กฟผ. (EGAT) ดึงเทคโนโลยี “เอไอ” (AI) ของ “ไอบีเอ็ม” (IBM) เข้าช่วยบริหารจัดการอุปกรณ์สำคัญๆ ของโรงผลิตไฟฟ้า…
EGAT ดึง AI จาก IBM บริหารจัดการอุปกรณ์สำคัญของโรงไฟฟ้า
ไอบีเอ็ม ประกาศ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หน่วยงานผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน ได้นำโซลูชันบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ใช้เทคโนโลยีเอไอของไอบีเอ็ม เข้าช่วยบริหารจัดการอุปกรณ์สำคัญๆ ของโรงผลิตไฟฟ้า
โซลูชันแม็กซิโมสำหรับการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Maximo Enterprise Asset Management) ที่ใช้เทคโนโลยีเอไอของไอบีเอ็ม และติดตั้งโดยบริษัท ทริปเปิลดอท คอนซัลติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของไอบีเอ็ม ได้ช่วยให้ กฟผ. สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ต่าง ๆ ในแบบองค์รวม
ตั้งแต่กระบวนการซ่อมบำรุง การบริหารคลังอุปกรณ์ การจัดซื้อชิ้นส่วน ไปจนถึงการบริหารจัดการซัพพลายเออร์ ตัวอย่างเช่น วันนี้ กฟผ. สามารถใช้เอไอช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงเพื่อเสริมการตัดสินใจ สามารถเห็นความเคลื่อนไหวของอุปกรณ์แต่ละประเภทที่มีอยู่ในคลัง
รวมถึงบริหาร และกำหนดลำดับความสำคัญของงานซ่อมแซมในเชิงรุกได้ โดยสามารถบริหารจัดการสถานะของงานต่าง ๆ ได้อัตโนมัติทุกที่ทุกเวลา พร้อมแสดงการรายงานผลแบบเรียลไทม์ส่งตรงไปยังอุปกรณ์โมบายล์ที่ได้รับอนุญาต ระบบรายงานที่เอื้อให้ทั้งองค์กรสามารถเข้าถึงมุมมองชุดข้อมูลเดียวกัน

ช่วยให้ กฟผ. สามารถระบุได้ว่าอุปกรณ์ตัวใดที่ส่งผลอย่างมากต่อต้นทุนของคลังอุปกรณ์ สามารถวิเคราะห์ และเข้าใจสต็อคอุปกรณ์ประเภทต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการบริหารจัดการ และควบคุมแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนในการรักษาอุปกรณ์ที่มีอยู่ในคลังลงได้ถึง 30%
การปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการ และซ่อมบำรุงอุปกรณ์ช่วยให้ กฟผ. สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปฏิบัติการ ลดต้นทุน และความซับซ้อนอันเป็นผลมาจากความซ้ำซ้อนของระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ และกระบวนการแมนวลต่าง ๆ ส่งผลให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ใหม่ลงได้ร้อยละ 3-5
ช่วยให้ กฟผ. มีชิ้นส่วนอะไหล่สำรองพร้อมใช้ รวมถึงสามารถยืดอายุของอุปกรณ์สำคัญๆ ได้ถึงร้อยละ 5 ความสามารถของระบบในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบจัดซื้อยังช่วยให้ กฟผ. สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น
“การที่ระบบเสีย บำรุงรักษาช้าเกินไป หรือการหยุดทำงานอันเนื่องมาจากปัญหาด้านคุณภาพของระบบ อาจนำสู่การหยุดชะงักของระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชุมชน ประชาชน และธุรกิจหลายสิบล้านราย”
นพพล พันธ์เงิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการสินทรัพย์ผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.
นพพล พันธ์เงิน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการสินทรัพย์ผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ซึ่งตั้งอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ และมีพันธกิจหลักในการรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ
ซึ่งการนำเทคโนโลยีบริหารจัดการสินทรัพย์ของไอบีเอ็มมาใช้ในครั้งนี้ จะช่วยให้ กฟผ. เห็นภาพรวมของการดำเนินงานของอุปกรณ์สำคัญๆ ของโรงไฟฟ้า ช่วยให้การบริหารจัดการเป็นไปภายใต้ความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุด
“ความสามารถในการสรุปรวมข้อมูลจากแผนกต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ รวมถึงการดึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบบริหารจัดการสินทรัพย์ต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานให้ กฟผ. ในหลากหลายมิติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการลดระยะเวลาที่ระบบหยุดทำงาน
การลดค่าใช้จ่ายที่ตามมาจากการสูญเสียกำลังการผลิต รวมถึงการลดความซับซ้อนจากระบบที่ซ้ำซ้อน และกระบวนการแบบแมนวลลง เพื่อที่จะสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และแบ่งปันทรัพยากรความรู้เหล่านี้ทั่วทั้งองค์กร”
ปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
ปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้นำแอพพลิเคชันสำหรับการบริหารจัดการสินทรัพย์องค์กร ไอบีเอ็ม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเทคโนโลยีของเราเข้าช่วยขับเคลื่อนงานปฏิบัติการที่เป็นเลิศให้แก่ กฟผ. ในวันนี้
นอกจากนี้ โมเดลข้อมูลและเวิร์คโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเอไอ ร่วมด้วยการแบ่งปันทรัพยากร องค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญในมุมอุตสาหกรรมทั่วทั้งองค์กร
ยังผลักดันให้เกิดการนำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (best practices) นี้ไปใช้ทั่วทั้งองค์กร ช่วยให้ทั้งวิศวกร และผู้ดูแลอุปกรณ์ต่า งๆ ของ กฟผ. มีความเข้าใจในสถานะของอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th
