เริ่มต้นแล้วสำหรับงาน COMMART WORK 2019 ณ ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา งานนี้หลายแบรนด์นั้นจัดหนัก อัดโปรโมชั่นร่วมภายในงานไม่น้อยกว่าตอนกลางปี…
highlight
- บมจ. เออาร์ไอพี เปิดงาน “COMMART WORK 2019” ภายใต้แนวคิด “Upgrade your ideas ไอทีเวิร์ค ไอเดียว้าว!” งานเดียวที่รวบรวมสินค้าไอที
และเทคโนโลยี มีครบทุกตัวเลือกจบในที่เดียว
COMMART WORK 2019 งานคอมส่งท้ายปีที่มีมากกว่าที่คิด
เชื่อว่าหากเอ่ยถึงงานคอมฯ ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมานาน เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงอยู่ไม่กี่งาน และหนึ่งในงานคอมฯ ที่อยู่กับตลาดไอทีของประเทศไทยมานานอย่างงาน “COMMART” ก็คือหนึ่งในงานที่หลาย ๆ คนรอคอยที่จะไปเดินเพื่อจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าไอที เพื่อใช้ทำงาน และเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน สำหรับผู้เขียนเองก็หนึ่งในนั้นที่โตมากับงานคอมมาร์ทนี้
จนแทบไม่น่าเชื่อว่างานนี้คือการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 52 แล้ว (รู้สึกแก่ขึ้นในมาทันที) ซึ่งแน่นอนในยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เมื่อก่อนเวลาผู้เขียนจะซื้อคอมพิวเตอร์อาจจะต้องรองานมาเดินงานนี้ เพราะได้ราคาดี และมีให้เลือกเยอะหลากหลายแบรนด์
แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อินเทอร์เน็ตมีความเร็วมากขึ้น และมีการสร้างระบบชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้โลกมีช่องทางการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ทำให้หลายคนเลือกที่จะไปหาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากกว่า เพราะราคาถูกกว่า หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ หลายคนบอกว่าสะดวกกว่า (ไม่ว่ากันเอาความสะดวก)
แต่สำหรับผู้เขียนการเดินงานคอมมาร์ทคือหนึ่งใน “ความบันเทิงระดับ 1o ตีนถีบ” ที่จะไม่ได้พบในช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการได้เจอพริตตี้สวย ๆ หรือการได้เห็นสินค้าไอทีหลาย ๆ อย่าง พร้อม ๆ กัน ไม่ต้องเสียเวลาไปเปรียบเทียบในช่องทางออนไลน์ที่ปัจจุบันมีหลากผู้จัดจำหน่าย ซึ่งต้องคอยมานั่งเปรียบเทียบให้งง ว่าใครให้ส่วนลดดีที่สุด
และต้องลุ่นว่าของจะเสียหายมั้ยจากบริการส่ง Deliveree ของบริษัทฯ ขนส่งสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น ต่าง ๆ ที่มาตรฐานการบริการอยู่ที่พฤติกรรมของพนักงานที่จัดส่งสินค้าให้เรา ซึ่งอาจจะเสียหาย และทำให้ต้องรอให้บริษัทจัดส่งสินค้าใหม่มาให้ เพื่อตัดปัญหากวนใจ และน่าหงุดหงิด ผู้เขียนจึงชอบที่จะไปเดินดูมากกว่า เพราะได้จับสินค้าจริง ๆ แถมยังได้ต่อรองราคา หรือขอของแถมได้
ซึ่งถือเป็นความบันเทิงในการซื้อสินค้าไอทีอย่างหนึ่ง ว่าแบรนด์ต่าง ๆ ที่มาออกบูธ จะยอมแถมอะไร หรือยอมลดราคาเพิ่มให้อีกหรือเปล่า (เพราะที่มาขายในงานก็ถูกระดับหนึ่งแล้วนั่นเอง) และอีกหนึ่งเหตุผลคือในงานคอมมาร์ทนี้มักจะมีสินค้าใหม่ ๆ ที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ หรือสินค้าที่เคยเป็นที่นิยมแต่อัพเกรดมาขายด้วย
