เซนไฮเซอร์ เผยโฉม หูฟังอินเอียร์ รุ่น Sennheiser IE 900 ชูจุดเด่น เก็บทุกรายละเอียดของการฟัง เพื่อมอบประสบการณ์การฟังเพลงอย่างไร้ที่ติ…
Sennheiser IE 900 หูฟังอินเอียร์ ที่เก็บทุกรายละเอียดของการฟัง
เซนไฮเซอร์ เปิดตัวหูฟัง IE 900 รุ่นใหม่ เพื่อเหล่าออดิโอไฟล์หรือผู้พิ
ได้รับการออกแบบในทุกๆ ด้านให้ทำงานสอดประสานกันเพื่
ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถสร้
ระบบดูดซับเสียงแบบ Triple–chamber อันเป็นเอกลักษณ์
การเสาะแสวงหาของเซนไฮเซอร์เพื่อมอบความเที่ยงตรงอย่างสูงสุดของเสียง เริ่มต้นด้วยตัวเรือนของหูฟังรุ่น IE 900 ซึ่งผลิตจากอะลูมิเนียมบล็อกเดียว เพื่อสร้างระบบดูดซับเสียงแบบ Triple–chamber (T3CA) อันเป็นเอกลักษณ์
เดิมทีเป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับรุ่น IE 800 ที่ได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ หูฟังรุ่น IE 900 มาพร้อมระบบดูดซับเสียงรุ่นใหม่กว่าที่ได้รับการจดสิทธิบัตรรับรอง ซึ่งใช้แชมเบอร์ดูดซับเสียงสามช่อง และการตัดช่องอะคูสติกวอร์เท็กซ์ในส่วนปลายเพื่อต้านเสียงสะท้อน
ปรากฏการณ์เสียงอะคูสติกนี้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากหูของมนุษย์ไม่สามารถรับรู้เสียงความถี่สูงในระดับเสียงต่ำได้ หากมีเสียงที่ดังกว่าในช่วงความถี่ต่ำเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ด้วยการขจัดพลังงานจากการกลบเสียงสะท้อน ระบบดูดซับเสียงจะป้องกันจุดสูงสุดที่ไม่ต้องการ สร้างความแตกต่างอันชัดเจนที่สุดให้กับเสียงที่ได้ยิน
ยืนหนึ่งด้านคุณภาพเสียง แม่นยำทุกกระบวนการผลิต
นอกจากนี้ เทคโนโลยีไดรเวอร์แบบเดี่ยว (Single-driver) ยังส่งมอบประสบการณ์การรับฟังที่คมชัดและแม่นยำมากยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีมัลติไดรเวอร์ (Multi-driver) แบบดั้งเดิม โดยหูฟังรุ่น IE 900 ได้ติดตั้งตัวแปลงสัญญาณ X3R ใหม่ล่าสุดจากเซนไฮเซอร์
ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงตัวแปลงสัญญาณ Extra Wide Band ขนาด 7 มม. ของผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง ที่ออกแบบมาเพื่อเก็บรายละเอียดเสียงได้อย่างแม่นยำและคมชัด นอกจากนี้ ตัวแปลงสัญญานของหูฟังรุ่น IE 900 ยังมาพร้อมระบบเสียงด้านหลังที่ได้รับการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ
ในสำนักงานใหญ่ของเซนไฮเซอร์ ณ ประเทศเยอรมนี สามารถลดโอกาสของตัวแปรภายนอกที่จะส่งผลต่อไดนามิกไดรเวอร์แต่ละชิ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ หูฟังรุ่น IE 900 ได้รับการออกแบบ คิดค้น และผลิตโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของเซนไฮเซอร์ในเมืองเวเดะมาร์ค ประเทศเยอรมนี ตามมาตรฐานการผลิตสูงสุดในอุตสาหกรรมเครื่องเสียง
ด้วยตัวเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยประสิทธิภาพสูงและได้รับการเจียระไนอย่างแม่นยำ จึงช่วยคงสภาพและรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้อยู่ได้นาน ผลิตผ่านกล้องที่มีความแม่นยำจึงช่วยตรวจสอบส่วนประกอบของตัวแปลงสัญญาณทุกชิ้นส่วนได้อย่างใกล้ชิดระหว่างกระบวนการผลิต
รวมถึงมีการทดสอบคุณภาพของตัวแปลงสัญญาณก่อนและหลังการเชื่อมต่อทุกครั้ง นอกจากนี้ หูฟังด้านซ้ายและด้านขวาได้รับการคัดสรรและจับคู่ด้วยฝีมืออย่างพิถีพิถัน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานร่วมกัน ด้วยน้ำหนักที่เบาและมีความยืดหยุ่นสูง ตัวแปลงสัญญาณจากผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงช่วยป้องกันเสียงผิดเพี้ยน
มอบคุณภาพเสียงที่เป็นธรรมชาติ สมดุล และโปร่งใสได้ในทุกระดับความดังของเสียง นอกจากนี้ ยังมีแผ่นบุฟอยล์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ให้ดูดซับเสียงภายในได้อย่างดีเยี่ยม
รวมถึงช่วยลดเสียงสะท้อนและเสียงเพี้ยนตามธรรมชาติ (THD : 0.05% ที่ 94 เดซิเบล 1 กิโลเฮิรตซ์) ด้วยการตอบสนองความถี่ที่ 5-48,000 เฮิรตซ์ ของหูฟังรุ่น IE 900 ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสถึงแม้กระทั่งเสียงที่ละเอียดอ่อนที่สุดในเพลงได้
มอบความสะดวกสบายระดับสูงสุด
ด้วยตัวเชื่อมต่อ Fidelity Plus MMCX ประสิทธิภาพสูง ผู้ฟังจะได้รับอิสระในการเลือกใช้สายเคเบิลกับหูฟังรุ่น IE 900 โดยการผสานเข้ากับตัวเครื่องที่ลึกขึ้น จะทำให้มีเสถียรภาพที่ดีขึ้นสำหรับขั้วต่อเคลือบทอง ทั้งนี้ หูฟังยังมาพร้อมกับสายสัญญาณแบบ Unbalanced พร้อมขั้วต่อขนาด 3.5 มม.
และสายสัญญาณแบบ Balanced พร้อมขั้วต่อขนาด 2.5 มม. และ 4.4 มม. ที่ สายเคเบิลที่เสริมด้วยเส้นใยพาราอะรามีด (Para-aramid) ผ่านการทดสอบ และปรับปรุงเพื่อความทนทาน และอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้นมีความทนทานต่อรอบการดัดกว่าหลายพันครั้ง และเพื่อความสบาย และปลอดภัย
หูฟังรุ่น IE 900 มีคุณสมบัติพิเศษตามหลักสรีรศาสตร์ เช่น สายหูฟังที่สามารถปรับได้ รวมถึงอะแดปเตอร์ซิลิโคนและเมมโมรี่โฟมถึงสามขนาด จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างความเพลิดเพลินจากเสียงเพลงเป็นระยะเวลานาน
หูฟังเซนไฮเซอร์ รุ่น IE 900 จะเปิดตัวเป็นช่วงระยะ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 โดยจะวางจำหน่ายในประเทศสิงคโปร์ในราคา 1,999 เหรียญสิงคโปร์ (ราว 46,910 บาท) ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th