–LP60XBT  เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ต่อยอดจากรุ่น AT–LP60X ซึ่งเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงสเตอริโอแบบ Belt–Drive อัตโนมัติชนิดไร้สายและสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบอนาล็อก และ USB อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับลำโพง คอมพิวเตอร์ และเครื่องเสียงชนิดอื่น ๆ

เพื่อให้เสียงออกมาในรูปแบบสเตอริโอ ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้จานหมุนที่ผลิตจากอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป ทำให้มีน้ำหนักเบาและหมุนได้ไม่สะดุด AT–LP60XBT ยังคงรักษาคุณภาพเสียงสุดคมชัดที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ

เพื่อให้คอเพลงสามารถเชื่อมต่อกับลำโพง หรือหูฟังไร้สายได้คล่องตัวมากขึ้น โดยสามารถเลือกตามความต้องการ มาพร้อมฝาครอบกันฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ โดย AT–LP60XBT มีให้เลือก 2 สีคือ Black และ White พร้อมวางจำหน่ายในราคา 8,900 บาท

ในขณะที่เครื่องเล่นแผ่นเสียง รุ่น AT–SB2022 Sound Burger  รุ่น Limited Edition ที่ผลิตเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 60 ปี โดยมีการผลิตในจำนวนจำกัด ทั้งยังเป็นที่หมายตาของนักสะสม และคนในแวดวงเครื่องเล่นแผ่นเสียงและจากแฟน ออดิโอ เทคนิก้า เป็นอย่างมาก 

ด้วยการออกแบบให้มีรูปทรงอันทันสมัย มีสไตล์ ไม่เหมือนใคร พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ และสายชาร์จแบบ USB–C ยิ่งไปกว่านั้นตัวเครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการพกพาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น งานปาร์ตี้ การออกไปปิคนิค หรือการใช้งานในพื้นที่ที่มีขนาดกะทัดรัด

ยิ่งไปกว่านั้นยังให้เสียงที่มีคุณภาพสูงด้วยระบบสายพานที่สามารถปรับความเร็วได้ 2 ระดับ คือ 33-⅓ RPM และ 45 RPM สามารถใช้งานแบบไร้สายได้นานถึง 12 ชั่วโมง ด้วยการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ

หรือจะเลือกเพลิดเพลินกับประสบการณ์การฟังโดยใช้สายที่ให้มาก็ได้เช่นกัน พร้อมให้คุณสนุกกับการฟังเพลงได้แบบไม่มีสะดุด โดย AT–SB2022 Sound Burger มีให้เลือก 1 สี คือ Red ในราคา 9,500 บาท

สำหรับคนรักแผ่นเสียงเพลงคุณภาพ สามารถหาซื้อ และสัมผัสประสบการณ์ฟังเพลงสุดคมชัดจากสุดยอดนวัตกรรม AT–LPX60XUSB, AT–LP60XBT และ AT–SB2022 รุ่น Limited Edition จากแบรนด์ ออดิโอ เทคนิก้า ได้แล้ววันนี้ที่ ProGadgets, Chiva Record, We Love Turntable, SoundProof Brothers,

Hall of Frame, Banana, Fullbright Technology, Power Mall, AV Value, Pro Pugin, Siam Discovery, Suansiang, Mercular, Official Shopee และ Lazada หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเพจ Facebook : Audio-Technica Thailand

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th