HP ตอกย้ำกลยุทธ์ “Future Ready” เตรียมลุยตลาด Hybrid Working และ Gaming

HP

เอชพี (HP) ตอกย้ำกลยุทธ์ “Future Ready” เดินหน้าพัฒนาบุคลากร พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ และบริการ ลุยตลาด Hybrid Working และ Gaming หวังตอกย้ำพภาพผู้นำ…

highlight

  • เอชพี ประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจประจำปี 2566 และ 2567 ผ่านแนวคิด “Future Ready” ที่มุ่งเน้นในการยกระดับบุคลากร (People) พอร์ตโฟลิโอธุรกิจ (Portfolio) และการปฏิบัติการ (Operations) เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด และสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว
  • เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Future Ready Portfolioที่ถูกออกแบบมา เพื่อยกระดับการทำงานและสร้างประสบการณ์แบบไฮบริดอย่างลงตัวให้แก่ลูกค้าบุคคล และองค์กร อาทิ ZBook Power G10, ผลิตภัณฑ์ Poly และผลิตภัณฑ์ปริ้นเตอร์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เกมมิ่งใหม่อย่าง VICTUS และ OMEN เกมมิ่งเกียร์จาก HyperX โซลูชัน เพื่อการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Working)

HP ตอกย้ำกลยุทธ์ “Future Ready” เดินหน้าพัฒนาบุคลากร เตรียมลุยตลาด Hybrid Working และ Gaming ในปี 66

HP
เดวิด ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ เอชพี อิงค์

เดวิด ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ เอชพี อิงค์ กล่าวว่า กลยุทธ์ Future Ready ของ เอชพี จะช่วยให้เราสามารถรักษาการเป็นผู้นำในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันนี้ได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ และเส้นทางการเติบโตที่ชัดเจน

เรามีเป้าหมายในการช่วยสร้างความก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง และมีความยืดหยุ่น ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่มีความผันผวน ซึ่งแนวคิด Future Ready ของ เอชพี จะใช้ความแข็งแกร่งที่เรามีเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าของเรา และยังช่วยต่อยอดเป้าหมายด้านความยั่งยืน

โดยกลยุทธ์ Future Ready ได้ออกแบบมาโดยคำนึงถึงลูกค้า และผู้ใช้งาน เป็นหัวใจสำคัญ ผ่าน 3 แนวทาง หลักที่ประกอบไปด้วย

  • Future Ready Portfolio : สร้างพอร์ตโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการเติบโต โดยสามารถปรับรูปแบบให้เข้ากับวิถีชีวิตการทำงาน และการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่หลากหลาย
  • Future Ready Operations : ปรับรูปแบบการทำงาน เพื่อความสำเร็จโดยการปรับให้บริษัทมีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนความเป็นเลิศในการดำเนินงานในทุกแง่มุม
  • Future Ready People : เพิ่มขีดความสามารถให้บุคลากรของเราให้ประสบความสำเร็จทั้งในการทำงานและในการใช้ชีวิตส่วนตัว เพื่อขับเคลื่อนวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับสังคม

ในการดำนเนินงานในประเทศไทย เอชพี จะใช้ความแกร่งแกร่งของ เอชพี ทีมีอยู่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า หรือผู้ใช้งาน ที่ต้องการโดยพิจารณาแนวมสงการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทั่งก่อน และหลังของการเกิดโควิด-19 ที่ผ่านมา

โดยในประเทศเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ เอชพี ให้ความสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตสูงกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียนที่อยู่ที่ 70% ซึ่งเกิดจากการตื่นตัว และปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นที่ทันสมัยมากขึ้น

เพื่อเพิ่มความคล่องตัว (Mobility) ในการทำงานในรูปแบบไฮบริ (Hybrid Working) และการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ซึ่งส่งผลทำให้ตลาดเกมมิ่งในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่าการเติบโตมากกว่าตลาดเกมมิ่งในประเทศเกาหลี และประเทศญี่ปุ่น

พุ่งเป้าเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผู้ใช้ต้องการ พร้อมโฟกัสตลาดเกมมิ่งที่เตบโตอย่างรวดเร็ว

HP
วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี  ประเทศไทย

วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี  ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารูปแบบการทำงานของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่ง เอชพี มองว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นโอกาสในการส่งเสริมการทำงานร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาประสบการณ์ของผู้ใช้งานดียิ่งขึ้น

ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการมีเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยหนึ่งในแนวคิดสำคัญของ Future Ready คือการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่าง เอชพี ZBook Power G10 ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปอีกขั้น ไปจนถึง Poly Voyager Free 60 ที่ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

