Synology แนะองค์กรปรับเกม ด้วย 4 โซลูชัน เพิ่มความปลอดภัยในยุคดิจิทัล

Synology

ซินโนโลจี้ (Synology) เผยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ พุ่ง 22% ต่อสัปดาห์ ข้อมูลรั่วไหล 81% แนะองค์กรปรับเกม เปิด 4 โซลูชัน เพิ่มความปลอดภัยในยุคดิจิทัล…

highlight

  • ซินโนโลจี้ เผย 2 เทรนด์สำคัญ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างรวดเร็วในปี 2024 เทรนด์แรก เรียกค่าไถ่ (Ransomware) พุ่งสูงอัตราการโจมตีสูงถึง 22% ต่อสัปดาห์ และ 71% ขององค์กรที่ถูกโจมตีไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้สมบูรณ์ ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ เผชิญความเสียหายอย่างมหาศาล เทรนด์ที่สอง องค์กรทั่วโลกหันมาใช้ระบบ On-premise Productivity Tools ใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ตนเอง หลังองค์กรทั่วโลกพบปัญหาข้อมูลรั่วไหลถึง 81% 
  • ล่าสุด ซินโนโลจี้ เปิดตัว 4 โซลูชันใหม่ ในปี 2024 ออกแบบเพื่อการจัดเก็บ และปกป้องข้อมูลอย่างครบวงจร นำ AI เข้ามาช่วยยกระดับการจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัลอย่างตรงจุด หลังประสบความสำเร็จในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเติบโตถึง 150% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คาดปีนี้มีมูลค่ากว่า 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดในไทยซึ่งมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบาย Digital Transformation ของภาครัฐ และการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระตุ้นความต้องการโซลูชันด้านความปลอดภัยข้อมูลเพิ่มขึ้น

Synology แนะองค์กรปรับเกมจัดเก็บ และปกป้องข้อมูล ด้วย 4 โซลูชัน เพิ่มความปลอดภัยในยุคดิจิทัล

Synology
ธัชวรรณ ชินชนากานต์ ผู้จัดการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาค บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology)

ธัชวรรณ ชินชนากานต์ ผู้จัดการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาค บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) กล่าวว่า ปัจจุบันมี 2 เทรนด์สำคัญ ที่กำลังมีอิทธิพลต่อองค์กรทั่วโลก ได้แก่ เทรนด์แรก มัลแวร์เรียกค่าไถ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (Ransomware Protection) การโจมตีทางไซเบอร์

โดยเฉพาะ Ransomware ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก มีอัตราการโจมตีเฉลี่ยต่อองค์กรเพิ่มขึ้นถึง 22% ต่อสัปดาห์ ทำให้องค์กรใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนในการกู้คืนข้อมูล แม้องค์กรที่ยอมจ่ายค่าไถ่ก็ไม่สามารถรับประกันการกู้คืนข้อมูลได้ทั้งหมด

จากสถิติพบว่า 71% ขององค์กรที่ถูกโจมตีไม่สามารถกู้คืนข้อมูลได้สมบูรณ์ ทำให้การมีระบบปกป้องข้อมูลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ กลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ เทรนด์ที่สอง องค์กรทั่วโลกหันมาใช้ระบบ On-premise Productivity Tools

ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือ หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กร ซึ่งถูกติดตั้งและใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ หรือคอมพิวเตอร์ภายในองค์กรเองร่วมกับ Cloud SaaS แทนการใช้ออนไลน์ผ่านคลาวด์ (cloud-based services) เพียงอย่างเดียว

เพื่อการปกป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้มากขึ้น จากรายงานจาก Varonis ระบุว่า 81% ขององค์กรในปี 2022 ประสบปัญหาข้อมูลรั่วไหล การใช้ On-premise Productivity Tools ช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างละเอียด และยังช่วยลดต้นทุนการจัดการข้อมูลในระยะยาว 

Synology

ทั้งนี้ ในยุคดิจิทัลองค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล การจัดการทรัพยากรด้านไอที และความต้องการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการนำ AI มาเป็นตัวเสริมศักยภาพการทำงานของทีมและองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมทั้งเป็นเกราะป้องกันความปลอดภัยที่สูงขึ้น โซลูชันใหม่จาก ซินโนโลจี้ จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่ต้องการขยายศักยภาพในการปกป้องข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ และการนำเทคโนโลยี AI มาใช้

