Thailand Post เปิดเกมดันอีคอมเมิร์ซไทย ขยาย 3 เส้นทางเจาะตลาด “เวียดนาม”

Thailand Post

ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post) เดินเกมหนุนอีคอมเมิร์ซไทย เดินหน้าขยายความร่วมมือ 3 เส้นทางหลักการขนส่งระหว่าง ไทย-เวียดนาม…

highlight

  • บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ อีคอมเมิร์ซ และการค้าระหว่างประเทศจากไทยสู่เวียดนาม โดยมุ่งใช้ 3 เส้นทางการขนส่งที่สำคัญ ได้แก่ เส้นทางอากาศ เส้นทางภาคพื้น และทางราง พร้อมจับมือการไปรษณีย์เวียดนามพัฒนาบริการไปรษณีย์ภายใต้กรอบความร่วมมือของการไปรษณีย์อาเซียน (AseanPost) เดินหน้ายกระดับอีคอมเมิร์ซของทั้ง 2 ประเทศ เตรียมนำสินค้าเมดอินไทยแลนด์ และเวียดนาม จัดจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม และขนส่งอย่างครบวงจร

Thailand Post เปิดเกมดันอีคอมเมิร์ซไทยขยาย 3 เส้นทางเจาะตลาด “เวียดนาม

Thailand Post
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดเวียดนามเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่มีความน่าสนใจ ที่ผ่านมามีตลาดเกิดใหม่ที่เป็นโอกาสสำหรับหลาย ๆ ธุรกิจและอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค และไฮไลต์อย่างค้าปลีก และอีคอมเมิร์ซ

โดยมีปัจจัยการขยายตัวทั้งจากผู้บริโภคในเวียดนามที่ใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เดือนละราว 1 พันล้านดอลล่าร์ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าไปดำเนินธุรกิจด้านแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการจากต่างประเทศ และเวียดนามยังเป็นหนึ่งใน 10 ตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก

ไปรษณีย์ไทยจึงต้องการที่จะขยายโอกาสเพื่อภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการไทย ภาคการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งตอกย้ำเป้าหมายในการก้าวไปสู่ Trusted Sustainable ASEAN Brand ที่มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนและเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือแห่งอาเซียน

ผ่านแผนการใช้โครงข่ายทั้งที่เป็น Physical และ Digital เชื่อมภาคเศรษฐกิจไทย–เวียดนาม และการสร้างประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอื่น ๆ รอบด้าน โดยได้ร่วมมือกับการไปรษณีย์เวียดนามพัฒนาบริการไปรษณีย์ภายใต้กรอบความร่วมมือของการไปรษณีย์อาเซียน (AseanPost)

Thailand Post

อาทิ การใช้อัตราค่านำจ่ายพิเศษระหว่างกัน สำหรับบริการไปรษณียภัณฑ์ พัสดุไปรษณีย์ EMS และ ePacket โดยไปรษณีย์ไทยได้วางเส้นทาง และแนวทางในการเชื่อมต่อถึงกันได้ผ่าน 3 เส้นทางหลัก ได้แก่

การขนส่งไปรษณีย์ทางอากาศ โดยไปรษณีย์ไทยไ้วางเส้นการขนส่งไปยั่ง 2 เมืองหลักของเวียดนาม ยัง 2 ได้แก่ ฮานอย และโฮจิมินห์ ผ่านเที่ยวบินของการบินไทย ซึ่งมีความแน่นอนในด้านเวลา ปลอดภัย และสามารถดำเนินงานด้านเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

การใช้ระบบขนส่งทางภาคพื้น ไปรษณีย์ไทยได้เริ่มทำการกลับมาเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งทางภาคพื้นในเวียดนาม ในเส้นทาง ไปรษณีย์อรัญประเทศ–พนมเปญ–โฮจิมินฮ์ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน แต่ได้มีการการระงับการให้บริการขนส่งไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาทของโควิด-19 ซึ่งทางเวียดนามมาตรการปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา อีกครั้ง 

