เอเซอร์ (acer) จับมือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำแคมเปญ “Work Anywhere, Travel Together” ทำให้การเที่ยว และการทำงานเป็นเรื่องที่ทำได้จากทุกที่ทุกเวลา…
acer จับมือ ททท. ทำแคมเปญ “Work Anywhere, Travel Together” เที่ยวสนุกงานไม่ (พัง)
กฤษณะ แก้วธำรงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พันธกิจของการท่องเที่ยวประเทศไทย คือการขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตทั้งจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ โดยการท่องเที่ยวได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้คน
และพื้นที่หรือสถานที่ทำงานในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไปสำหรับคนในยุคปัจจุบัน เพราะขอบเขตของสถานที่ทำงานได้ขยายกว้างให้ทุกคนสามารถสร้างพื้นที่ทำงานของตัวเองที่ไหนก็ได้ ซึ่งการทำงานพร้อมกับการเลือกออกเดินทางไปในสถานที่ที่ตนเองถูกใจ

จึงเป็น Lifestyle ที่สามารถเห็นได้เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดย ททท. ยังมีแผนกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวได้ในทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ ไม่จำเป็นต้องรอเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะฉะนั้นการใช้เทคโนโลยีรวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองได้ทั้งการทำงานและการท่องเที่ยว
จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก อีกทั้งเทคโนโลยียังเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยในการเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง โดยเทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูล ทั้งภาพ และเสียง และความน่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวได้
ทำให้การร่วมเป็นพันธมิตรกับ เอเซอร์ ก็จะสามารถเป็นฐานในการส่งข้อมูล และข่าวสารของแหล่งท่องเที่ยวได้อีกช่องทางหนึ่ง และส่งผลให้เกิดการรับรู้ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยอาศัยฐานลูกค้าที่กว้างขวางของ เอเซอร์ อีกด้วย

ด้าน นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทย ข้อมูลจาก EIC ระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งไทย และต่างชาติในปี 2562
มีสัดส่วนสูงถึง 18.6% ของ GDP แยกเป็นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 11.9% และนักท่องเที่ยวชาวไทย 6.7% ของ GDP ล่าสุด ธปท. ได้ปรับลดประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยลง ที่คาดว่าจะทำให้ GDP ลดลงอีก 0.5% และเมื่อเร็ว ๆ นี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้มีมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศด้วยการเชิญชวนให้คนไทยออกเที่ยวไทยเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้มีผลสำรวจของ ททท. ระบุว่าหนึ่งในเหตุผลที่คนไทยวางแผนท่องเที่ยวในระยะสั้น (เดินทางในจังหวัดที่พักอาศัย) ก็คือไม่มีเวลาว่างจากการทำงานนั่นเอง
ในชั่วโมงที่ยังไม่มีการเปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศ กลุ่มคนที่ปกตินิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศจะกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของภาคการท่องเที่ยว เพราะคนกลุ่มนี้กระหายในการเดินทางและมีกำลังซื้อสูง จึงเป็นโจทย์สำคัญของภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในคนกลุ่มนี้
นอกจากนี้เรายังพบว่าปีนี้เป็นปีของ Digital Nomad ผู้ประกอบการอิสระ หรือฟรีแลนซ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาด Out–Source ก็เติบโตมากขึ้น เนื่องจากบริษัทหลายแห่งต้องการลดต้นทุน และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจ บางประเทศที่เห็นโอกาสจากเทรนด์ตลาดนี้ได้เริ่มออกแคมเปญ การสนับสนุนต่าง ๆ
สำหรับคนกลุ่มนี้ ให้สามารถย้ายที่ทำงานไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการออก Digital Nomad Visa โปรโมชันต่าง ๆ การลดหย่อนภาษี การให้วันหยุดที่ไม่นับเป็นวันหยุด ฯลฯ
มีคำถามเกิดขึ้นว่าการเวิร์คเคชั่น (Workation) นั้น “เวิร์ค“ จริงหรือ สำหรับเอเซอร์เรามองว่าการทำงานแบบ “work–life flow“ คือรูปแบบการทำงานที่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน นั่นคือการโฟกัสประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าความพยายามที่จะบาลานซ์ชั่วโมงการทำงาน
ซึ่งประสิทธิภาพการทำงานนั้น นอกจากเรื่องโลเคชันจะมีส่วนช่วยในการสร้าง Productivity ให้คนทำงานแล้ว ความพร้อมในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และระบบเน็ตเวิร์คก็เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างสรรค์ผลงานครีเอทีฟต่าง ๆ รวมถึงคุณสมบัติของเครื่องอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานนอกสถานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น
สำหรับแนวคิดล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สู่การคอแลปครั้งสำคัญของ 2 วงการ ดึงจุดแข็งของเอเซอร์ผนวกกับความเป็นไอทีที่เข้าถึงดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของผู้คนมาเป็นอีกหนึ่งเรี่ยวแรงสำคัญในการขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยวในประเทศ ภายใต้แคมเปญ Make Your Mark Work Anywhere, Travel Together
แคมเปญที่เอเซอร์ตั้งใจทำขึ้นเพื่อชักชวนคนไทยให้ออกมาท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบ Hybrid : travel & work ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การทำงานของโลกยุคใหม่ที่ไม่ได้ยึดติดกับ “ออฟฟิศ“ หรือ “สำนักงาน“ ช่วยให้เราสามารถท่องเที่ยวไปพร้อมกับการทำงานควบคู่กันได้ในทุกที่ ทุกเวลา
อย่างมืออาชีพ โดยเอเซอร์จะโปรโมทวิดีโอการท่องเที่ยวในประเทศไทยไปกับช่องทางต่าง ๆ ของเอเซอร์ที่กระจายไปยังผู้ใช้ในกลุ่มต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เอเซอร์เชื่อว่าจากการร่วมมือในแคมเปญนี้จะช่วยกระตุ้น และผลักดันให้การท่องเที่ยวไทยมีสีสันมากขึ้น
ตลาดสินค้าไอทีมีแนวโน้มดีขึ้น

