Trend Micro เผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ได้แข็งแกร่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท อันเป็นผลจากธุรกิจด้านการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริดจ์…
highlight
- เทรนด์ไมโคร ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ร่วมกับผลการดำเนินงานตลอดปีงบประมาณ 2019 ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2019
Trend Micro เผยไตรมาสที่ 4 รายได้สุทธิรวม 165,195 ล้านเยน
เทรนด์ไมโคร สามารถทำผลประกอบการประจำไตรมาสได้แข็งแกร่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาของบริษัท ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลก และจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอัตราการเติบโตที่มากถึง 15% ของยอดขายโดยรวมของกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทอย่างด้านการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริดจ์
นอกจากนี้ จำนวนลูกค้าเชิงพาณิชย์ที่ใช้โซลูชั่นแบบ SaaS ก็ยังมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่าผู้ที่ใช้โซลูชั่นแบบ On–Premise แบบเดิมเสียอีก ซึ่งถ้าพิจารณาแบบปีต่อปีแล้วพบอัตราการเติบโตมากถึง 20% เลยทีเดียว ผลประกอบการเหล่านี้เกิดขึ้นจากแนวโน้มที่แข็งแกร่งตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2019 ของเทรนด์ไมโคร
แสดงให้เห็นได้ชัดมากถึงความเป็นผู้นำในการปกป้ององค์กรที่ใช้สภาพแวดล้อมการทำงานบนคลาวด์ซึ่ง เทรนด์ไมโคร ภูมิใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในปี 2019 โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งพิสูจน์ถึงความถูกต้องของการหันมาให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการปฏิวัติทางดิจิตอลขึ้นไปบนคลาวด์ได้เป็นอย่างดี
ความทุ่มเทในการเป็นเลิศด้านคลาวด์ของเรานั้นได้รับผลตอบแทนที่ชัดเจนมากผ่านการพัฒนาโซลูชั่นด้านความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ช่วยให้ลูกค้าปกป้องสภาพแวดล้อมการทำงานของตัวเองได้ทุกที่ ไม่ว่าจะมีระบบตั้งอยู่ที่ไหนก็ตาม
อีวา เฉิน ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ เทรนด์ไมโคร กล่าวว่า เราทราบดีว่าการที่ปิดยอดประจำปีได้อย่างแข็งแกร่งนี้ไม่ได้หมายความว่างานของเราจบแล้ว เนื่องจากอันตรายต่าง ๆ ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ เช่นเดียวกับความจำเป็นในการทำงานของเรา โดยเฉพาะจากภาวะการขาดแคลนแรงงานผู้ที่มีทักษะที่เกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน
อีกทั้งลักษณะของธุรกิจ และเทคโนโลยีในปัจจุบันต่างตอกย้ำความสำคัญของความสามารถในการมองเห็น, การตรวจจับ, และตอบสนองต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยอย่างทั่วถึงทั้งระบบด้วย เราจึงมีภารกิจในการบริการโซลูชั่นอย่างต่อเนื่องที่ออกแบบมาเพื่อให้ธุรกิจทั้งหลายได้ความสามารถในการมองเห็นที่กว้างมากขึ้น
ลดการแบ่งแยกฐานข้อมูลด้านความปลอดภัยเพื่อตรวจจับการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น ที่มิเช่นนั้นอาจบุกรุกเข้ามาได้แบบที่ไม่มีใครตรวจพบ สำหรับไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมานั้น ทางเทรนด์ไมโครได้รายงานยอดขายรวมสุทธิทั้งหมดที่ 44,261 ล้านเยน (หรือคิดเป็น 406 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 108.82 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ฯ)
ขณะที่แสดงรายได้จากการดำเนินงานไว้ที่ 8,528 ล้านเยน (หรือ 78 ล้านดอลลาร์ฯ) และรายรับสุทธิที่ปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเท่ากับ 5,623 ล้านเยน (หรือ 51 ล้านดอลลาร์ฯ) ในไตรมาสนี้ และเมื่อพิจารณาตลอดทั้งปีงบประมาณ 2019 ทางเทรนด์ไมโคร ได้รายงานยอดขายสุทธิรวมทั้งหมดมากถึง 165,195 ล้านเยน
(หรือคิดเป็น 1,515 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 108.98 เยนต่อดอลลาร์ฯ) รวมทั้งบริษัทยังระบุรายรับจากการดำเนินงานอยู่ที่ 37,686 ล้านเยน (หรือ 345 ล้านดอลลาร์ฯ) และรายรับสุทธิที่ปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเท่ากับ 27,946 ล้านเยน (หรือ 256 ล้านดอลลาร์ฯ)
ซึ่งถ้าอ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทมีอยู่ในขณะนี้ จะสามารถคาดการณ์ตัวเลขยอดจำหน่ายสุทธิเมื่อจบปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2020 ได้ที่ 174,200 ล้านเยน (หรือ 1,598 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 109 เยนต่อ 1 ดอลลาร์ฯ) ส่วนรายรับจากการดำเนินงาน
และรายรับสุทธิก็คาดว่าจะได้เท่ากับ 37,700 ล้านเยน (หรือ 345 ล้านดอลลาร์ฯ) และ 27,300 ล้านเยน (หรือ 250 ล้านดอลลาร์ฯ) ตามลำดับ
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th