ด้วยโซลูชันใหม่ที่เราเปิดตัวในครั้งนี้ เอชพี มีเป้าหมายในการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้แก่คนไทยให้พร้อมรับการทำงานยุคใหม่ และใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของการทำงานในรูปแบบไฮบริ (Hybrid Working) ได้อย่างเต็มที่ในทุกที่ และทุกเวลา แม้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านกำลังซื้อในตลาดไอทีจะชะลอตัวลง

แต่ปัจจุบันสถารณ์เรื่งปรับตัวดีขึ้น โดย เอชพี เชื่อว่า ภายในครึ่งปีหลังกำลังซื้อในตลาดน่าจะปรับตัวดีขึ้น ขณะที่องค์กรต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยลงทุ่นด้านไอทีมากขึ้น ซึ่งเอชพีมั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่ตอบสนองต่อความต้องการท่เปลี่ยนแปลงไปในปัจุบันได้

HP

โดยข้อมูลจาก IDC ระบุว่า ในในไตรมาสแรกของปี 2566 เอชพี สามารถครองตำแหน่งผู้จัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้เป็นอันดับต้น ๆ ของตลาด โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 26.4% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ขณะที่ในส่วนของตลาดเครื่องพิมพ์ปัจจุบันกำลังซื้อเริ่มกลับมามีการเติบโตกว่า 11%

ซึ่ง เอชพี ในไตรมาสแรกก็มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยเติบโตกว่า 2 เท่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2565-2566) นอกจากนี้ เอชพี เชื่อว่าตลาดธุรกิจขนาดเล็ก (SME) จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐ์กิจของไทย ซึ่งจะทำให้ตลาดเครื่องพิมพ์กลับมาคึกคักอีกครั้ง

โดย ผลิตภัณฑ์ใหม่ และโซลูชันสำหรับ การทำงานในรูปแบบไฮบริ(Hybrid Working) นั้น เอชพี เตรียมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ และโซลูชันหลากหลาย ได้แก่ ZBook Power G10 (วางจำหน่ายเดือนกรกฎาคม 2566), ZBook Firefly 14 G10 (วางจำหน่ายเดือนกรกฎาคม 2566),

เอชพี Elite Book x360 830 G10 (วางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2566), ลำโพงสปีกเกอร์โฟนแบบพกพา Poly Speaker Phone (Sync 20) (วางจำหน่ายแล้ว), ชุดหูฟัง Poly Voyager 5200 UC (วางจำหน่ายแล้ว) และเอียร์บัดไร้สาย Poly Voyager Free 60 (วางจำหน่ายแล้ว)

HP

เปิดเกมลุยตลาดตลาดเกมมิ่งเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งาน และเหล่าเกมเมอร์

ด้านตลาดเกมมิ่ง ปัจจุบัน ประเทศไทย ถือเป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ซึ่ง เอชพี เห็นถึงโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ HP OMEN ของ เอชพี โดยเตรียมส่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ และผู้ใช้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่สนองตอบต่อไลฟ์ไตล์ต่าง ๆ ของตน

พร้อมกับผลิตภัณฑ์ HyperX ที่ เอชพี ได้ซื้อมากจาก Kingston โดยในประเทศไทยตลาดคอมพิวเตอร์เกมมิ่ง นั้นที่มีสัดส่วนมากถึง 30% ของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โยมีผู้ใช้งานที่นำเครื่องคอมพิวเตอร์เกมมิ่งใช้ทั้งด้านการทำงาน และเล่นเกม เพื่อผ่อนคลายจากงานที่ต้องทำ

โดย ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์เกมมิ่ง ที่ เอชพี เตรียมส่งลงตลาด มีดังต่อไปนี้ แล็ปท็อปเกมมิ่งน้ำหนักเบา HP Omen Transend 16 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (วางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2566), แล็ปท็อปเกมมิ่ง VICTUS by HP 16.1inch (วางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2566),

หูฟังเกมมิ่ง HyperX Cloud III (วางจำหน่ายแล้ว), เมาส์ HyperX Pulsefire Haste II Wireless (วางจำหน่ายแล้ว) และหูฟังเกมมิ่ง HyperX Earbud II (วางจำหน่ายแล้ว)

HP

การทำงานแบบ Work From Home และ Hybrid Working ทำตลาดเครื่องพิมพ์ฟื้นตัว

แม้ที่ผ่านมาความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจาก Covid19 ทำให้หลายองค์กรเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในรูปแบบวิถีใหม่ ทั้งการทำงานแบบ Work From Home และการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Working) ที่สามารถทำงานได้ทั้งจากออฟฟิศ และที่ไหนก็ได้ การทำงานวิถีใหม่

