คลาวด์เบรค (Cloudbreakr) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้านการวิเคราะห์สื่อจากฮ่องกง พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI Influencer marketing ลั่นพร้อมช่วยองค์กรธุกิจนำเสนอธุรกิจท่ามกลางการเติบโตของสื่อใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัล…
highlight
- คลาวด์เบรค (Cloudbreakr) ด้านการวิเคราะห์สื่อจากฮ่องกง พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มด้าน Influencer Marketing ให้แก่องค์กรธุรกิจไทย เล็งเริ่มในไตรมาสแรก ของปี 2020
- ตระกูลมหากิจศิริ โดดร่วมลงทุนสื่อ Micro Influencer Marketing ประเดิมธุรกิจในกลุ่ม PM Group
Cloudbreakr AI Influencer Marketing ตัวช่วยธุริจในยุคสื่อใหม่
คลาวด์เบรค เป็นบริษัทผู้พัฒนาซอฟท์แวร์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI และ Big Data Analytics ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้นักการตลาดและธุรกิจของแบรนด์คู่ค้า ได้รับข้อมูลที่กำลังเป็นประเด็นล่าสุดบนสื่อดิจิทัล และกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมกับแบรนด์มากที่สุด
เพื่อสร้างโอกาสที่ดีในการร่วมมือระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ทุกประเภท ด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่คลอบคลุมนับร้อยล้านแบบ ทำให้ คลาวด์เบรค สามารถจับตามองและใกล้ชิดกับอินฟลูเอนเซอร์ มากกว่า 100,000 คน รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย
ซึ่งครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำการตลาดแต่ละแคมเปญโดยในด้านการลงทุน คลาวด์เบรค ได้รับเงินสนับสนุนระดับ Pre-Series A รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือคิดเป็นเงิน 1.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และกองทุน Hong Kong X Technology Fund อีกทั้งยังได้รับเงินลงทุนจาก Beyond Ventures, Alibaba Entrepreneurs Fund, และตระกูล “มหากิจศิริ“ โดยคุณกึ้ง เฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA)
เล็งขยายธุรกิจรุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คาดการณ์ในอนาคตว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลบนแพลตฟอร์ม คลาวด์เบรค รวมถึงเทคโนโลยี AIPower ที่พัฒนาซอฟท์แวร์สำหรับการวิเคราะห์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย (Content Analysis) และเครื่องมือทางการตลาด (Influencer Marketing tools) อีกด้วย
นอกจากนี้เงินลงทุนสนันสนุนจะถูกนำไปใช้เพื่อพัฒนาในตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในประเทศต่าง ๆ อาทิ ประเทศไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
สนับสนุนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ท่ามกลางการเติบโตของสื่อใหม่ ๆ ในยุคดิจิทัล คลาวด์เบรค เล็งเห็นความสำคัญ และมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูล และเครื่องมือ Project Management
ที่ช่วยจัดการและบริหารโครงการให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยบริษัทปรับปรุงข้อมูลให้ครอบคลุมในแถบเอเชีย และสำรวจข้อมูลที่มีเนื้อหาเชิงลึก (Value Content and Insights) สำหรับนักสร้างคอนเทนต์ (Content Creator) และแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับกระแสการตลาดในเอเชียล่าสุด และประสบความสำเร็จจากการตลาด
ในรูปแบบการตลาดด้วยอินฟลูเอนเซอร์ (Micro Influencer Marketing), การทำการตลาดผ่านเนื้อหา (Content Marketing), และการวิเคราะห์มติมหาชน (Public Opnion Analysis) โดย คลาวด์เบรค ยังมีบริการต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้งานในการค้นหา, คัดกรองข้อมูล, เรียกดูโปรไฟล์ของสื่อ
และอินฟลูเอนเซอร์บนแพลตฟอร์มโซเชียล โดยที่ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์และเปรียบเทียบประสิทธิภาพของอินฟลู
เอนเซอร์กับผู้ติดตามได้
นอกจากนี้ บริษัทยังใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนาคุณภาพการบริการ, เครื่องมือสำหรับการติดตามคีย์เวิร์ด (Keyword tracking), วิเคราะห์ข้อมูลจากภาพ (Image Analysis) และวัตถุประสงค์ทางการตลาด อินฟลูเอนเซอร์ (Micro Influencer Marketing) ให้ครอบคลุมกว่า 6 ประเทศในแถบเอเชีย
“มหากิจศิริ” โดดร่วมลงทุนบริการ Influencer Marketing
นอกเหนือจากผู้ร่วมลงทุนแล้ว คลาวด์เบรค ยังได้รับเงินลงทุนสนันสนุนจากตระกูล “มหากิจศิริ” ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 14 ของเมืองไทย
ปัจจุบัน มีธุรกิจครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น อุตสาหกรรมค้าปลีก และสินค้าอุปโภคบริโภค ตัวอย่างเช่น แบรนด์เนสกาแฟ ภายใต้ PM Group ซึ่งครองสัดส่วนในตลาดกาแฟของไทยถึง 60% และยังมีแบรนด์ Krispy Kreme, Pizza Hut, Mugendai, Coffee Gallery ในอุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย
จนถึงวันนี้ คลาวด์เบรค ได้ให้บริการแพลตฟอร์ม Influencer Marketing กับบริษัทมากกว่า 100 แห่ง ทั้งแบรนด์ต่างประเทศที่ทำงานร่วมกับนักการตลาดมากกว่า 10,000 คนทั่วโลก รวมถึงแบรนด์ดังในไทยอย่าง Au Bon Pain, Baskin Robbins, และ Taco Bell
ธุรกิจสตาร์อัพของ คลาวด์เบรค เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Hong Kong AI and Data Laboratory ซึ่งเป็นโครงการร่วมของอาลีบาบา, SenseTime, และ Hong Kong Science and Technology Parks Corp (HKSTP) โดยมีกำหนดการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ในต้นปี 2563
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th