รีวิว ECOVACS X1 OMNI ที่สุดของหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจริยะแบบ All-in-One

รีวิว ECOVACS X1 OMNI ผู้ช่วยยุคใหม่สำหรับทำความสะอาดบ้านที่ล้ำ ใช้งานง่าย และฉลาดกว่าเดิม มาพร้อมจัดเต็มฟีเจอร์จัดเต็มที่ช่วยดูแลบ้านแทนมนุษย์…

รีวิว ECOVACS X1 OMNI ที่สุดของหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจริยะแบบ All–in–One

หากเอ่ยถึงชื่อ “อีโค แวค“ (ECOVACS) แบรนด์หุ่นยนต์บริการชั้นนำของโลกแล้วล่ะก็ เชื่อว่าวันนี้คงจะกลายชื่อที่หลายคนคุ้นหูไม่มากก็น้อย เพราะตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาทาง อีโค แวค เองได้ทยอยเปิดตัวหุ่นยนต์ทำความสะอาดมากแล้วหลายรุ่น และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในหลายประเทศ ว่าเป็นหนึ่งในหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง และใช้งานง่าย ด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย

สำหรับตัวแอดมินเองต้องยอมรับตรง ๆ ว่าเคยผ่านหูมาบ้าง แต่ไม่เคยได้มีโอกาสไปทดสอบการใช้งานจริง ทำให้ไม่เคยกล่าวถึงในกับแฟน ๆ ของ ITday ฟังมาก่อน ล่าสุดหลังมีการเปิดเผยว่าจะมีการนำหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นใหม่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ทางทีมงานก็ได้รับการติดต่อจากทางผู้จัดจำหน่ายโดยส่งเจ้า อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ (Ecovacs X1 Omni) มาให้ทำการทดสอบการใช้งานจริง ซึ่งหลังจากที่ได้ทดสอบมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ก็คงต้องบอกเลยว่าเจ้า “อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ“ ตัวนี้ได้ใจแอดมินไปเต็ม ๆ แต่จะมีดีอย่างไรเดี๋ยวแอดมินจะเล่าให้ฟังครับ

ติดตั้งง่าย และใช้งานง่ายมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ

ในการติดตั้งแครื่องเพื่อเริ่มต้นการใช้งานเจ้า อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ ตัวนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างง่ายมากครับเนื่องจากตัวเครื่องนั้นแทบจะไม่มีการแยกชิ้นส่วนอะไรออกมาเยอะมากนัก เมื่อเปิดตัวกล่องออกมาเราก็จะพบกล่องอุปกรณ์เพียงไม่กี่กล่องเท่านั้น

โดยจะเป็นกล่องที่ให้คู่มือ กล่องใส่แปรงปัดฝุ่น แป้นตัวถูพื้น และสายไฟ 2 เส้นครับ โดยมีการจัดแยกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน ซึ่งการที่การแบ่งแยกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจนแอดมินว่าทำให้ประกอบง่าย และไม่สับสนดีครับ แต่แอบติดอยู่เรื่องเดียวตัวเครื่องนั้นค่อนข้างจะมีน้ำหนักที่มากพอสมควร ดังนั้นการเคลื่อนย้ายควรจะให้เป็นผู้ชายจะดีกว่าครับ

ในส่วนขั้นตอนติดตั้งอุปกรณ์อย่าง แปรงปัดฝุ่น แป้นตัวถูพื้น และสายไฟ นั้นก็ทำได้ง่ายครับเพียงแค่เสียบเข้าไปในตำแหน่งที่ด้านใต้เจ้าตัวโรบอทแล้วอกแรงนิดเดียวก็ได้แล้วครับ ในขณะเดียวกันการดึงออกก็ทำได้ง่ายมากเช่นเดียวกันครับ แต่ตัวผ้าเช็ดพื้นมีอายุการใช้งานต้องเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงเวลากำหนด หรือใครขี้เกียจจะใช้ระบบถูพื้นด้วยก็แค่ถอดเอาถังน้ำ และ และ ผ้าเช็ดออก เท่านั้น

ขณะที่ในส่วนของ OMNI Station ซึ่นเป็นแท่นให้เจ้าโรบอทนั้นกลับเข้ามาชาร์ทไฟนั้น ตัว OMNI Station จะมีฝาเปิดแบบยกขึ้นไปด้านหลังครับ ซึ่งเมื่อเปิดขึ้นมาก็จะพบกับแท็งค์พลาสติก 2 แท็งค์ ขนาด 4 ลิตร ซึ่งแว่บแรกแอดมินแอบงงว่าเอาไว้ทำอะไรเมื่อเปิดอ่านคู่มือก็ถึงบางอ้อ! ครับ