กระตุ้นให้หลายหน่วยงานหันไปพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการใช้กระดาษลดลง แต่อีกนัยหนึ่งยังสะท้อนให้เห็นว่า กระดาษยังคงมีความจำเป็นต่อธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้จะใช้น้อยลง แต่ไม่สามารถเลิกใช้ได้ทั้งหมด

เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากการทำงานวิถีใหม่คือ ความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากรูปแบบการทำงานที่พึ่งพาดิจิทัลเป็นหลัก ได้เพิ่มช่องทาง และโอกาสในการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น เช่น การแฮกข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่ และการเจาะระบบขโมยข้อมูลของบริษัทไปขาย ซึ่งเครื่องพิมพ์ถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่เก็บข้อมูลอันมีค่า

HP

ความเปลี่ยนแปลง และผลกระทบดังกล่าว เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้วันนี้ เอชพี ก้าวข้ามขีดจำกัดของเครื่องพิมพ์แบบเดิม โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทรงประสิทธิภาพมาตอบสนองความต้องการอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ระดับธุรกิจ ไอทีผู้ดูแลระบบหลังบ้าน และพนักงานที่ใช้เครื่องพิมพ์  ไม่เว้นแม้แต่สิ่งแวดล้อมที่อาจได้รับผลกระทบ

จากการใช้เครื่องพิมพ์ เอชพี จึงได้เตรียมส่งเครื่องพิมพ์ต้องสนับสนุนเวิร์คโฟลว์ (Workflow) การทำงานให้คล่องตัวให้แก่องค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ โดยใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทรงประสิทธิภาพมาตอบสนองความต้องการอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ระดับธุรกิจ ไอทีผู้ดูแลระบบหลังบ้าน และพนักงานที่ใช้เครื่องพิมพ์ ใช้ที่บ้าน หรือใช้ที่สำนักงาน

ด้วย เอชพี Smart Tank 580 และ เอชพี Smart Tank 750 ซีรีส์ (Smart Tank 580 จะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2566 และ Smart Tank 750 มีวางจำหน่ายแล้ว), เอชพี Laserjet Pro MFP 3103FDW (วางจำหน่ายแล้ว),

เอชพี Laserjet Manage MFP 800 และ 700 ซีรีส์ครื่องพิมพ์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องคุณจาก malicious code หรือโปรแกรมที่เป็นอันตราย (วางจำหน่ายแล้ว) และ เอชพี LaserJet Enterprise MFP 5000/6000 ซีรีส์ เครื่องพิมพ์ที่สามารถปกป้อง ตรวจจับ และปรับให้เข้ากับภัยคุกคามใหม่ ๆ (วางจำหน่ายแล้ว)

HP

เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากผลิภณฑ์ที่ทันสมัย และมีคุณภาพแล้ว เอชพี ยังมีเป้าหมานในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่ทุกเครื่องไม่ว่าจะเป็นเครื่องปริ้นต์, แล็ปท็อป, โน้ตบุ๊ก, หน้าจอ และเวิร์กสเตชัน  จะมีการใช้วัสดุรีไซเคิล เช่น กากกาแฟ และ วัสดุจากชีวภาพหมุนเวียน

นอกจากนี้ตลับหมึกของแท้ของ เอชพี กว่า 85% หรือมากกว่า และตลับโทนเนอร์ของ เอชพี ทั้ง 100% มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล เทคโนโลยีที่ได้รับการอัปเกรดที่นำมาอัปเดตตัวภายในงานมีหลากหลาย อาทิ เอชพี Presence ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านวิดีโอ และเสียงในหลากหลายด้าน

ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ในการใช้กล้องหลายตัวสำหรับการสตรีมวิดีโอคู่ และการสลับกล้องได้อย่างราบรื่น พร้อมด้วยฟีเจอร์การเลือกกล้องอัตโนมัติด้วยระบบ AI เพื่อให้กล้องจับที่คุณโดยอัตโนมัติเมื่อคุณหันหน้าเข้าหา ทำให้ไม่ต้องละสายตาจากหน้าจอ และระบบ เอชพี Keystone Correct ที่ช่วยครอป และทำให้ภาพของกล้องแบนราบ

โดยอัตโนมัติ เทคโนโลยี Presence ยังนำเสนอคุณสมบัติในการปรับโทนสี และการปรับโทนผิวให้ดูดีตลอดเวลา และยังสามารถปรับแสงโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้คุณภาพวิดีโอที่ดีที่สุด โดยเทคโนโลยี Presence มีอยู่ใน ZBook Power G10 และ ZBook Firefly 14 G10

HP

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.