ซึ่งจะเป็นความบันเทิงทันทีหากเราซื้อสินค้าไปอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลเน็ตเวิร์คพร้อมติดแฮชแท็ก (#) “ได้มาแล้วใหม่ล่าสุด” หรือ “ของมันต้องมี” เป็นต้น ซึ่งความบันเทิงมันจะมาจากคอมเม้นต์ต่าง ๆ ที่จะมาในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราจะตอบโต้ หรือแสยะยิ้มมุมปากก็ได้ (อาการโรคจิตบนโลกโซเชียล) อย่างหนึ่ง
นอกเรื่องไปไกล เอาเป็นว่าลองไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างใน Commart Work 2019 หรืองานคอมปลายปี 2562 นี้ เริ่มจากคอนเซ็ปส์งานที่ทางผู้จัดชูว่างานนี้คือ “Upgrade your ideas ไอทีเวิร์ค ไอเดียว้าว!” ซึ่งจากที่ดูบรรยากาศโดยรอบก็ถือว่าไม่ได้แย่ไม่ได้ดีอะไรเป็นพิเศษมากเท่าไร ถือว่ายังไม่หลุดกรอบแนวคิดมาก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะด้วยการที่ย้ายมาจัดงานที่ ไบเทค ด้วย
ทำให้ผู้จัดงานอาจจะติดข้อจำกัดในการก่อสร้างรูปแบบบูธ และอาจจะเพราะปลายปีผู้ที่าออกบูธขายสินค้าจึงไม่ค่อยยากทำอะไรหวือหวามากนั้น เอาไว้ต้นปีค่อยว่ากัน แต่สำหรับผู้เขียนประเด็นนี้ไม่สำคัญทำไร เพราะอยากดูสินค้าไอทีมากกว่า แต่หากพิจารณาจากแบรนด์ที่มาร่วมงานในครั้งนี้
อาทิ Advice, Asus, Studio7, Dell, Epson, HomePro, The Power, Intel, IT City, J.I.B, Jaymart, Lenovo, MSI, SPVi, SPEED Computer, SVOA, Ascenti, AMD, CSC, dtac, ธนาคารออมสิน,การท่องเที่ยวแห่
แน่นอนว่าหากเทียบกับสมัยผู้เขียนไปเดินช่วงหนุ่ม ๆ จะค่อนข้างแน่นจนแทบเดินไม่ได้เลย ซึ่งอันนี้เข้าใจได้เพราะสินค้าไอที นับวันมีแต่เล็กลง ๆ ไม่ได้เป็นชิ้นใหญ่ ๆ อย่าเช่นในอดีต และด้วยการที่สถานที่ของไบเทคเองก็ค่อนข้างกว้างขวางกว่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตด้วย แน่นอนว่ามาเดินงานคอมฯ ทั้งทีสินค้าในหมวดแรกที่ผู้เขียนเดินปรี่ เข้าไปดูก่อน
คือคอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊ค ของแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งแว่บแรกคือ “เสียดาย” แต่ไม่ได้เสียดายว่ามันน้อย หรือของแถมไม่ดี แต่!! เสียดายที่ผู้เขียนเพิ่งเอาคอมเครื่องเก่าที่หนัก ๆ ไปยกเครื่องเพิ่มความเเรงมา แต่เครื่องที่นำมาขายในงานคอมมาร์ทนั้น ทั้งเบา และบาง แถมหลาย ๆ รุ่น ในหลาย ๆ แบรนด์ นั้นสเปค ดีจนเกินราคาที่ขาย แม้ว่าหากคนอาจจะเห็นต่างว่าราคาขายไม่ได้ถูกกว่าร้านด้านนอกงาน
แต่ผู้เขียนกับมองว่ามันคือสินค้าที่อยู่กับความชอบ และความต้องการส่วนบุคคล เรื่องราคาอาจจะไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่การจับได้ลองกันเต็มที่ เพราะหากเราไปที่ร้านขายนอกงานก็ต้องกังวลว่าพนักงาน หรือเจ้าของร้าน จะเดินเข้ามากดดัน และถามเยอะๆ ก็ไม่ได้ เพราะหากไม่ซื้อแต่แค่ถามเป็นข้อมูลก็จะโดนสายตาตำหนิทันที หรือร้ายๆ ก็จะโดนเหน็บด้วยคำพูดแรง ๆ เจ็บ ๆ
คอมประกอบสุดคึกคัก
หนึ่งในโซนที่คึกคักมาที่สุดงานในงานคงหนี้ไม่พ้นโซนคอมประกอบที่ คนแห่กันข้าไปเยอะมาก บางคนเป็นเห็นออกมาจากโซนนี้พร้อมของพะรุงพะรังเต็มสองมือกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้โซนนี้มีคนเยอะก็เพราะกระแสเกมบนพีซีกลับมาคึกคัก ในช่วงที่ผ่านมามีการจัดแข่งขันกันหลาย ๆ เวที เครื่องไม่เเรงจึงก็แข้งไม่สนุก ฝึกฝีมือไม่ได้ แต่โซนนี้ผู้เขียนต้องขอผ่านเพราะไม่ใช่สายเกมครับ
เดินออกมาจากโซนคอมประกอบย้อนมาก็เจอโซนที่ขายอุปกรณ์เสริมค่อนข้างเยอะหลากหลายแบรนด์ทีดียว ทั้งที่คุ้นเคย และไม่คุ้นก็มีเยอะ เดินด่อม ๆ มอง ๆ อยู่ซักพักก็ได้ยินเสียงใส ๆ ของพริตตี้สาวสวยขึ้นเวทีประกาศเชิญชวนให้เล่นเกมกิจกรรมที่หน้า Advice ซึ่งแน่นอนว่าคนแน่นมาก
ไม่รู้ว่าเพราะน้องพริตตี้ หรือเพราะสินค้าราคาถูกพิเศษกันแน่ แต่ผู้เขียนเองก็ไปยินมอง และร่วมฟังข้อมูลซึ่งครั้งนี้กิจกรรมของ Advice มาแปลกกว่าเดิม เพราะมีการจับรางวัลใหญ่เป็นรถยนต์โตโยต้าซะด้วย สำหรับผู้ที่มาซื้อสินค้าใน Advice นั่นเอง นั่นหมายความว่าในงานครั้งนี้นอกจากรถซูซูกิ
ที่ทางผู้จัดงานจะจับแจกให้แก่ผู้โชคดีหลังงานวันที่ 22 ธันวาคม 2562 ผู้ที่ซื้อของที่ Advice ก็จะได้ลุ้นรถโตโยต้าด้วย เรียกว่าจัดของแถมกันหนักเลยปลายปี
และนอกจากจะอุปกรณ์มาขายในงานแล้ว งานนี้ยังมีการขนเครื่องใช้ไฟฟ้ามาหันราคาลดกันมาแบบถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งในงานครั้ก่อนผู้เขียนเองก็มาโดน สมาร์ท ทีวี ของซัมซุง ไปหลายเครื่องเลย เรียกว่ากระเป๋าเบากันเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่เเค่ทีวีเท่านั้นที่ลดราคา เพราะอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า และแอร์ก็ขนมากันลดราคากันเยอะ เรียกว่าจะขายจนกว่าจะหมดและไม่ขนกลับโกดัง กันเลย
ขณะในโซนของอุปกรณ์เสริม หรือแอกเซสซอรี ต่าง ๆก็มีให้เลือกเยอะทั้งเม้าส์ คีย์บอร์ด แฟลชไดร์ฟ ก็ลดกันถล่มมาก จนนึกไม่ถึงว่าจะลดราคาถูกมากขนาดนี้ และภายในงานยังมีการนำพวกสมาร์โฟน ทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่มาจำหน่ายอีกด้วย แม้ต้ตัวโชว์ก็นำมาลดราคาอีก ซึ่งน่าสนใจ หากใครไม่ติดว่าเป็นเครื่องโชว์ก็ซื้อไปใช้งานได้เลย เพราะราคาถูกมากจริง ๆ
เดินไปเดินอยู่ซักพักก็มาสะดุดกับบูธด้านหน้างาน เพราะเป็นแบรนด์ที่คุนเคยในสมัยเด็ก กับแบรนด์ “aiwa” หรือไอวา แบรนด์ที่คนที่อายุเกินเลข 3 ต้องเคยใช้ในสมัยที่ยังไม่มี Mp3และเรายังอยู่ในโลกของเทปตลับกันอยู่ ซึ่งสมัยนั้นใครใช้แบรนด์นี้ฟังเพลงจะดูรวยมาก เพราะมีราคาสูงและมีคุณภาพของเทคโนโลยีของเสียงที่ดีมากเป็นเบอร์ต้น ๆ
จนโซนี่ต้องซื้อต่อไปทำเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ท ในชื่อ Sony aiwa นั่นเอง แต่การกลับมาทำตลาดในไทยครั้งนี้ aiwa ไม่ได้ทำเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทอีกต่อไปแล้ว แต่ทำฟูฟังบลูทูธ และลำโพงบลูทูธของงมาขาย และเพื่อฉลองการกลับมาทำตลาดเองในไทยโดยไม่เกี่ยวโซนี่ ทาง aiwa ได้ขนสินค้ามาลดรคาพิเศษในงานเลย เพื่อแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะกับมาสู่ตลาดของเสียงเพลงอีกครั้งแน่นอนในประเทศไทย
ซึ่งจากการทดสอบลองฟังเสียง ผู้เขียนสัมผัสได้ถึงพลังของคุณภาพเสียงทีดีมากในระดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้ดีที่สุด แต่ต้องยอมรับว่าดีกว่าหลายแบรนด์ที่ทำตลาดในไทย รวมถึงแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่แตกไลน์สินค้ามาทำอุปกรณ์เสริมสำหรับเสียงเพลง กันอยู่ทุกวันนี้หลายชิ้นเลย ซึ่งจากที่พูดคุย ทำให้ทราบว่าทาง aiwa ยังเตรียมที่จะนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มอีกในปีหน้า
ก่อนจะกลับเพื่อให้ครบทุกอรรถรส ผู้เขียนเองก็ไม่ลืมที่จะเดินเกมภาพของสาว ๆ พริตตี้ ประจำบูธต่าง ๆ มาฝากกันด้วยครับ แต่จะสวยน่ารัก และ Sexy แค่ไหนไปดูกันเลยครับ
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th