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง บริษัทจึงได้จัดงาน ซินโนโลจี้ เดย์ 2024 เพื่อเปิดตัวโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์องค์กรทั้งภาคเอกชน และภาครัฐในยุคนี้ และอนาคต

โดยโซลูชันไฮไลท์ปี 2024 ประกอบด้วย

Synology
รหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology)

รหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท ซินโนโลจี้ จำกัด (Synology) กล่าวว่า ไซโนโลจี้ ได้นำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดที่เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลของธุรกิจในองค์กรทุกระดับ และสนับสนุนการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลอย่างครบถ้วน โดยเป็นโซลูชันครอบคลุมทั้งการจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะ

การปกป้องข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย รวมถึงระบบบริหารจัดการการเตือนภัยอัจฉริยะสำหรับองค์กรภาครัฐ และเอกชน ไฮไลท์สำคัญของงานในปีนี้คือการนำเสนอเทคโนโลยี ActiveProtect สำหรับการปกป้องข้อมูลธุรกิจที่ปรับขนาดได้ จัดการง่าย และปลอดภัย

อีกทั้งยังมีการนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว และความสะดวกในการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับ ไซโนโลจี้ ออฟฟิศ สูท ก็จะสามารถช่วยให้องค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโซลูชันที่ ไซโนโลจี้ ได้นำมาเสนอภายในงาน ซินโนโลจี้ เดย์ 2024 ได้แก่

โซลูชัน การจัดเก็บ และการจัดการข้อมูล (Data Storage and Management)

Scaleout solution : โซลูชันการจัดเก็บ และจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ รองรับการขยายได้ถึง 96 โหนด และรองรับทั้ง File Storage และ Object Storage แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาให้ทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่มีสะดุด พร้อมการรองรับ Synology Drive และ Office ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพในยุคที่ข้อมูลเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

โซลูชันป้องกันข้อมูล (Data Protection)

Active Protect Appliances : ช่วยให้การปกป้องข้อมูลง่ายขึ้น รองรับการปกป้องเซิร์ฟเวอร์ได้มากถึง 2,500 เครื่อง ในหลายไซต์ทั่วโลก ด้วยนโยบายการเก็บรักษาข้อมูลที่ครอบคลุม พร้อมระบบสำรองข้อมูลที่ช่วยลดการทำข้อมูลซ้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการสำรองข้อมูล

Synology

โซลูชันระบบบริหารจัดการเฝ้าระวัง และเตือนภัยครบวงจร (Surveillance)

Surveillance Station : ระบบช่วยให้การจัดการระบบเฝ้าระวังในหลายสถานที่เป็นเรื่องง่ายขึ้นจากศูนย์ควบคุมเดียว โดยมีระบบ Centralized Management System (CMS) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการภาพจากกล้องในหลายเซิร์ฟเวอร์ได้ผ่านพอร์ทัลเดียว พร้อมกับ AI Feature ที่จะช่วยให้การเฝ้าระวังทรัพย์สินของคุณ

ปลอดภัยยิ่งขึ้น ในงานนี้ยังมีการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ ทั้ง FC600 เป็นกล้องมุมกว้าง 360 องศา, BC800Z กล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านเมกะพิกเซล สามารถถ่ายภาพได้ในความละเอียด 4K และมีฟีเจอร์ AI เช่น การตรวจจับป้ายทะเบียนรถ

เพื่อช่วยในการจัดการที่จอดรถ CC400W กล้อง Wi-Fi ที่ง่ายต่อการใช้งาน รวมไปถึงกล้อง Direct to Cloud ใหม่ล่าสุดเช่น CS500B, CS400W และ CS500T ที่ถูกพัฒนา เพื่อลดความซับซ้อนในการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ ช่วยให้การตั้งค่า และการใช้งานระบบเฝ้าระวังง่ายขึ้น

Productivity with AI

Synology Office Suite : โซลูชันการทำงานร่วมกันแบบครบวงจรที่รวมเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Synology Drive, Synology Office, MailPlus, และ Chat ซึ่งผสานรวมกับ AI Console เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทีมภายในองค์กรที่สามารถใช้งานได้แบบ on-premise

