เอไอเอส (AIS) เปิดแผนยุทธศาสตร์ 5G หลังมีคลื่นกว่า 1420MHz และก้าวสู่ผู้ให้บริการ World’s Best-In-Class ตั้งเป้ามุ่งขยายสู่ภาคอุตสาหกรรม และพื้นที่ EEC เสริมศักยภาพประเทศ…
highlight
- เอไอเอส รุกประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5G หลังชนะการประมูลคว้าคลื่น 5G จำนวนมากที่สุด ครบทั้ง 3 ย่านความถี่ 700 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เสริมศักยภาพผู้นำเครือข่ายดิจิทัลอันดับ 1 ตัวจริง พร้อมนำ 5G พลิกโฉมการยกระดับประเทศไทยไปอีกขั้น สร้าง Big Move ก้าวย่างครั้งยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงและทรานส์ฟอร์มทุกภาคส่วน ทั้งภาคผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ 5G ที่ดีที่สุด เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย
เอไอเอส แผนยุทธศาสตร์ AIS 5G ตั้งเป้ามุ่งขยายสู่ภาคอุตสาหกรรม และพื้นที่ EEC
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของเราที่มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลมายกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เอไอเอสจึงตั้งใจอย่างยิ่งในการเข้าประมูลคลื่น 5G แบบเต็ม Block ในทุกย่านความถี่ โดยมีครบทั้งย่านความถี่ต่ำ ย่านความถี่กลาง และย่านความถี่สูง
ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ประกอบด้วย คลื่น 700 MHz จำนวน 30 MHz (2×15 MHz), คลื่น 2600 MHz จำนวน 100 MHz และคลื่น 26 GHz จำนวน 1200 MHz รวมคลื่นความถี่ 5G ทั้งหมดอยู่ที่ 1330 MHz และเมื่อรวมกับคลื่นความถี่เดิมที่ เอไอเอส มีจำนวนมากที่สุดอยู่แล้ว
ส่งผลให้เอไอเอสยังคงยืนหยัด ผู้นำอันดับ 1 ที่มีคลื่นความถี่ในการให้บริการ 4G และ 5G มากที่สุดในอุตสาหกรรม รวม 1420 MHz (ไม่รวมความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์) ซึ่งหมายความว่า เราจะมีขีดความสามารถที่จะส่งมอบบริการและโซลูชันส์คุณภาพดีที่สุด จากปริมาณคลื่นความถี่
ซึ่งเทียบเท่ามาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลก หรือ World’s Best-In-Class ที่ต่างเตรียมปริมาณแบนด์วิธอย่างน้อย 100 MHz ขึ้นไปทั้งสิ้น เพื่อให้สามารถนำมาสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศได้มากยิ่งกว่าใครในอุตสาหกรรม ทั้งนี้หมายรวมถึงคุณภาพการให้บริการในภาพรวมจาก 4G ปัจจุบันของเอไอเอสด้วยเช่นกัน
เพราะ 5G คือ เทคโนโลยีที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ให้แข็งแกร่งและนำพาประเทศไทยให้ก้าวไปอีกขั้นตามเจตนารมณ์ของภาครัฐ ที่ผ่านมา เอไอเอสจึงร่วมทดลอง ทดสอบกับพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรม Sector หลักๆมาอย่างต่อเนื่อง
อาทิ ภาคการผลิต, ภาคขนส่ง, ภาคคมนาคม, ภาคสาธารณสุข, ภาคการศึกษา,ฯลฯ จนมีความรู้และประสบการณ์ที่สามารถจะนำมาสร้างสรรค์รูปแบบบริการได้อย่างตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพมากที่สุดได้ทันที ดังนั้นวันนี้ จึงพร้อมนำ 5G เข้าไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง
เพื่อปฏิวัติการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม (Growth Revolution) อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ EEC ซึ่งได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำในพื้นที่อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น สนามบินอู่ตะเภา, ท่าเรือแหลมฉบัง, อมตะนคร, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศรีราชา, ฯลฯ”
ส่วนในด้านผู้บริโภคนั้น เราก็พร้อมส่งมอบประสบการณ์จากเทคโนโลยี 5G ที่ดีที่สุดเช่นกัน โดยยืนยันได้จากความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลกทุกราย ที่จะให้คนไทยได้สัมผัสกับไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่อโลกออนไลน์ที่เร็ว แรง เสถียร เหนือระดับยิ่งกว่าใคร โดยวันนี้ เอไอเอสได้เริ่มเปิดสัญญาณ 5G เป็นรายแรก
เพื่อทดลองทดสอบ 5G บนคลื่นความถี่ 2600 MHz บนเครือข่ายจริง ณ สถานที่จริง อาทิ สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, แยกอโศก รวมถึงในเขตภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับบริการ 5G ที่ดีที่สุด ก่อนเปิดให้บริการจริงในเร็ว ๆ นี้รวมถึงยังเริ่มเชิญลูกค้ากลุ่มแรกให้มาร่วมทดลองทดสอบ
เพื่อสร้างประสบกรณ์ 5G ที่ดีที่สุดไปด้วยกัน พร้อมเตรียมโซน 5G Trial ให้ลูกค้าและประชาชนได้เข้ามาลองสัมผัสกับเครือข่ายและอุปกรณ์ดีไวซ์ 5G ที่ AIS Flagship Store เซ็นทรัลเวิลด์ และ สยามพารากอน ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป วันนี้ เอไอเอส ขอยืนยันว่าด้วยความพร้อมของบริษัท รวมถึงขีดความสามารถของบุคลากร
ที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความมุ่งมั่นตั้งใจ ตลอดจนการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในทุกอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด จะทำให้เอไอเอสสามารถส่งมอบบริการ 5G ที่มีคุณภาพดีที่สุด พร้อมเป็นกลจักรสำคัญที่จะพลิกโฉมประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ก้าวสู่ Digital Intelligent Nation ได้อย่างสมบูรณ์
ก้าวสู่ผู้ให้บริการแบนด์วิธระดับ World’s Best–In–Class
วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการ และสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส เปิดเผยข้อมูลด้านเทคนิคเครือข่ายเพิ่มเติม ว่า วันนี้ เครือข่าย เอไอเอส 5G คือ เครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นเพียงรายเดียวที่มีจำนวนคลื่นมากที่สุดในแต่ละย่านแล้ว
ยังเป็นเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีปริมาณแบนด์วิธภาพรวมในระดับ World’s Best-In-Class ตามมาตรฐานของผู้ให้บริการระดับโลกที่ต่างมีแบนด์วิธในปริมาณอย่างน้อย 100 MHz ขึ้นไป อันจะส่งผลให้เครือข่ายของเรามีขีดความสามารถในการสร้างสรรค์ ออกแบบ Solutions , ปรับเปลี่ยน,Tailor Made
เพื่อตอบโจทย์แต่ละอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในภาพรวมเครือข่าย เอไอเอส 5G จะมีความเร็ว Speed ที่สูงกว่าถึง 24 เท่าและมีขีดความสามารถในการรองรับการใช้งาน Capacity ที่มากกว่าถึง 30 เท่า และมี Latency ต่ำกว่าเดิมถึง 10 เท่า
ด้วยมาตรฐานเทคโนโลยี 5G โดย 3GPP ระบุว่า คลื่น 700 MHz จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ที่จำนวนเต็ม 30 MHz (2×15 MHz) จึงเป็นที่มาของความตั้งใจในการเข้าประมูลย่าน 700 MHz เพิ่มอีก 10 MHz (2×5 MHz) จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 20 MHz (2×10 MHz) รวมเป็น 30 MHz (2×15 MHz)
ในขณะที่ คลื่น 2600 MHz ต้องมีจำนวน 100 MHz จึงจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเช่นกัน ส่วนคลื่น 26 GHz ต้องมีจำนวน 400 MHz ต่อ 1 Block จึงจะสามารถให้บริการ 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการรองรับดิจิทัลโซลูชันส์ให้กับภาคอุตสาหกรรมในอนาคตนั่นเอง
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th