การขนส่งทางราง ในด้านการขนส่งทางรางปัจจุบันไปรษณีย์ไทยกำลังอยู่ระหว่างการประสานกับรัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ลาว การไปรษณีย์เวียดนาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษา และพิจารณาความเป็นไปได้ในการผลักดันการขนส่งทางรางเส้นทางไทย-ลาว-เวียดนาม ในอนาคต

โดยจะใช้เส้นทาง R12 ที่เริ่มต้นตั้งแต่จังหวัดนครพนมไปจนถึงโครงการเศรษฐกิจหวุงอ่าง (Vung Ang) ในเวียดนาม ซี่งเส้นทางนี้ยังสามารถขนส่งสินค้าต่อไปยังมณฑลกว่างซี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านเครือข่ายถนนในเวียดนามได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ยังมีอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจคือ เส้นทางรถไฟจากเมืองท่าแขกถึงชายแดนลาว-เวียดนาม ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาเส้นทางรถไฟลาว-เวียดนาม โดยเริ่มจากเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไปยังท่าเรือหวุงอ่าง ประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2567 และจะแล้วเสร็จสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2571

Thailand Post

“เพื่อให้เกิดความแน่นแฟ้นในเชิงพันธมิตร และเชื่อมโยงเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น ในปีนี้ไปรษณีย์ไทย การไปรษณีย์เวียดนาม การไปรษณีย์อินโดนีเซีย พร้อมด้วยที่ปรึกษาพิเศษจำนวน 2 ราย คือ Paytech บริษัทจดทะเบียนตามกฎหมายเวียดนาม

และ Kota บริษัทจดทะเบียนตามกฎหมายสิงคโปร์ ได้มีการลงนามในข้อตกลง และบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้ง “Regional ASEAN Post Alliance – RAPA” เพื่อทำให้เกิดความร่วมมือในด้านขนส่งและระบบไปรษณีย์ระหว่างชาติอย่างเป็นรูปธรรม ใน 4 ด้าน

คือ ด้านพันธมิตรอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่จะมีการเชื่อมโยงระบบการค้าออนไลน์ และออฟไลน์ การพัฒนาโมเดลโลจิสติกส์ให้มีรูปแบบเดียวกัน การพัฒนา QR code เพื่อให้สะดวกต่อการทำธุรกรรม ด้านการขยายตลาดอีคอมเมิร์ซของอาเซียนให้เป็นศูนย์กลาง และไปสู่ตลาดโลก

โดยไปรษณีย์ไทยมีแผนผลักดันสินค้าเมดอินไทยแลนด์-เวียดนาม ให้ไปสู่ตลาดโลกโดยมีความร่วมมือกับการไปรษณีย์เวียดนามในรูปแบบของ RAPA shop ซึ่งเป็นโครงการที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ นำสินค้ายอดนิยมมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มที่จะพัฒนาขึ้น และมีการจัดส่งถึงผู้สั่งซื้อแบบครบวงจร

Thailand Post

ด้วยบริการของเครือข่ายไปรษณีย์ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับการไปรษณีย์ของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของตัวอย่างสินค้าไทยที่มีศักยภาพเจาะตลาดเวียดนาม เช่น กาแฟ, กลุ่มสินค้าจากด้านการท่องเที่ยว, อาหารแปรรูป, เครื่องดื่ม, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนยานยนต์, สินค้าเพื่อสุขภาพ และความงาม, สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ฯลฯ

ด้านการพัฒนาพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานรูปแบบใหม่ เช่น การเชื่อมโยงระบบคลังสินค้า การใช้เทคโนโลยีขนส่งขั้นสูงตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเพื่อให้การขนส่งมีความรวดเร็วขึ้น และ ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง 3 ประเทศ (ไทย-ลาวขเวียดนาม) ทั้งด้วยแนวการเพิ่มผลกำไร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และด้านความยั่งยืน” ดร.ดนันท์ กล่าว

Thailand Post

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay