ติ๊กต็อก (TikTok) สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ในไทย กับ #YearOnTikTok สรุปเทรนด์ยอดนิยมที่เป็นกระแสไวรัลในปี 2567…
TikTok สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ในไทย กับ #YearOnTikTok สรุปเทรนด์ยอดนิยมในปี 2567
ติ๊กต็อก ชวนทุกคนมาร่วมสำรวจปรากฎการณ์ในปี 2567 กับ #YearOnTikTok สรุปเทรนด์ยอดนิยมที่เป็นกระแสไวรัล ครีเอเตอร์ผู้ทรงอิทธิพล และช่วงเวลาสำคัญที่พลิกโฉมวงการดิจิทัลตลอดปีที่ผ่านมา โดย ติ๊กต็อก ยังคงเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกไว้ด้วยกันผ่านพลังของความคิดสร้างสรรค์ สร้างคอมมูนิตี้ที่มีผู้ใช้งานนับพันล้าน
ที่ร่วมแบ่งปันความหลงใหล และแรงบันดาลใจให้แก่กัน และกันในทุกมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรม ศิลปะ ธุรกิจ และความบันเทิง โดยในปี 2567 เป็นอีกปีที่ชุมชน ติ๊กต็อก ในประเทศไทย ได้ร่วมสร้างความสุขสนุกสนานกับเทรนด์ยอดนิยมอย่าง Brat Summer ไปจนถึงฮิปโปแคระขี้เล่นที่ครองใจผู้คน
ในขณะเดียวกัน ติ๊กต็อก ยังสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะ ติ๊กต็อก ช็อป (TikTok Shop) ที่สะท้อนความสำเร็จอย่างสูงของอีคอมเมิร์ซที่ขับเคลื่อนโดยครีเอเตอร์ ด้วยจำนวนครีเอเตอร์ที่ติดตะกร้าช้อปปิ้งเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
และการจับมือระหว่างแบรนด์กับครีเอเตอร์ที่เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เทรนด์เหล่านี้สะท้อนบทบาทสำคัญของ ติ๊กต็อก ในการสนับสนุนธุรกิจ และเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย
เจมส์ สแตฟฟอร์ด ตำแหน่ง Global Head of Content ของ ติ๊กต็อก กล่าวว่า ตลอดทั้งปี 2567 ติ๊กต็อก ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดวิธีที่เราค้นพบ สร้างสรรค์ และเชื่อมต่อกันผ่านสื่อกลางอย่างคอนเทนต์วิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ก้าวขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก หรือครีเอเตอร์ และศิลปินระดับแนวหน้า
ผู้นำเทรนด์ต่าง ๆ ติ๊กต็อก เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ กระแสวัฒนธรรม และผลกระทบทางสังคม ติ๊กต็อก ขอยกย่อง และฉลองให้กับคอมมูนิตี้ระดับโลกของเราที่สร้างแรงบันดาลใจ
และความบันเทิงให้เราตลอดทั้งปี ติ๊กต็อก ยึดมั่นในปณิธานที่จะเดินหน้าสร้างพื้นที่แห่งพลังบวกให้ทุกคนสามารถสร้างความสุข และเปล่งประกายในแบบตัวเองได้
เติบโตไปกับ ติ๊กต็อก
ติ๊กต็อก ช่วยให้แบรนด์ และธุรกิจเติบโตได้ด้วยการนำเสนอความเป็นตัวเอง และเชื่อมโยงเข้ากับคอมมูนิตี้ได้ในระดับโลก ปีนี้เราได้เห็นผู้ประกอบการพลิกโฉมการทำอีคอมเมิร์ซด้วย ติ๊กต็อก ช็อป เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภคผ่านคอนเทนต์ที่สามารถนำเสนอสินค้าได้อย่างโดดเด่น
พร้อมเชื่อมต่อเข้ากับการทำธุรกรรมซื้อขายเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ติ๊กต็อก จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ไทย และธุรกิจขนาดเล็กจนถึงระดับกลาง ตลอดจนธุรกิจที่ขับเคลื่อนโดยครีเอเตอร์ ด้วยพิสูจน์แล้วว่า ติ๊กต็อก เป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอสินค้าพร้อมเชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างทรงพลัง
ช่วยขับเคลื่อนยอดขายให้เติบโตได้ด้วยแนวทางอันเป็นเอกลักษณ์ของ ติ๊กต็อก ที่เน้นให้คอนเทนต์เป็นศูนย์กลาง พร้อมด้วยโซลูชั่นการตลาดแบบครบวงจร (Full-Funnel Marketing) ธุรกิจไทยจึงสามารถเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ให้กลายเป็นโอกาสทางการค้าได้อย่างน่าทึ่ง ตัวอย่างความสำเร็จในปี 2567 ได้แก่
- @mizumi_official : Mizumi ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบครบวงจรของ ติ๊กต็อก พร้อมทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์เรือธงอย่าง UV Jelly Aqua Fresh Sunscreen ในแคมเปญ 7.7 ประสบความสำเร็จด้วยยอดสั่งซื้อกว่า 10,000 ออเดอร์ภายในเวลาเพียง 3 วัน มียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับแคมเปญ 6.6 ภายใต้งบประมาณที่ใช้เท่าเดิม
- @gala.camille : Gala Camille หนึ่งในผู้บุกเบิกการเปิดตัวลิปสติกสี “ลิ้นกระต่าย” ที่เป็นกระแสไวรัล ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเครื่องสำอางที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดด้วยการเข้าถึงคอมมูนิตีความงามและใช้ประโยชน์จากเทรนด์บิ้วตี้บน ติ๊กต็อก ได้ผลักดันผลิตภัณฑ์ให้เป็นกลายเป็นกระแสไวรัล โดยได้นำเสนอลิปสติกที่มีเฉดสีเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วยกลยุทธ์ 50:50 ทำให้ Gala Camille สามารถขายลิปสติกแท่งเขียวอันโด่งดังได้จำนวน 50,000 ชิ้นภายในเวลาเพียง 7 วัน
- @atipashop : Atipashop แบรนด์แฟชั่นที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สะดุดตาและหลากหลาย ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับความสำเร็จในโลกอีคอมเมิร์ซด้วย ติ๊กต็อก ช็อป เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า กระตุ้นยอดขาย และขยายฐานลูกค้าผ่านโซลูชันการไลฟ์สตรีม ทำให้เมื่อสองปีที่แล้ว Atipashop สามารถบรรลุเป้ายอดขาย 1 ล้านบาทได้เป็นครั้งแรกภายในเวลาเพียงสองชั่วโมง และสร้างสถิติใหม่ครั้งใหม่ด้วยยอดขาย 5 ล้านบาทจากการไลฟ์ภายในวันเดียวในแคมเปญ 6.6
เปิดโลกการอ่านไปกับ #BookTok
#BookTok คอมมูนิตี้คนรักการอ่านหนังสืออันคึกคักของ ติ๊กต็อก ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการหนังสือ และวรรณกรรม พลิกหนังสือที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักให้กลายเป็นหนังสือขายดี และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนนับล้านกลับมาค้นพบความสุขในการอ่านอีกครั้ง ด้วยจำนวนโพสต์กว่า 1.2 ล้านโพสต์ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567
ติ๊กต็อก จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังสำหรับนักเขียน นักอ่าน และผู้ที่หลงใหลในหนังสือให้ได้มาเชื่อมต่อ แบ่งปันความหลงใหล และค้นพบหนังสือเล่มโปรดเล่มใหม่ ๆ ผู้ใช้งาน ติ๊กต็อก ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะซื้อหนังสือเพิ่มขึ้น 1.6 เท่า ในเดือนที่ผ่านมา (22% เทียบกับ 13.8%)
โดยมี #อ่านตามtiktok เป็นแฮชแท็กสำคัญที่นักอ่านชาวไทยติดตาม เป็นแหล่งรวบรวมกว่า 128,000 โพสต์ เกี่ยวกับหนังสือไว้บน ติ๊กต็อก ช่วยจุดประกายให้คอมมูนิตี้คนไทยผู้รักการอ่านมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
จากช่วงเวลาเล็ก ๆ สู่ปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่
ปี 2567 ยังคงเป็นปีที่ ติ๊กต็อก ตอกย้ำบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งรวมวัฒนธรรมของโลกออนไลน์ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และก่อให้เกิดคอมมูนิตี้ใหม่ ๆ พร้อมสร้างกระแสที่ก้าวข้ามพรมแดนและความต่างทางอายุ ตั้งแต่วลีติดปาก การรีมิกซ์เพลง ไปจนถึงท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์
เทรนด์เหล่านี้กลายเป็นปรากฎการณ์ที่หล่อหลอมป๊อปคัลเจอร์ในปีนี้ ส่งอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งภาษา ความบันเทิง และบทสนทนาระดับโลก ติ๊กต็อก ได้กลายเป็นแหล่งกำเนิดของเทรนด์มากมายที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน อย่างวลีฮิตติดปาก “very demure, very mindful”
ที่โด่งดังขึ้นมาจาก Jools Lebron จนเป็นกระแสบน ติ๊กต็อก ได้กลายเป็นเทรนด์ #demure ซึ่งไม่เพียงแค่สร้างวลีใหม่ แต่ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้แสดงออกถึงตัวตน และส่งอิทธิพลต่อกระแสต่าง ๆ จนทำให้วลีนี้ได้รับการการยกย่องเป็น “คำแห่งปี 2024” โดยDictionary.com
นอกเหนือจากเทรนด์ที่ผู้คนสร้างขึ้นแล้ว เหล่าสัตว์น่ารักจากทั่วโลก ยังได้รับความสนใจอย่างมากบน ติ๊กต็อก ไม่ว่าจะเป็น หมูเด้ง ฮิปโปแคระแสนน่ารักจากประเทศไทย และ Pesto เจ้าเพนกวินคิงไซส์ จากออสเตรเลีย ได้ครองใจผู้คนทั่วโลก ความนิยมของพวกมันในปีนี้ได้ก้าวข้ามพรมแดน
ที่ไม่เพียงแค่เชื่อมโยงผู้คนที่มีความรักสัตว์เหมือนกัน แต่ยังนำมาสู่บทสนทนาเกี่ยวกับการดูแลสวัสดิภาพ และการอนุรักษ์สัตว์เหล่านี้อีกด้วย อีกหนึ่งกระแสนิยมที่ไม่ควรพลาดในประเทศไทยในปีนี้คือ “นปโปะหม่ำ ๆ” (@staywithnoppo) สุนัขคอร์กี้แสนน่ารักที่ร้องเพลงให้กำลังใจตัวเองในมื้ออาหาร
เพลงน่ารักนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้ ติ๊กต็อก สร้างโพสต์กว่า 146,000 โพสต์ กลายเป็นเทรนด์คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ติ๊กต็อก ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการอาหาร เพราะช่วยยกระดับเมนูต่างๆ ให้กลายเป็นกระแสนิยมระดับโลก
ตัวอย่างเช่น Dubai Chocolate Bar ที่สุดแสนอร่อยจาก Fix Dessert Chocolatier ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม และเป็นที่ต้องการของนักชิมทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด กระแสที่ครองใจครีเอเตอร์ด้านความงามและแฟชั่นทั่วโลกอย่าง #AsokaMakeup
ซึ่งต่อมามีการต่อยอดสู่ #AyothayaMakeupTrend ในประเทศไทย ด้วยยอดโพสต์กว่า 3,500 โพสต์ นำเสนอความสง่างามอลังการของเมคอัพที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงามแบบไทยโบราณ สร้างความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลก และดึงดูดการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางจากครีเอเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน
ติ๊กต็อก กับวงการเพลง
ติ๊กต็อก ยังคงครองความเป็นผู้นำในวงการดนตรีในปี 2567 โดยได้ปฏิวัติรูปแบบการแจ้งเกิดของศิลปินหน้าใหม่ การโปรโมตเพลง และการเชื่อมโยงบรรดาแฟนเพลงกับศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ ติ๊กต็อก จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นพบเพลงใหม่ ๆ ที่คนรักเสียงพลงทั่วโลกกว่าพันล้านคนได้ฟัง แบ่งปัน และแสดงออกผ่านเสียงดนตรี
ร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมร่วมกัน พร้อมผลักดันให้ศิลปินหน้าใหม่ และศิลปินที่มีชื่อเสียงประสบความสำเร็จทั้งใน ติ๊กต็อก และในวงการเพลง สำหรับประเทศไทย ติ๊กต็อก มีอิทธิพลต่อวงการเพลงอย่างชัดเจน ผู้ใช้งานชาวไทยมีแนวโน้มที่จะค้นพบศิลปินหรือวงดนตรีหน้าใหม่บน ติ๊กต็อก
ก่อนที่จะโด่งดังในกระแสหลักถึง 2 เท่า (เพิ่มเป็น 36.1% จาก 17.7%) และ 62% ของผู้ใช้งานยังบอกว่าเสียงเพลงเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของพวกเขา ด้วยความหลากหลายนี้ทำให้ ติ๊กต็อก กลายเป็นพื้นที่แจ้งเกิดของเพลงฮิตติดชาร์ต เพลงไวรัล และการรีมิกซ์สุดสร้างสรรค์
ผลงานเพลงอันโดดเด่นที่สร้างสีสันให้กับวงการเพลงไทยในปี 2567
- เมร่อน – @juepak_ : เพลงไวรัลรับซัมเมอร์ และเทศกาลสงกรานต์ด้วยยอดโพสต์ใน ติ๊กต็อก กว่า 714,000 โพสต์ และเป็นเพลงที่เปิดบ่อยในพื้นที่สาธารณะทั่วประเทศไทย
- วาสนาผู้ใด – @parkmalody : เพลงแจ้งเกิดของศิลปินหน้าใหม่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดโพสต์ใน ติ๊กต็อก กว่า 904,000 โพสต์ด้วยเนื้อหาที่น่ารัก และอบอุ่นใจ
- ฟ้ารักพ่อ (DILF) – @chaleomsri : เพลง T-Pop ที่ติดหูจนเกิดเทรนด์เต้นไวรัลที่ไม่มีนักเต้น ติ๊กต็อก คนไหนต้านทานได้
- Sorry – DREAMGALS (@yuppentertainment): เพลงแนว Afrobeats สุดเย้ายวนจากสามสาวเสียงทรงพลัง GALCHANIE, MILLI และ Flower.far ที่จุดประกายคอนเทนต์สร้างสรรค์ใน ติ๊กต็อก
- Hit Me Up – @timexthai : เพลงสุดมันส์ที่มาพร้อมกับชาเลนจ์เต้นสุดท้าทาย จนเหล่าคนดังชาวไทยแห่กันทำคัฟเวอร์จนเต็มหน้าฟีด ForYou
- Magic – @wimfeelsgood : เพลงเพราะฟังสบายจากศิลปินหน้าใหม่ที่ครองใจผู้ฟังทั่วทั้งประเทศ
ติ๊กต็อก & การท่องเที่ยวไทย
ในปี 2567 ติ๊กต็อก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยโดยการจับมือร่วมเป็นพันธมิตรระยะยาวของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (@AmazingThailand) สร้างเทรนด์ไวรัลอย่าง#TikTokพาเที่ยว #TikTokกินเที่ยว #เที่ยวไทย
สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนออกเดินทางสำรวจจุดหมายปลายทางใหม่ พร้อมสร้างชื่อให้แหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่แพร่หลายให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก แคมเปญ Amazing Thailand Passion Ambassador ได้เน้นย้ำถึงวัฒนธรรม และความงดงามทางธรรมชาติของประเทศไทย
พร้อมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ภายในชุมชนท้องถิ่น เพียงเดือนแรกของแคมเปญก็สามารถจำหน่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้รวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท โครงการริเริ่มนี้ยังแสดงให้เห็นถึงแนวทางใหม่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมศักยภาพธุรกิจในท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์ม ติ๊กต็อก ซึ่งสามารถเชื่อมโยงชุมชนกับนักเดินทางทั่วโลก สงกรานต์ยังคงเป็นเทศกาลอันโดดเด่นที่ คอนเทนต์บน ติ๊กต็อก สร้างสถิติการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สูงที่สุดในช่วงฉลองเทศกาล
อ้างอิงข้อมูลจาก Zanroo Social Listening พบว่า ติ๊กต็อก ครองอันดับหนึ่งการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียในช่วงสงกรานต์ปี 2567 โดยมีสัดส่วนสูงถึง 96% จากยอดการมีส่วนร่วมทั้งหมดกว่า 3 พันล้านครั้ง ตอกย้ำอิทธิพลของ ติ๊กต็อก ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ
ด้วยรูปแบบใหม่ ๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราว พร้อมด้วยแคมเปญที่น่าสนใจ ติ๊กต็อก ช่วยยกระดับให้นักเดินทางสามารถค้นพบ และเชื่อมโยงกับประเทศไทย เสริมสร้างสถานะของประเทศให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือน
ฉลอง Year on TikTok 2024
ปิดท้ายอีกหนึ่งปีที่น่าจดจำไปกับการสรุป เยียร์ ออน ติ๊กต็อก (Year on TikTok) เตรียมตัวฉลองไปพร้อมกับเราในประเทศไทย! ค้นพบเทรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุด ครีเอเตอร์ และช่วงเวลาที่น่าประทับใจในปีนี้ได้แล้ว เพียงค้นหา #YearOnTikTok บน ติ๊กต็อก ของคุณ!
วิธีการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล
“เยียร์ ออน ติ๊กต็อก 2024″ อ้างอิงจากการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่ประกอบด้วยข้อมูลภายในแอปพลิเคชัน และข้อมูลจากแหล่งภายนอก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของ ติ๊กต็อก โดยทำการวิจัยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2024
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th