การทำตลาดในแคมเปญนี้เป็นการสานต่อแคมเปญที่เคยตั้งใจจะดำเนินมาก่อนเกิดโควิด-19 ที่ต้องการสนับสนุนให้คนสร้าง Work Life Balance ระหว่างการทำงาน และไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่เอเซฮร์ทั่วโลกวางเอาไว้ ประจวบเหมาะกับสถานการณ์ของช่วงนี้เริ่มกลับมาเป็นปกติมากขึ้น
แต่รูปแบบของการทำงานก็ได้เปลี่ยนแปลงไป หลาย ๆ บริษัทฯ มีนโยบายในการให้พนักงานสามาถทำงานได้จากทุกที่ รวมไปถึงจากการที่คนหยุดอยู่บ้านทำให้ความต้องการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มากกว่า 1 เครื่องเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มของคอนซูมเมอร์มีความต้องการมากขึ้น
ขณะที่กลุ่มองค์กรเองแม้ยังไม่มีการลงทุนมากนักแต่ก็เริ่มมองหาอุปกรณ์ใหม่ ๆ มาเสริมประสิทธิภาพการทำงาน สำหรับ เอเซอร์ เอง แม้ว่าการเกิด โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อยอดขายในช่วงไตรมาส 2 แต่ก็ได้กระแส Work from home หรือ Learn from home ในช่วงหลังคลายล็อคดาวน์ มากระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาดีขึ้น
อีกทั้งกำลังการผลิตจากทางจีน เองก็กลับมาได้ 70–80% ทำให้สามารถผลิตเครื่องได้ตามความต้องการของตลาด แม้ว่าจะยังมีอุปสรรคอยู่บ้างในเรื่องของการนำเข้าสินค้า แต่เชื่อว่ายังพอทันต่อความต้องการของตลาด
อีกทั้งเราเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดจะมุ่งไปสู่การนำเสนอสินค้าที่สามารถตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่าง มากกว่าการแข่งขันเรื่องของราคา ซึ่งการที่ เอเซอร์ ร่วมมือกับทาง ททท. ก็เป็นสิ่งที่ เอเซอร์ ต้อการยืนยันถึงทิศทางกรทำตลาดของเอซฮร์หลังจากนี้
และนอกจากความร่วมมือกับ ททท. แล้ว เอเซอร์ร่วมกับอินเทล จัดโปรโมชั่น Make Your Mark Work Anywhere, Travel Together ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน-31 ตุลาคม 2563 ลุ้นโชค 2 ชั้น มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท
โชคชั้นที่ 1 : สำหรับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Acer, Predator หรือ ConceptD ที่มี Intel® Processor และลงทะเบียนสินค้าผ่าน Inbox Facebook : Acer Thailand รับสิทธิ์ลุ้นรางวัล
- แพกเกจตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมที่พัก 3 วัน 2 คืน ณ DEVASOM Sky Villa จ.พังงา พร้อมดินเนอร์สุดหรู (สำหรับ 4 ท่าน) จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 120,000 บาท
- Notebook Acer Swift 3 จำนวน 20 รางวัลๆ ละ 23,990 บาท
- Voucher ที่พักรถบ้าน (สำหรับ 2 ท่าน) จำนวน 100 รางวัลๆ ละ 6,000 บาท
โชคชั้นที่ 2 : เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ Acer หรือ Predator รุ่นที่ร่วมรายการและลงทะเบียนสินค้าด้วยบัญชี Facebook ของตนเองผ่าน Inbox Facebook: Acer Thailand รับ Cash Back มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท
กำหนดจับรางวัล วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์บริการเอเซอร์, ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ประกาศผลทาง www.acerthailand.com ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://acerthailand.com/acer-work-anywhere
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th