ช้อปปี้ (Shopee) ออโต้บอท (Autobot) ไขกุญแจแห่งความสำเร็จของ “ออโต้บอท” พาธุรกิจโตฝ่าวิกฤตโควิด สร้างปรากฏการณ์นิวไฮ ปั้นยอดขายโตทะลุเป้า…
highlight
- ออโต้บอท (Autobot) แบรนด์หุ่นยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าผสานนวัตกรรมอัจริยะยอดนิยม โชว์ผลงานดันธุรกิจโตสวนกระแสเศรษฐกิจ หลังประสบความสำเร็จกวาดยอดขายโตเกือบเท่าตัว จากแคมเปญ ช้อปปี้ 6.6 Greatest Brands Celebration พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเต็มสูบ เตรียมเร่งเครื่องยกระดับความร่วมมือกับพันธมิตรอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง ช้อปปี้ เสริมแกร่งและสร้างความคล่องตัวในการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอลได้อย่างยั่งยืน พร้อมสู้ศึกในสมรภูมิอีคอมเมิร์ซเดือดช่วงปลายปีนี้ คาดยอดขายจากช่องทางออนไลน์โต 100% จากปีที่ผ่านมาภายในสิ้นปีนี้ตามเป้า
Shopee x Autobot ไขกุญแจแห่งความสำเร็จของ “ออโต้บอท” ปั้นยอดขายโตทะลุเป้า
ธรรมสร มีรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรบอท เมคเกอร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ ออโต้บอท (Autobot) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความกังวลในการจับจ่าย
รวมถึงยังไม่มั่นใจที่จะออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน เป็นผลให้การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นหนึ่งในช่องทางการจับจ่ายที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และด้วยแผนในการเดินหน้าสู่การเป็น Tech Company ของออโต้บอท ทำให้เราสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที
ผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและสมาร์ทโฟนเข้ามาปรับกลยุทธ์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของบริษัท ซึ่งในปีที่ผ่านมา 80% ของยอดขายทั้งหมดของออโต้บอทนั้นมาจากยอดขายออนไลน์ โดยสัดส่วน 40% มาจากยอดขายผ่าน ช้อปปี้ มอลล์ ทั้งสิ้น
ในขณะเดียวกันออโต้บอทก็ยังคงมุ่งหน้ามองหาโอกาส และสร้างการเติบโตบนช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้ประสบความสำเร็จสูงสุดในแคมเปญ ช้อปปี้ 6.6 Greatest Brands Celebration ในหลากมิติทั้งยอดขาย จำนวนฐานลูกค้า
รวมไปถึงการสร้างเอนเกจเมนท์ร่วมกับผู้บริโภคผ่านกิจกรรมและแคมเปญเอ็กซ์คลูซีฟอีกมากมาย โดยความสำเร็จดังกล่าวส่วนหนึ่งเกิดจากการให้ความสำคัญกับเทรนด์ธุรกิจ รวมถึงความเข้าใจในพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค จึงทำให้แบรนด์สามารถดำเนินกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และรวดเร็ว
ซึ่งต้องยอมรับว่าเทคโนโลยี และสมาร์ทโฟนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดที่ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายซื้อสินค้าของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกว่าที่คาด

เข้าใจ Consumer Journey เพื่อออกแบบประสบการณ์ดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ
ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญ เนื่องจากเส้นทางของผู้บริโภค หรือ Consumer Journey ได้เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่ลูกค้าเคยชินกับการเลือกสินค้าจากหน้าร้านและซื้อกลับบ้าน กลายเป็นผู้บริโภคสามารถเลือกดูสินค้าจากที่ไหน หรือเวลาไหนก็ได้ ผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน กดสั่งซื้อแล้วรอรับสินค้าที่บ้าน
ดังนั้นในแต่ละช่วงเวลาของผู้บริโภคตั้งแต่การค้นหาสินค้า การให้ข้อมูลและรายละเอียดโปรโมชัน กดสินค้าใส่ตระกร้า การชำระเงิน การขนส่งสินค้า รวมถึงบริการหลังการขาย แบรนด์จำเป็นต้องออกแบบ
โดยคำนึงถึงประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคอย่างถี่ถ้วน เพื่อรักษาลูกค้าให้ยังคงอยู่ในเส้นทาง และเกิดเป็น Micro–Moments ตลอดจนความสัมพันธ์ในระยะยาวในท้ายที่สุด
“การมีพันธมิตรที่มีความรู้ และความเข้าใจจึงมีความสำคัญอย่างมาก ออโต้บอทได้ประกาศเป็นพันธมิตรร่วมกับ ช้อปปี้ และเปิดร้านออฟฟิเชียลสโตร์บน ช้อปปี้ มอลล์ ในปี 2560 ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นตัวเร่งสำคัญที่เข้ามาช่วยให้การดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นของแบรนด์เป็นได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม
ด้วยการสนับสนุนตั้งแต่การตั้งร้าน การวางสินค้าเพื่อจัดจำหน่าย การบูรณาการผู้ให้บริการจัดส่งสินค้า ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย อินไซต์ของนักช้อป ไปจนถึงเครื่องมือทางการตลาดอย่าง ช้อปปี้ Brand Suite ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการเข้าถึงฐานนักช้อป
ช่วยสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ และช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ” ธรรมสร มีรัตน์ กล่าว
ไม่เพียงเท่านี้ ออโต้บอทยังได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับช้อปปี้ในการจัดแคมเปญการตลาดบนออนไลน์ที่สร้างสรรค์อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดีลและโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดับเบิ้ลเดทแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็นโปรส่งฟรี โค้ดส่วนลดเพิ่มเติม โค้ดเงินคืนในรูปแบบ ช้อปปี้ คอยน์ ไปจนถึงเอ็กซ์คลูซีฟคอลาบอเรชัน
ในการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่บนช้อปปี้ เป็นที่แรก เพื่อยกระดับประสบการณ์ และความพิเศษให้แก่เหล่านักช้อปบน ช้อปปี้ มอลล์ ประกอบกับความแข็งแกร่งของ ช้อปปี้ มอลล์ ที่โดดเด่นในฐานะห้างสรรพสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย
จึงช่วยสร้างความอุ่นใจ และเพิ่มแต้มต่อให้ออโต้บอทสามารถกระตุ้นให้นักช้อปไว้วางใจที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้าที่มีมูลค่าอย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ปรากฏการณ์นิวไฮ ในแคมเปญ ช้อปปี้ 6.6 Greatest Brands Celebration
ล่าสุดในแคมเปญ ช้อปปี้ 6.6 Greatest Brands Celebration ที่ผ่านมา ออโต้บอทได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งดีล และโปรโมชัน พร้อมความพิเศษต่าง ๆ มากมายให้กับนักช้อปชาวไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองความสำเร็จของ ช้อปปี้ มอลล์ ไม่ว่าจะเป็น ส่วนลดสูงสุด 60% โค้ดรับเงินคืนสูงสุด 15% และกิจกรรมใน Spin & Win
บน ช้อปปี้ เกมส์ ส่งผลให้ออโต้บอทประสบความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเป็นขึ้นเป็นหนึ่งในท๊อปแบรนด์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นบน ช้อปปี้ มอลล์ พร้อมสร้างสถิตินิวไฮด้านยอดขายที่เติบโตกว่าเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ และเพื่อเป็นการสานต่อจากความสำเร็จในครั้งนี้
ออโต้บอทวางแผนรุกตลาดออนไลน์ร่วมกับช้อปปี้อย่างต่อเนื่องภายใต้แผนความร่วมมือทางธุรกิจ (Joint Business Plan) ซึ่งทั้งสองพันธมิตรจะทำงานร่วมกันทั้งในแง่ของการวางกลยุทธ์ แบ่งปันองค์ความรู้ รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ควบคู่กับการจัดแคมเปญการตลาดที่สร้างสรรค์และมีความเอ็กซ์คลูซีฟ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมหกรรมอีคอมเมิร์ซในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 พร้อมเตรียมอัดโปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงดับเบิ้ลเดทแคมเปญ เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม AIoT ชั้นนำ
รวมไปถึงจัดกิจกรรมผ่านโคแบรนด์คอลาบอเรชัน (Co-branded Collaboration) สุดพิเศษเพื่อสร้างสีสัน และความน่าตื่นเต้นให้กับตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในช่วงที่การแข่งขันของตลาดออนไลน์มีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
“ภาพรวมของตลาดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นในปีนี้คาดการณ์ว่าจะขยายตัวอยู่ที่ราว 20% เนื่องจากกระแสการทำงานจากที่บ้านที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยออโต้บอทเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตแซงหน้าตลาด อันจะเห็นได้จากความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ในช่วงแคมเปญ ช้อปปี้ 6.6 Greatest Brands Celebration
ประกอบกับแผนความร่วมมือทางธุรกิจกับช้อปปี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมหกรรมอีคอมเมิร์ซช่วงปลายปี ที่มีการคาดการณ์ว่าการแข่งขันจะทวีความดุเดือดขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา
ซึ่งออโต้บอทมีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้บริโภค พร้อมสร้างการเติบโตด้านยอดขายบนช่องทางออนไลน์ที่ 100% ภายในสิ้นปี 2564 นี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน” ธรรมสร กล่าว
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th