เอไอเอส (AIS) ยืนยันพร้อมช่วยลูกค้าทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อรับมือ “โควิด” (COVID-19) พร้อมจัดเน็ตเต็มสปีด ทั้งเน็ตมือถือ และเน็ตบ้าน…
highlight
- เริ่มแล้ว! มาตรการแบ่งทีมพนักงานเข้าพื้นที่ทำงานทดแทน พร้อมปฏิบัติงานดูแลลูกค้าอุ่นใจ ตลอด 24 ชม.
AIS ยันพร้อมช่วยคนทำงานรับมือ COVID-19 ด้วยเน็ตประสิทธิภาพสูง
เอไอเอส มอบความห่วงใยให้คนไทยในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19 อย่างใกล้ชิด ล่าสุด ยืนยันความพร้อมดูแลด้านเครือข่ายทั้งมือถือและเน็ตบ้านอย่างเต็มกำลัง เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง Work From Home ทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา กลุ่มคนทำงานออฟฟิศ, เจ้าของกิจการ, องค์กรขนาดเล็กจนถึงใหญ่
ให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและต่อเนื่องในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจน การออกแพ็กเกจและโซลูชัน Work From Home ราคาสุดประหยัด เพื่อเป็นทางเลือกให้คนไทยสามารถเดินหน้าทำงาน ทำธุรกิจ หรือเรียนหนังสือได้อย่างไร้รอยต่อ โดยเอไอเอสได้ดำเนินการเพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งาน (Capacity) อย่างเต็มที่

ตลอดจนเสริมกำลังทีมงานวิศวกรและงานบริการ พร้อมสแตนบายดูแลประสิทธิภาพเครือข่ายทั่วประเทศเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (18 มี.ค. 63) เอไอเอส ได้เริ่มดำเนินการแบ่งทีมพนักงานให้สามารถทำงานทดแทนซึ่งกันและกันได้แล้ว รวมถึง จัดแบ่งพนักงานบางส่วนเข้าทำงานในพื้นที่ทดแทนแล้ว
พร้อมเน้นย้ำให้พนักงาน และพาร์ทเนอร์ทุกคน ดูแลใส่ใจเรื่องสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกค้าได้อุ่นใจในการรับบริการในทุกช่องทาง

วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้หลายองค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา ต้องเริ่มทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ในช่วงนี้
ดังนั้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสาร และทำงานได้อย่างต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพไม่ต่างจากการทำงานใน Office จึงได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ อย่างเต็มที่ ประกอบด้วย
- เสริมกำลังเครือข่าย เพิ่มความสามารถในการรองรับการใช้งาน (Capacity) ของเครือข่ายทั้ง 5G, 4G, 3G และ เอไอเอส ซุปเปอร์ ไว-ไฟ และ เอไอเอส ไฟเบอร์เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตของลูกค้าที่ทำงานจากที่บ้าน
- เสริมกำลังทีมงานวิศวกร และงานบริการ พร้อมสแตนบายดูแลประสิทธิภาพเครือข่ายทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งส่วนกลางและศูนย์บริหารเครือข่ายส่วนภูมิภาค เพื่อให้พร้อมแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ตลอดจนทีมงานบริการลูกค้า ทั้งทีม เอไอเอส Contact Center 1175 และ ทีมดูแลลูกค้าองค์กร 1149และทีมโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง พร้อมให้คำแนะนำและให้บริการลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง
- สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยทำความสะอาดบริเวณต่างๆ ภายใน Touchpoint ทั้ง Serenade Club และ เอไอเอส ช้อป ทุกสาขา ในทุก ๆ 1 ชั่วโมง พร้อมทั้งฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคภายหลังจากปิดให้บริการแล้วทุกวัน

โดยในช่วงที่ผ่านมา เอไอเอส ได้เริ่มดำเนินมาตรการตามแผน BCP-Business Continuity Plan เพื่อให้การปฏิบัติงานในทุกส่วนเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่หยุดชะงัก และลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดสู่ส่วนรวม ดังนี้
- แบ่งทีมพนักงานที่สามารถทำงานทดแทนซึ่งกันและกันได้แล้วในทุกส่วนงาน ไม่ว่าจะเป็น ทีมวิศวกร, ทีมบริการลูกค้า,ทีม Operation ฯลฯ โดยเบื้องต้นได้แบ่งออกเป็น 2 ทีม ทำงานคู่ขนาน และสอดรับกัน เพื่อให้การปฏิบัติงานเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาช่วยในการทำงานอย่างไร้รอยต่อ

- ดำเนินการจัดแบ่งพนักงานบางส่วนเข้าทำงานในพื้นที่ทดแทนแล้ว รวมถึงมีการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างสม่ำเสมอ ให้พร้อมรับมือได้อย่างราบรื่น ไม่กระทบกับการให้บริการลูกค้า
- ย้ำเรื่องการดูแลสุขอนามัยของพนักงานเอไอเอส, ตัวแทนจำหน่าย, ช่างติดตั้ง เอไอเอส ไฟเบอร์ อย่างเคร่งครัด รวมถึง จัดอบรมให้ความรู้และวิธีการป้องกันเกี่ยวกับเชื้อไวรัส COVID-19 โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้ง ขยายกรมธรรม์ประกันชีวิต COVID-19 อีก 1 ปี ให้กับพนักงานทุกคนทุกระดับ รวมทั้ง ตัวแทนจำหน่าย และพาร์ทเนอร์ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
“สิ่งสำคัญที่สุด คือ อำนวยความสะดวกให้ทุกการใช้งานของลูกค้าต้องเป็นไปอย่างราบรื่น และไม่หยุดชะงัก รวมถึงความปลอดภัย และสวัสดิภาพของพนักงานที่ต้องดูแลลูกค้า ก็เป็นสิ่งที่เราใส่ใจ และดูแลให้อุ่นใจในสภาวะวิกฤติเช่นนี้”

ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th
