เจ้าตัวแท็งค์พลาสติกนั้นมีเอาให้ใส่น้ำสำหรับน้ำสะอาด เพื่อให้เจ้าหุ่นโรบอทนำไปซักตัวแป้นตัวถูพื้น 1 ฝั่งครับ (ฝั่งสีฟ้า) ส่วนอีกแท็งค์มีเอาไว้เก็บน้ำที่ได้ทำการซักล้างเจ้าตัวแป้นถูพื้นครับ

ซึ่งแท็งค์พลาสติก 2 แท็งค์นั้นสามารถยกขึ้นมาเปลี่ยนน้ำ และเทน้ำน้ำสกปรกทิ้งได้นั่นเองครับ (ฝั่งสีดำ) โดยเพียงแค่เรายกหูหิ้วพลาสติกขึ้นมาแล้วปลดล็อคที่ด้านหน้าขึ้นแล้วก็ไปเทน้ำทิ้ง หรือเติมน้ำสะอาดใหม่ ลงไปครับ และ แป้นตัวถูพื้นเองก็สามารถถอดอกไปซักหรือทำความสะอาดได้อีกด้วยครับ

ในส่วนของด้านหน้าตัวเครื่องนั้นจะมีช่องแบบฝาปิดด้านหน้าที่มีถุงผ้าที่คอยเอาไว้เก็บฝุ่นที่ตัวโรบอทนั่นดูดเก็บมาได้ซึ่งสามารถถอดออกได้เพื่อนำไปเททิ้งถังขยะครับ โดยวิธีการเปิดนั่นก็แค่กดดันที่ฝาเบา ๆ ตัวฝาก็จะเด้งออกมาให้เราดึงออกมาได้ง่าย ๆ เลยครับ ส่วนขั้ตอนการดึงออกมาแอดมินขอแนะนำผู้สนใจจะซื้อไปใช้งานให้ระมัดระวังกันซักนิดเพราะหากรุนแรงมากไปอาจทำให้ขาดได้ครับ

ขณะที่ตัวด้านหลังของ OMNI Station นั้นจะมีช่องไว้สำหรับเสียบปลั๊กไฟมาให้ครับ ซึ่งตัวสายจะมีมาให้ 2 แบบ ด้วยกันเพื่อเอาใช้งานกับเปาปลั๊กไฟที่ในแต่ล่ะบ้านจะมีไม่เหมือนกันครับ โดยส่วนตัวแล้วแอดมินว่าตัวสายค่อนข้างสั้นเหมาะสำหรับการวางเข้ามุม ดังนั้นบ้านไหนไม่มีพื้นที่วางตัวเครื่องไว้ใกล้เปาปลั๊กไฟก็อาจจะต้องหาซื้อเปาปลั๊กไฟรางมาต่อเชื่อมเพิ่มเติมครับ

นอกจากนนี้ที่ตัวของฝาเปิดแบบยกขึ้นไปด้านหลังทางด้านบนเราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีปุ่มแบบสัมผัส 3 ปุ่มด้วยกัน เพื่อเอาไว้สั่งงานในกรณีที่ต้องการเรียกเจ้าตัวโรบอทกับเข้า OMNI Station ซึ่งเมื่อกดก็จะมีเสียงดังขึ้น หรือเอาไว้สั่ง

ในส่วนของตัวโรบอทนั้นเท่าที่แอดมินดูรูปทรงแล้วค่อนข้างจะหนักไปทางดีไซน์ทั่วในที่มีในตลาดครับ แต่ที่แตกต่างตัวเครื่องด้านบนจะแท่นวงกลมยื่นขึ้นมาข้องค่อนสูงครับ และตัวฝาที่ปิดด้านบนนั้นสามารถยกขึ้นมาได้เพื่อทำการเปิดการใช้งานครับ ขณะที่ด้านหลังจะมีช่องระบายอากาศ และด้านข้างจะมีช่องสำหรับเซ็นเซอร์เพิ่มเติมครับ ส่วนด้านหน้าตัวเครื่องโรบอทนั้นจะมีกล้องมาให้ถึง 3 ตัวครับ

ด้านใต้เครื่องโรบอทนั้นจะมีช่องสำหรับเอาไว้เสียบตัวแปรงปัดฝุ่น แป้นตัวถูพื้น ซึ่งตัวแปรงปัดฝุ่น นั้นจะอยู่ด้านหน้าใกล้ส่วนที่เป็นล้อพลาสติกครับ โดยจะเป็นช่องแบบคลิกล็อคกันไม่ให้หลุดง่ายครับ ส่วนช่องสำหรับใส่ตัวแป้นถูพื้นจะอยู่ด้านท้ายเครื่องเป็นในรูปแบบเสียบเข้าไปครับซึ่งก็พอดีไม่หลุดง่ายเช่นกันครับ แต่หากใช้งานไปนาน ๆ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนนะครับ เพราะเนื่องจากมีแรงเหวี่ยงหมุนค่อนข้างแรง สำหรับตัวล้อสำหรับขับเคลื่อนนั้นจะเป็นล้อใหญ่ที่อยู่ด้านข้างของตัวเครื่องครับ โดยตัวล้อจะเป็นยางทำให้วิ่งได้ในหลายสภาพพื้นผิวครับ ส่วนตรงกลางเครื่องจะเป็นแผงแปรงรูปสีเหลี่ยมครับเพื่อค่อยดักจับฝุ่นเข้าไปเก็บที่ถุงเก็บฝุ่นที่ด้านหน้าตัวเครื่อง

ยุคใหม่ของหุ่นยนต์สำหรับการใช้งานในบ้าน

สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เจ้า อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ นั้นเราสามารถใช้การแสกน QR Code ที่อยู่ใต้ฝาเครื่องของตัวโรบอทได้ครับ หรือจะกดค้นหาใน App Store หรือ Apple Store หรือ iOS ก็ได้ครับ โดยพิมพ์ค้นคำว่า “ECOVACS HOME“ ครับ สำหรับคนที่ใช้ iOS เมื่อโหลดเสร็จแล้วให้กดเปิดตัว App ซึ่งก็จะปรากฏหน้าต่าง Welcome to TestFtight ให้เรากด Continue เพื่อไปหน้าต่างถัดไปครับ แล้วรอจนกว่าหน้าจอด้านล่างจะขึ้นมา เมื่อมาอยู่หน้าต่างที่มีโลโก้แล้วให้เรากด “Accept“ ซึ่งตัว App จะเช็คเวอร์ชันของ App ถ้ายังไม่ได้อัพเดทให้เรากดตกลงที่อัพเดทก่อนครับ สำหรับคนที่ใช้ App Store เมื่อเสร้จขั้นตอนที่กล่าวข้างต้นตัว App จะขึ้นหน้าต่างให้ใส่ Password ให้เราใส่ “ecovacs“ ครับ สำหรับคนที่เผลอไปดาวน์โหลดเวอร์ชันอื่นไปแล้วให้ลบออกก่อน แล้วโหลดใหม่ครับ

ในกรณีที่เราใช้วิธี แสกน QR Code ที่อยู่ใต้ฝาเครื่องของตัวโรบอท ให้เราเชื่อมต่อกับ Wi–Fi ที่บ้าน แล้วเปิดเครื่อง โดยเลื่อนปุ่มสีแดงจนหลอดไฟสว่าง กด Next ต่อไปเรื่อย ๆ ตัวเครื่องก็จะเริ่มทำการเชื่อมต่อกับตัวโรบอทครับ โดยหลังจากที่เราเชื่อมต่อสำเร็จแล้วเราสามารถเพิ่มต้นใช้งานเจ้า อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ ได้ทันทีเลยครับ โดยความพิเศษที่เหนือกว่าคู่แข่งนั้น อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ จัดมาให้เต็มทีเลย เนื่องจากเจ้าตัวเครื่องนั้นมีฟังก์ชันการทำความสะอาดที่ทันสมัยมาก โดยมีระบบถูพื้นที่แข็งแรงที่สุดอย่าง OZMO™️ Turbo 2.0 Rotary Pressure Mopping System โดยรวมรอบการหมุนแบบแรงดันสูง ที่มีความเร็วสูงที่ 180 rpm (รอบการหมุนต่อนาที) ทำให้สามารถกำจัดคราบฝังลึกอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นคราบกาแฟ หรือคราบซอส แม้จะผ่านไปแล้ว 3 วัน ก็ตาม และยังมีเทคโนโลยีระบบดูดอันทรงพลัง OZMO™️ Turbo 2.0 Rotary Pressure Mopping System ที่สามารถทำให้แผ่นถูพื้นมีความชื้นอยู่เสมอเพื่อให้สามารถกวาด และถูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีเทคโนโลยี TrueMapping 2.0 ช่วยให้สามารถสร้างแผนที่ได้เร็วขึ้น 10 เท่า เพิ่มช่วงในการมองภาพเป็นสองเท่า ลดระยะเวลาในการทำความสะอาดลง 25% และช่วยให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ บ้านในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันได้แม่นยำมากขึ้น ตัวเครื่องยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ RGBD ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ที่มีความซับซ้อนสูงสุดที่พัฒนาโดย ECOVACS รวมถึงเทคโนโลยีภาพที่มีช่วงไดนามิกแบบ HDR และสามารถจับภาพของสภาพแวดล้อมพร้อมข้อมูลเชิงความหมาย (semantic information) ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยี AIVI™️ 3D ที่ทำให้ ECOVACS ทำให้สามารถสร้างแผนที่บ้านแบบ สามมิติ ได้

โดยทำหมดทำงานด้วยขุมพลังจากชิป Horizon GAI ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ออโตไพลอท (Auto pilot) ทำให้ระบุ และรับรู้วัตถุที่ต่างชนิดกันได้และแบ่งพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านเพื่อการทำความสะอาดแบบตรงจุด เฟิร์มแวร์ของชิปยังรองรับการอัปเกรดแบบ over–the–air (OTA) อีกด้วย และหมดห่วงเรื่องของระยะเวลาในการใช้งานเนื่องจากตัวเครื่องนั้นจะกลับเข้า OMNI Station ทันทีเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด และกลับไปทำงานต่อในจุดพื้นที่เดิมที่เครื่องดำเนินงานอยู่ก่อนที่จะกลับเข้า OMNI Station และที่พิเศษมากขึ้นไปอีกคือตัวเครื่องนั้นสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ครับ โดยเป็นระบบโต้ตอบด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติในตัวที่เรียกว่า “YIKO” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการโต้ตอบด้วยเสียงระบบ AI กล่าวคือเมื่อเราสั่งงานให้ทำงาน หรือจะให้กลับเข้า OMNI Station ก็เเค่พูดว่า OK YIKO แล้วต่อด้วยคำสั่งที่ต้องการ แค่ทั้งนี้ตัวเครื่องยังไม่รองรับการสั่งงานภาษาไทยนะครับ สั่งได้แต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น เช่น “OK YIKO, quick map building.” เป็นต้น

สรุปการใช้งาน

หลังจากที่ทดลองใช้มาเกือบ 2 เดือน อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ ถือเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ค่อนข้างครบเครื่องในการใช้งาน และมีฟังก์ชั่นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก โดยในส่วนของคุณภาพในการทำความสะอาดถือว่าจัดอยู่ในเกณฑ์ทีดีมาก มีการแยกส่วนของแท็งค์เก็บน้ำสะอาด และน้ำสกปรก ทำให้บ้านมีความสะอาดอยู่ตลอดเวลา แถมยังสะดวกสบายมากเพราะสามารถสั่งงานทั้งจากสมาร์ทโฟน และออกคำสั่งเสียง โดยในส่วนของกล้องที่มาให้ถึง 3 ตัว ทำให้ตัวเครื่องวางแบบแผนที่ในการทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมได้เป็นอย่างดี โดยเก็บฝุ่น ขน เศษด้าย ได้สะอาด (ที่บ้านแอดมีแมวอยู่ 1 ตัว ตัวเครื่องก็สามารถเก็บขนเหมียวได้หมดเกลี้ยง) และเรายังสามาถใช้กล้องที่มีอยู่ใช้เป็นเหมือนกล้องวงจรปิดได้ เมื่อเรามีธุระต้องออกไปข้างนอกบ้าน เราสามาถดูภาพภายในบ้านผ่านเลนด์กล้องได้ในทันที แต่อย่างไรก็ด้วยความที่ตัว OMNI Station นั้นมีขนาดที่ใหญ่ และมีน้ำหนักมากก็ทำให้ลำบากในการเคลื่อนย้ายจุดตั้งเครื่องได้ และส่วนการสั่งงานด้วยเสียงที่ยังใช้ได้เพียงภาษอังกฤษทำให้ลำบากสำหรับคนที่ออกเสียงไม่ชัด อย่างไรก็ดีสรุปโดยรวมแล้ว อีโค แวค เอ็กซ์วัน ออมนิ ถือเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา

ข้อดี

• มมีระบบถูพื้นที่แข็งแรงที่สุดอย่าง OZMO™️ Turbo 2.0 Rotary Pressure Mopping System โดยรวมรอบการหมุนแบบแรงดันสูง ที่มีความเร็วสูงที่ 180 rpm (รอบการหมุนต่อนาที)
• รองรับเทคโนโลยี AIVI™️ 3D ทำให้ ECOVACS ทำให้สามารถสร้างแผนที่บ้านแบบ สามมิติ ได้
• มีเทคโนโลยี TrueMapping 2.0 ช่วยให้สามารถสร้างแผนที่ได้เร็วขึ้น 10 เท่า
• มีเทคโนโลยีการโต้ตอบด้วยเสียงระบบ AI
• ระบบดูดอันทรงพลัง OZMO™️ Turbo 2.0 Rotary Pressure Mopping System ที่สามารถทำให้แผ่นถูพื้นมีความชื้นอยู่เสมอ

ข้อเสีย

• น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
• ไม่รองรับการสั่งงานด้วยภาษไทย

ราคา และการวางจำหน่าย

ราคาขายปลีกของ ECOVACS DEEBOT X1 OMINI อยู่ที่ 36,900 บาท และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการบน Shopee ครับ

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

• Facebook
• Twitter
• Line