Advice ชูกลยุทธ์ผ่าวิกฤตโควิด รับ อานิสงส์อี-คอมเมิร์ซโต ยุค “New Normal” หลังในปัจจุบันแได้เข้าร่วมกับ Shopee เพื่อเพิ่มช่องขาย…
Advice ชูกลยุทธ์ผ่าวิกฤตโควิด ยุค “New Normal”
หากพูดถึงไตรมาสแรกของทุกปีนับเป็นช่วงที่กลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะตลาดคอนซูเมอร์จะมียอดขายพุ่งสูง หรือเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาพีคสุดของทุกปี แต่ในปลายปีที่ผ่านมาทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (Covid-19) ส่งผลให้แผนการตลาดของหลายองค์กรธุรกิจต้องปรับกระบวนทัพแบบเร่งด่วน
เช่นเดียวกับค่าย “แอดไวซ์“ หนึ่งในค้าปลีกไอทีของไทย ได้ปรับกลยุทธ์ในการรับมือตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวจนถึงวิกฤตโควิด พร้อมเปิดเผยผลวิจัยจาก iPrice ในหัวข้อ “สงครามอีคอมเมิร์ซ“
จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานผลิตภัณฑ์ การขายและการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด เปิดเผยว่า จากงานวิจัยโดยการสัมภาษณ์องค์กรธุรกิจกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ของ iPrice ซึ่งเป็นเว็บ Meta-search ในประเทศไทย และอีก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กับหัวข้อ “สงครามอีคอมเมิร์ซ“ (Map of E-commerce) ระบุว่า “แอดไวซ์“ มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2019 ที่ผ่าน และเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี เมื่อสำรวจข้อมูลผ่าน SimilarWeb ย้อนหลัง 6 เดือน ทำให้เห็นกราฟความสำเร็จของแอดไวซ์ พุ่งสูงขึ้นเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019
และมีปรับลดลงเล็กน้อยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Covid–19 แพร่ระบาดอย่างหนักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นช่วงที่ประเทศจีนประกาศปิดเมือง ส่งผลให้การผลิตสินค้าไอทีไม่ว่าจะเป็นแบบสำเร็จรูป หรืออะไหล่ชะงักการผลิตตลอดจนปัญหาการขนส่งฝืดเคือง
แต่ยังมีความน่าสนใจอยู่ที่ กลยุทธ์และปัจจัย ที่ทำให้แอดไวซ์ สามารถตั้งรับและรับมือโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยวิเคราะห์ และสรุป 4 ประเด็นสำคัญดังนี้
ภาพรวมความสำเร็จของ แอดไวซ์ ในปี 2019
เมื่อย้อนไป 3–4ปี ที่ผ่านมา ก่อนที่แอดไวซ์จะประสบความสำเร็จในปี 2019 ทางแอดไวซ์ได้จัดทำแผน เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ซึ่งใช้องค์ประกอบทั้งหมด 2 ส่วนคือ ยอดขาย และกำไร ทางบริษัทแอดไวซ์ได้ปรับแผนโครงสร้างของปี 2019 ใหม่ แบ่งสัดส่วนเป็นค้าส่ง 57% และค้าปลีก 43%
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ โดยเริ่มต้นจาก B2B และมาเพิ่มช่องทางในการทำตลาด B2C ปัจจุบันรองรับลูกค้าทั้งสองกลุ่ม โดยมีการพัฒนาโปรแกรม SOP+ เพื่อสร้างความสะดวกในการซื้อ-ขายสินค้าแก่ดีลเลอร์ให้สามารถดูรายละเอียดสินค้า สต็อกสินค้า หรือคำสั่งซื้อทางออนไลน์ได้
นับเป็นการวางรากฐานที่นำมาสู่การต่อยอดและได้เริ่มทำการตลาดออนไลน์ไปที่กลุ่ม B2C อย่างเป็นระบบส่งผลให้ยอดขายในช่องทางออนไลน์ในปี 2019 ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นถึง 1,000 ล้านบาท พร้อมขยายการขายผ่านช่องทาง E–marketplace ผ่าน Shopee อีกด้วย
สอดคล้องกับ Map of E–commerce Year–end Report 2019 ของ iPrice ที่ชี้ว่า แอดไวซ์ คือ ร้านค้าอีคอมเมิร์ซติดอันดับ 1 ใน 10 ของไทยที่มีจำนวนผู้เข้าชมสินค้ามากที่สุด และติดอันดับแรกของร้านค้าอีคอมเมิร์ซสายไอที
ความท้าทายของธุรกิจไอทีในปี 2020
เนื่องจากมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ผนวกกับการซื้อสินค้าออนไลน์ ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น จากปัจจัยดังกล่าว แอดไวซ์ เล็งเห็นถึงความท้าทายนี้จึงมุ่งพัฒนาระบบ และเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายขึ้น ค้นหาเร็ว แอดไวซ์ จึงเปรียบเสมือน Index ของกลุ่มสินค้าไอที
อีกทั้งในขณะนี้ยังมีกลุ่มผู้ให้บริการ E–marketplace รายใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาทำการตลาดในไทยมากขึ้น ประกอบกับภาพรวมของธุรกิจไอทีตั้งแต่ปี 2018-2019 ไม่ค่อยจะดีตามสถานการณ์เศรษฐกิจรวมทั่วโลก รวมทั้งวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังกระหน่ำหนักตั้งแต่ต้นปี
จึงเหมือนเป็นตัววัดความแข็งแกร่งของเหล่าร้านค้าอีคอมเมิร์ซ หากรายใดวางรากฐานมาดี ผลกระทบที่ได้อาจเป็นแค่การขนส่งล่าช้าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นที่ต้องพึ่งพาสินค้า และการขนส่งจากจีนเพียงอย่างเดียว
แอดไวซ์ กางแผนตั้งรับ COVID–19
จากวิกฤต Covid–19 ส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อสินค้าลดลงอันเนื่องมาจากผู้คนส่วนใหญ่ขาดรายได้ รวมถึงผลกระทบด้านอื่น เช่น ระบบขนส่ง ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเข้า-ออกจังหวัดต่าง ๆ แม้จะล่าช้าไปบ้างแต่ก็ยังผ่านไปได้ ซึ่งลูกค้าของ แอดไวซ์ สามารถเบาใจได้เพราะปัญหาการขนส่งส่วนใหญ่จะเป็นภายในประเทศมากกว่า
และสืบเนื่องจากงานวิจัยเรื่อง iPrice จับมือกับ Parcel Perform เผย 5 ปัจจัย ที่ “ผู้สั่งซื้อ“ ร้องให้ “ผู้ขาย“ หันกลับมามองและช่วยกันปรับปรุง พบว่า นักช้อปชาวไทยสามารถยอมรับการขนส่งที่ล่าช้าได้ หากมีการอัพเดตสถานะอยู่เสมอ
ซึ่งแอดไวซ์ได้เตรียมแผนการรับมือนี้ด้วยระบบขนส่งและการให้บริการอย่างมืออาชีพไม่ทำให้ธุรกจิสะดุด และแม้วิกฤตโควิด-19 จะโจมตีเศรษฐกิจโลกมาอย่างต่อเนื่อง แต่แอดไวซ์ ก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อยู่ ชี้ให้เห็นถึงรากฐานที่มั่นคงของบริษัทได้เป็นอย่างดี
วิกฤตพลิกโอกาส ธุรกิจออนไลน์ เป้าหมายการผลักดันธุรกิจปี 2020
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนธุรกิจ แต่ก็ใช่ว่าวิกฤตที่เกิดขึ้นจะไม่สามารถพลิกเป็นโอกาสได้ จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้คนเลือกอยู่บ้านมากขึ้นรวมถึงพฤติกรรมการบริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย โดยเน้นการหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่าการออกไปเลือกซื้อเองนอกบ้านเพื่อความปลอดภัย
ซึ่ง แอดไวซ์ ได้วางยุทธศาสตร์และเป้าหมายไปที่ธุรกิจออนไลน์อยู่แล้ว และยิ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทำให้แอดไวซ์ต้องกำหนดตำแหน่งของกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้นถือเป็นการบ้านที่ แอดไวซ์ต้องทำการวิเคราะห์ต่อไป แม้ประเทศไทยจะผ่านพ้นสถานการณ์นี้แล้วกลายเป็น New Normal แล้วก็ตาม
ซึ่งในปัจจุบันแอดไวซ์ได้เข้าร่วมกับ E–marketplace อย่าง Shopee เพื่อเพิ่มช่องทางการขายมากขึ้น ทั้งยังสามารถนำพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของลูกค้าในส่วนนี้มาวิเคราะห์เพื่อวางกลยุทธิ์เพิ่มเติมได้อีกด้วย
ถึงแม้จะมีหลายเสียงเล่าอ้างว่า ธุรกิจออนไลน์คงเป็นเพียงธุรกิจเดียวที่ไม่โดนผลกระทบวิกฤต Covid–19 แต่ความจริงแล้วแม้ไม่โดนทางตรงก็โดนทางอ้อม ไม่ว่าจะด้วยปัญหาการขนส่ง สินค้าขาดสต็อก หรือมาตรการ Social Distance ที่ทำให้พนักงานทำงานได้ไม่คล่องเหมือนเดิม เป็นต้น
นอกจากนี้งานวิจัยเรื่องสงครามอีคอมเมิร์ซของ iPrice ระบุอีกว่า เมื่อนำจำนวนผู้เข้าชมสินค้าในเว็บไซต์โดยเฉลี่ยของไตรมาสที่ 4 ปี 2019 มาเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2020 โดยเน้น 10 อันดับร้านค้าอีคอมเมิร์ซสายไอทีสัญชาติไทยจะเห็นว่า มีร้านค้าจำนวนกว่าครึ่งที่มีจำนวนผู้เข้าชมสินค้าเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
โดย แอดไวซ์ เพิ่มสูงสุดถึง 3.6% นอกนั้นมีจำนวนเพิ่มโดยเฉลี่ย 1% แม้ดูเหมือนจะเป็นจำนวนไม่เยอะ แต่ถ้าในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดนี้จำนวนไม่ลดลงก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภูมิใจไม่ใช่น้อยแล้ว
จากผลการวิจัยและวิเคราะห์ดังกล่าวนับทิศทางให้ทางแอดไวซ์ได้วางไว้ เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในทุก ๆ วิกฤตและเชื่อมั่นความความแข็งแกร่ง คุณภาพด้านสินค้า-บริการ ศักยภาพบุคลากรของเราจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้แอดไวซ์เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เข้าสู่สภาวะ New normal ผู้ประกอบการภาคธุรกิจยังต้องเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัว ให้สามารถตอบโจทย์หรือสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด
ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ นอกจากนี้แอดไวซ์ ได้จัดแคมเปญและโปรโมชั่นทางออนไลน์ต่อเนื่องทุกๆ สัปดาห์ โดยสามารถติดตามและรับบริการ ในช่องทางออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊ค ไลน์(LINE) และอินสตราแกรม (IG) ทุกช่องทางให้สะดวก ง่ายในการเลือกซื้อ และติดต่อกับทางแอดไวซ์
พร้อมการขนส่งที่รวดเร็ว เนื่องจากแอดไวซ์มีระบบโลจิสติกส์ที่พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ด้วยระบบการบริหารจัดการมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งด่วน 2 และ 3 และ 5 ชั่วโมง นับจากเวลาได้รับ SMS ซึ่งดูรายละเอียดเงื่อนไขการจัดส่งทางเว็บไซต์
ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าได้รับสินค้าส่งตรงตามเวลา ลูกค้าได้ใช้สินค้าทันเวลา สะดวกรวดเร็ว นับเป็นหนึ่งการใส่ใจด้านการบริการของเรา โดยย้ำจุดเด่นด้านที่ปรึกษาด้านไอที “นึกถึง IT นึกถึง ADVICE ครบจบในทีเดียว”
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th