Thailand Post ก้าวสู่ปีที่ 141 พร้อมดันกลยุทธ์ ” ESG+E” สู้ศึก Logistics

Thailand Post

ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post) ก้าวสู่ปีที่ 141 พร้อมดันกลยุทธ์ ” ESG+E” สู้ศึก Logistics ปูทางสู่การเป็น Information Logistics ของประเทศ…

highlight

  • ไปรษณีย์ไทย เปิดแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2567  ลุยขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ผ่านการพัฒนาระบบงานต่าง ๆ ด้วยหลัก ESG+E ตามวิสัยทัศน์ Delivering Sustainable Growth through Postal Network-ส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ พร้อมแผนเดินหน้าธุรกิจดิจิทัลที่ต่อยอดมาจากธุรกิจดั้งเดิม สู่การเป็น Information Logistics

Thailand Post ก้าวสู่ปีที่ 141 พร้อมดันกลยุทธ์ ” ESG+E” สู้ศึก Logistics ปูทางสู่การเป็น Information Logistics

Thailand Post
รัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

รัฐพล ภักดีภูมิ ประธานกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย ปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้มี New S-Curve และ Sustain เพื่อพัฒนาองค์กรจากการเป็นผู้ให้บริการสื่อสารพื้นฐานที่เชื่อมโยงผู้คน ให้ก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ยืดหยุ่น และพร้อมเปลี่ยนแปลง

ผ่านบริการใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า อยู่เสมอ แต่การจากที่สภาพของแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการขนส่ง ทั้งจากภายในประเทศ และนอกประเทศ ทำให้วันนี้ ไปรษณีย์ไทย ต้องปรับตัวเพิ่มขีดความสามาถมห้สามารถรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นอีกครั้ง 

โดยมุ่งสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า และชุมชน ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

ก้าวสู่การเป็น Information Logistics

Thailand Post
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้
ไปรษณีย์ไทย ครบรอบ 141 ปี พร้อมมุ่งสู่แผนงานสร้างการเติบโตด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ได้ปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์สู่การเป็นองค์กรที่พร้อมส่งมอบการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ Delivering Sustainable Growth through Postal Network โดยได้วางกรอบการดำเนินงานที่จะเป็นผู้ให้บริการขนส่ง และสื่อสารที่ขับเคลื่อนระบบงานต่างๆ ด้วยหลัก “ESG+E” คือ Environment, Social, Governance และ Economy

ผ่านแผนงานทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2573 และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 และในไตรมาส 4 ของปีนี้จะมีการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ ในระบบงานไปรษณีย์เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

โดยมีเป้าหมายปรับเปลี่ยนเป็นยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 85% ภายในปี 2573 ครบทั้งหมด 100% ภายในปี 2583 และยังอยู่ระหว่างยังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้กับระบบขนส่งเพิ่มเติม ซึ่งผลจากผลการดำเนินงาน

โดยการปรับเปลี่ยนพาหนะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 250 คัน และจักรยานยนต์ไฟฟ้า 200 คัน ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้ ไปรษณีย์ไทย สามารถบริหารจัดการต้นทุนในการขนส่งลงได้อย่างมาก โดยลดค่าน้ำมันกว่า 18% และทางอ้อมยังช่วย ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Reduction) เพิ่มได้อีก 2% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า หรืประมาณ 400 ตันคาร์บอน

Thailand Post

ด้านสังคม (Social) สร้างชุมชนที่ยั่งยืนด้วยโครงการ “ไปรษณีย์เชื่อมสุข” ที่มุ่งสร้างงาน สร้างอาชีพ และเชื่อมโยงเครือข่ายไปยังชุมชนที่สำคัญเพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ รวมถึงขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้กลุ่มเกษตร กลุ่ม SMEs และกลุ่มเปราะบางทางสังคมผ่านแพลตฟอร์ม ThailandPostMart

โดยที่ผ่านมาช่วยสร้างรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางไปรษณีย์ไทย ทั้งรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์มากกว่า 600 ล้านบาทต่อปี และตลอดระยะเวลา 3 ปี ได้สนับสนุนเกษตรกรไทย ในการขนส่งผลไม้ และพืชผลทางการเกษตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 100,000 ตัน

โดยครึ่งปีแรกของปี 2567 นี้มีปริมาณการฝากส่งผลไม้ไทยยอดนิยมผ่านบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทย กว่า 18 ล้านกิโลกรัม และยังช่วยให้เกิดการส่งเสริมรายได้พี่ไปรฯ เพิ่มขึ้นกว่า 2.2 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังช่วยสร้างรายได้ให้ชุมชน ในรูปแบบของการส่งเสริมการจ้างงานได้กว่า 741 ล้านบาทต่อปี

ด้าน การกำกับดูแลกิจการ (Governance) ให้ความสำคัญกับการรักษา ปกป้อง และใช้ข้อมูล
อย่างมีธรรมาภิบาล เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากนวัตกรรม และธุรกิจใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร และพัฒนาธุรกิจ

เพื่อสนับสนุนการดำรงชีวิตในสังคมยุคดิจิทัลด้วยการผลักดันให้เกิดการบริหารจัดการข้อมูลผ่านระบบการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer relationship management : CRM) ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ลูกค้ากลับมาใช้บริการไปรษณีย์ไทยมากกว่า 1 ล้านราย

Thailand Post

ไปรษณีย์ไทย มุ่งที่จะก้าวสู่การเป็น Information Logistics มีบริการ Prompt Post บริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการยุคดิจิทัล โดยมี 4 บริการหลัก คือ Trust Service การรับรองและลงลายมือชื่อบนเอกสารดิจิทัลด้วยใบรับรองดิจิทัล และกุญแจส่วนบุคคล

Digital Postbox การจัดเก็บเอกสารสำคัญได้อย่างรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ One-stop service การสนับสนุนการให้บริการของภาครัฐและภาคเอกชนผ่านช่องทางดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

Prompt pass บริการจัดเก็บเอกสารสำคัญส่วนบุคคล เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งข้อมูลระหว่างประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน บริการ Postman Cloud ที่ใช้ความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ที่มีกว่า 25,000 คนทั่วประเทศ

พร้อมเดินหน้าให้บริการในรูปแบบ Postman as a Service เช่น Survey บริการเก็บข้อมูล และสำรวจทรัพย์ Express บริการ รับ-ส่ง สิ่งของ แบบ Point to Point ตามความต้องการของลูกค้า/พันธมิตร Matching บริการเชื่อโยง Demand และ Supply

Thailand Post

อีกหนึ่งบริการสำคัญ คือ “ดิจิทัล โพสต์ ไอดี” (Digital Post ID) หรือ“ดีไอดี” (D/ID) ซึ่งเป็นบริการแบบส่วนบุคคล ในรูปแบบ การจ่าหน้าแบบใช้รหัส ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ และปรับปรุงข้อมูลที่อยู่ให้ตรงกับหน่วยงานต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ

เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลที่อยู่ในระบบ D/ID และยังสามารถบอกพิกัดของจัดส่งสิ่งของ แม้ผู้รับจะพักอาศัยอยู่ในอาคารสูง โดยบริการดังกล่าวคาดว่าจะสามาถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ช่วงไตรมาสสุดท้ายของ ปี 2567 นี้

Thailand Post

นอกจากธุรกิจใหม่ที่ไปรษณีย์พร้อมเดินหน้าแล้ว ขณะที่ในกลุ่มธุรกิจขนส่ง และโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลัก ยังเน้นการรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและมองหาลูกค้าใหม่ รวมทั้งการเข้าไปเป็นผู้ขนส่งให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์ม Tiktok Shopee และ Lazada

โดยบริการที่มีการเติบโตโดดเด่นสุดคือ บริการส่งด่วน EMS ในประเทศ ที่มีปริมาณสิ่งของฝากส่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 12.92% จากแรงบวกของการค้าออนไลน์ ค้าปลีก และความน่าเชื่อถือของบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย ตอบสนองรูปแบบการส่งได้หลากหลายประเภท

และยังเติบโตในด้านเครือข่ายจุดให้บริการที่มีถึง 50,000 แห่งทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของภาคเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

Thailand Post

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay