ล้ำหน้ามากขึ้น!!! เมื่อที่พักอาศัยสามารถควบคุมได้ด้วยเทคโนโลยี ล่าสุด แสนสิริ (Sansiri)ได้ออกมาเปิดเผยโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และทวีวัฒนา ที่ได้พัฒนาสู่การเป็น “บ้านอัจฉริยะ” (Smart Home) หลังพัฒนา ให้สามารถควบคุมสั่งงานบ้านทั้งหลังด้วยเสียงผ่าน Google Assistant พร้อมขายปี 63…
highlight
- แสนสิริ และ สิริ เวนเจอร์ส เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดตัว “Sansiri Smart Home” สั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะประจำบ้าน เชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮมและเทคโนโลยี AI และ IoT
- เชื่อจะช่วยทำให้แสนสิริก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวและ Top 3 ในตลาดทาวน์เฮาส์ใน 3 ปี พร้อมเปิดให้เข้าสัมผัสความก้าวล้ำแห่งอนาคตที่โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และทวีวัฒนา ได้แล้ววันนี้! วางแผนระยะยาวตั้งเป้าต่อยอด Context-Aware Smart Home แห่งแรกของประเทศไทย
Sansiri โชว์นวัตกรรม Smart Home ใน 2 โครงการใหม่ เชื่อทำให้ชีวิตผู้พักสะดวกมากขึ้น!!
สมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบายและลดภาระเล็กน้อย เพื่อจะได้มีเวลาทำงานสำคัญ ด้วยการหันมาพึ่งเทคโนโลยีในการใช้ชีวิต ซึ่งจากงานวิจัย “เจาะลึกอินไซต์…พิชิตใจคนขี้เกียจ“ (Lazy Consumer) ที่ได้จัดทำโดย
คณะวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) พบว่า ในอนาคตเรื่อของเทคโนโลยี Automation & Hands-Free เป็น 1 ใน 5 ธุรกิจ หรือสินค้าครองใจคนรักสบาย ซึ่งแสนสิริในฐานะผู้สร้างที่พักอาศัยชั้นนำของประเทศไทยเอง ก็มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการเติมเต็มไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยให้กับลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเข้าไปเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง
อย่างเช่นทุกวันนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลที่ผ่านมาเราได้เดินหน้าในการสร้าง Eco System ที่จะสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้พักอาศัยในโครงการต่าง ๆ ของ แสนสิริ ไ่ว่าจะเป็นคอนโดมีเนียม หรือบ้านหลัง มาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงก่อนหน้านี้เราได้สร้างศูนย์ในการเฝ้าระวังความปลอดภัย LIV-24 ที่ให้บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง
ซึ่งช่วยให้ผุ้พักอาศัยของเราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกังวล แม้ว่าจะออกไปที่ใดก็สามารถตรวจสอบความเรียบร้อยของที่พักได้ แต่เราก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนา และยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้บริการแก่ผู้พักอาศัยของแสนสิริ ผ่านความร่วมมือกับ สิริ เวนเจอร์ส บริษัทร่วมทุนด้าน PropTech อย่างครบวงจร
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์แนวราบเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวและ Top 3 ในตลาดทาวน์เฮาส์ใน 3 ปี ตอกย้ำการสร้างจุดเด่นและฟังก์ชั่นที่แตกต่างฉีกกรอบเดิม ๆ ด้วย Sansiri Smart Home สั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant ที่สามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยี AI และ IoT
ทั้งภายใน และรอบตัวบ้าน และนำเสนอการอยู่อาศัยแบบ Smart Living อย่างเต็มรูปแบบ ในโชว์เคส 2 แห่ง ที่โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และทวีวัฒนา
“โดยโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และ ทวีวัฒนา เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นและเป็นโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน Home Automation ที่สามารถควบคุมผ่าน Sansiri Home Service Application มาผสมผสานกับ Google Assistant ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักในการสั่งการด้วยเสียง ร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ผ่านสปีคเกอร์และดิสเพลย์ในแต่ละจุดของบ้าน” นายสมเกียรติ กล่าว
เทคโนโลยีสมาร์ท ที่ไม่ได้บังคับลูกบ้านใช้
จิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (Siri Ventures) กล่าวเสริมว่า ในเฟสแรก แสนสิริและสิริ เวนเจอร์สประสบความสำเร็จในการพัฒนา Sansiri Smart Home โดยเลือกใช้ Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะประจำบ้านเป็นแพลตฟอร์มหลักในการสั่งการด้วยเสียงกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่
- เอนเตอร์เทนเมนต์ ส่งมอบสุดยอดความบันเทิง สั่งงานด้วยเสียงเพื่อเปิด-ปิด ควบคุมและปรับระดับเสียงเพลงและทีวีภายในบ้าน
- ความสะดวกสบาย นำเสนอมิติใหม่แห่งการสั่งงานด้วยเสียง ตั้งค่าเพื่อควบคุมหลายอุปกรณ์ในคำสั่งเดียว
- ความปลอดภัย เรียกดูกล้องวงจรปิด CCTV จากโรงรถและริมรั้ว เพื่อแสดงผลบนจอดิสเพลย์ ยกระดับความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัยไปอีกขั้น
- การประหยัดพลังงาน ติดตั้งระบบเปิด-ปิด และปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในบ้านเพื่อการประหยัดพลังงานแบบอัตโนมัติ
นอกเหนือจากการสั่งงานด้วยเสียงแสนสิริ Smart Home ยังสามารถทำงานแบบอัตโนมัติผ่านระบบเซ็นเซอร์ เช่น การตรวจวัดการนอน และการตรวจจับการล้ม (Fall Detection) ตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุ ซึ่งในอนาคตอันใกล้ของภาพรวมตลาดเทคโนโลยีระดับโลก
จะได้เห็นบทบาทการทำงานของเทคโนโลยี Context-Aware Computing ที่จะคอยใส่ใจ (Aware) บริบทหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ (Context) เพื่อนำไปใช้ในการประมวลผล (Computing) หาคำตอบหรือตอบสนองล่วงหน้าให้กับผู้ใช้ในเฟสต่อไป โดยเราวางแผนต่อยอดการศึกษาวิจัยสู่การพัฒนา Context-Aware Smart Home บ้านอัจฉริยะที่ลดการสั่งการด้วยเสียง
หรือผ่านแอป แต่จะก้าวล้ำยิ่งกว่าด้วยความสามารถในการปรับฟีเจอร์แบบอัตโนมัติให้ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม พฤติกรรมหรือบริบทของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการทำงานร่วมกันของระบบ Sensor, Big Data, Algorithm, AI และ IoT ซึ่งเราวางแผนต่อยอดความสำเร็จจากเสียงตอบรับของลูกค้าในการเยี่ยมชม Sansiri Smart Home ทั้ง 2 โชว์เคส เพื่อพัฒนาโปรดักส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงต่อไป พร้อมวางแผนเพิ่มเป็นแพ็คเกจ Add-On
“สำหรับลูกค้าที่สนใจในราคาเริ่มต้น 300,000 บาท ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นไป มุ่งเปิดประสบการณใหม่ของการอยู่อาศัยแบบ Smart Living ที่มาพร้อมกับความก้าวล้ำแห่งอนาคตให้กับลูกบ้านแสนสิริ” นายสมเกียรติ กล่าว
แน่นอนว่าไม่ใช่เป้นการบังคับใช้แต่อย่างใด ลูกบ้านของเราจะใช้เทคโนดลยีดังกล่าว หรือไม่ใช้ก็ได้ตามความสะดวก หากลูกบ้านต้องการที่จะใช้ในบางพื้นที่ก็สามารถทำได้ และหากในอนาคตเทคโนโลยี 5G สามารถให้บริการได้ เราเชื่อว่าก็จะสามารถพัฒนาให้บ้านในโครงการต่าง ๆ ของแสนสิริ ก้าวล้ำไปได้อีกขึ้น
เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์โครงข่ายไวไฟ (wi-fi) เพียงอย่างเดียวแต่สามารถใช้โครงข่าย 5G ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th