โดย Synology Office Suite นี้จะช่วยให้การทำงานร่วมกันและการสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น และให้ความปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพบน Private cloud ที่องค์กรเป็นเจ้าของข้อมูล 100% ที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่าตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) เติบโตขึ้น 150% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  

จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และโซลูชันที่ตอบโจทย์ตลาด โดยผลิตภัณฑ์ NAS/SAN ของ ซินโนโลจี้ มีความยืดหยุ่น และขยายได้สูง เหมาะสำหรับองค์กรทุกขนาด ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ ภาครัฐ และการศึกษา โซลูชันการปกป้องข้อมูลอย่าง Active Backup

ยังช่วยปกป้องอุปกรณ์กว่า 20 ล้านรายการ และ Surveillance Station ที่ช่วยดูแลปกป้องสถานที่ต่าง ๆ กว่า 500,000 แห่งทั่วโลก คาดปีนี้มีมูลค่ากว่า 45 ล้านเหรียญฯ ในตลาด SEA

Synology

“ปัจจุบันตลาด NAS/SAN เติบโตค่อนข้างสูง ทั้งในประเทศไทย และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค SEA ทั้งนี้เนื่องจากการเติบโตของปริมาณข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การโจมตีทางไซเบอร์เองก็เพิ่มสูงตาม ส่งผลให้ธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำเป็นต้องวางแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญ

โดยในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มการเติบของตลาดโตพุ่งไปถึง 3 ดิจิต ในขณะที่ในตลาดประเทศไทยเอง ก็คาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 2 ดิจิต แน่นอน โดยที่ผ่านมา ซินโนโลจี้ ได้ได้การยอมรับ และเติบโตมากในกลุ่มโรงงาน และหน่วยงานรัฐบาล แต่ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาโซลูชั่นของ ซินโนโลจี้ ได้รับความสนใจเพิ่มมาขึ้น

จากกลุ่มของสถานศึกษา โดยมี มหาวิทยาลัยหลายแห่งต้องการนำอุปกรณ์ รวมถึงโซลูชั่นของ ซินโนโลจี้ ไปใช้งานเพิ่มสูงขึ้น เนื่องสิ่งที่สถานศึกษาใช้อยู่แต่เดิมเริ่มมีการปรับตัวสูงขึ้นในแง่ของราคา ทำให้สถานศึกษาต่าง ๆ มองหาทางเลือกใหม่ ๆ ซึ่งประจวบกับทาง ซินโนโลจี้ เองก็มีอุปกรณ์ และโซลูชั่นที่สามารถเข้าไปช่วยได้

ทั้งในแง่ของความคุ้มค่า และมีความสามารถในการปกป้องข้อมูลที่สำคัญ ๆ รวมถึงสามารถช่วยกำหนดค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมให้แก่ผู้ใช้งานได้ เพราะเป็นในรูปแบบการซื้ออุปกรณ์ แล้วแถมโซลูชั่นในการใช้งานให้ ไม่ใช้การซื้อแล้วหากต้องการความสามารถอื่น ๆ ก็ต้องจ่ายเพิ่ม อย่างเช่นบริการที่ผ่านคลาวด์นิยมทำกัน

อีกเรื่องที่เป็นจุดสำคัญคือตัวซอฟต์แวร์ของ ซินโนโลจี้ จะมีการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้อุปกรณ์ของ ซินโนโลจี้ สามาถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด สาเหตุดังกล่าวมาจึงเป็นแนวโน้มที่กล่าวได้ว่า ซินโนโลจี้ จะสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในปี 2567 นี้ ” รธัชวรรณ กล่าวเสริม

Synology

นอกจากนี้ ซินโนโลจี้ ยังมั่นใจในศักยภาพของตลาดประเทศไทย โดยเล็งเห็นโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจดิจิทัล รวมถึงการเร่งผลักดันโครงการ Digital Transformation จากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการข้อมูลในยุคดิจิทัล

โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Threats) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการด้านการปกป้องข้อมูลเพิ่มสูงขึ้น ด้วยโซลูชันที่ครอบคลุมทั้งการจัดเก็บ การปกป้องข้อมูล และการบริหารจัดการ IT ที่แข็งแกร่ง

บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโต และขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยได้อย่างมั่นคง ตอบโจทย์องค์กรในภาคธุรกิจ รัฐบาล และการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัลที่ความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.