Huawei ตั้งเป้ามุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี

Huawei

Huawei ตั้งเป้า ยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี ด้วยการรวมกลุ่มพาร์ทเนอระดับโลกเข้าด้วยกัน พร้อมมอบทุนสนับสนุนเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนในรูปแบบออนไลน์…

Huawei ตั้งเป้ามุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยี

เคน หู รองประธานกรรมการบริหารของ หัวเว่ย เผยวิสัยทัศน์ และแผนการดำเนินงานของหัวเว่ย ด้านการศึกษา ภายใต้แนวคิดการผนวกเทคโนโลยีดิจิทัล (TECH4ALL) ในงานสัมมนาผ่านเว็บไซต์ภายใต้หัวข้อ การศึกษาระดับโลก (Global Education Webinar)

ที่ใช้ชื่อว่า ขับเคลื่อนความเสมอภาค และคุณภาพด้วยเทคโนโลยี (Driving Equity and Quality with Technology) ย้ำการเชื่อมต่อโรงเรียน และการพัฒนาทักษะคือ 2 แนวทางหลักสำหรับหัวเว่ย เพื่อปรับปรุงความเสมอภาค และคุณภาพการศึกษา

โดยงานสัมมนาดังกล่าวมีกลุ่มผู้นำ และผู้เชี่ยวชาญจากทั้งองค์กรยูเนสโก (UNESCO) องค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสาร (Global System for Mobile Communications : GSMA) กระทรวงการศึกษาแห่งชาติของประเทศเซเนกัล มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ของภาคภาคเอกชน เข้าร่วม

การพัฒนาความเสมอภาค และคุณภาพทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยี

ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในด้านการศึกษา แต่ยังมีประชากรอีกกว่า 50% ทั่วโลก ที่ไม่สามารถเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ และมีอีกมากมายที่ยังขาดทักษะจำเป็นสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลในโลกการศึกษาจึงขยายตัวกว้างขึ้น

เราเชื่อว่าทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็มีสิทธิ์ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ในฐานะบริษัทด้านเทคโนโลยี หัวเว่ยจึงตั้งใจจะมอบความช่วยเหลือด้วยการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน และทักษะต่าง ๆ โดยเน้น 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การมอบการเชื่อมต่อระหว่างโรงเรียนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล

ขณะที่ในด้านการส่งมอบการเชื่อมต่อแก่โรงเรียนต่าง ๆ หัวเว่ยจะช่วยสนับสนุนผ่านการมอบการเข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษาคุณภาพสูง เช่น หลักสูตรการศึกษาในรูปแบบดิจิทัล แอปพลิเคชันสำหรับการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) รวมถึงการฝึกอบรมครู และนักเรียน

ด้วยการมอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้แก่โรงเรียนจากกลุ่มพาร์ทเนอร์ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในประเทศแอฟริกาใต้ หัวเว่ยได้เปิดตัว โครงการ DigiSchool ภายใต้การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เรน (Rain) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านการศึกษาอย่างมูลนิธิคลิก (Click Foundation) 

Huawei
Students at Thembile Primary School, Johannesburg

โดยมุ่งเน้นมอบการเชื่อมต่อให้แก่โรงเรียนประถมทั้งในเขตเมือง และพื้นที่ชนบท 100 แห่งภายในปีหน้า เพิ่มเติมจากทั้งหมด 12 แห่ง ที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยี 5G เป็นที่เรียบร้อย

ด้าน นิโคลา แฮร์ริส ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิคลิกกล่าวเสริมในการสัมมนาผ่านเว็บไซต์ กล่าว่า ในการศึกษารูปแบบดิจิทัล เราไม่เพียงแก้ปัญหาวิกฤติด้านความสามารถด้านการอ่านเขียนของประเทศ แต่เรายังได้มอบทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็นต่อความสำเร็จในอนาคตแก่เยาวชนอีกด้วย 

ด้านการพัฒนาทักษะทางดิจิทัล หัวเว่ยได้วางแผนจัดการฝึกอบรมทักษะทางดิจิทัลให้แก่กลุ่มที่ยังขาดทักษะด้านดังกล่าวในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนหญิงผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ DigiTruck ในชื่อ ล้อแห่งทักษะ (Skills on Wheels)

โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวโครงการ DigiTruck ในประเทศเคนยาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้จัดการฝึกอบรมแก่เยาวชน และคุณครูมากกว่า 1,500 คน ในพื้นที่ชนบท โดย หัวเว่ย มุ่งหวังจะจัดโปรแกรมในลักษณะเดียวกันนี้ในประเทศฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่นๆ ภายใน 2 ปีข้างหน้า

ด้าน โอลิวิเย่ร์ แวนเด็น อายน์ด ประธานกรรมการบริหารองค์กรโคสเดอะแก๊บ (Close the Gap) ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์หลักของ DigiTruck กล่าวว่า ห้องเรียนดิจิทัลเคลื่อนที่เหล่านี้ทำงานโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และเพียบพร้อมด้วยการเข้าถึงโครงข่ายไร้สาย ซึ่งสามารถเข้าไปปฏิบัติการได้แม้จะอยู่ในชุมชนที่ห่างไกลจากตัวเมืองก็ตาม

Huawei
The computer lab at Thembile Primary School

ยกระดับศักยภาพรับมือโควิด-19

หัวเว่ย ได้ยกระดับความมุ่งมั่นผ่านแนวคิด TECH4ALL เพื่อสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรทางการศึกษาระดับโลกขององค์กรยูเนสโก (UNESCO’s Global Education Coalition) ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลต่อการศึกษาเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ดังจะเห็นได้จากภารกิจต่าง ๆ เช่น การรวมพลังกับกลุ่มพันธมิตรยูเนสโก และกระทรวงการศึกษาแห่งชาติของประเทศเซเนกัล สนับสนุนการดำเนินการด้านการศึกษาทางไกลอย่างต่อเนื่องในช่วงที่มีการแพร่ระบาด ทำให้กลุ่มคุณครูในพื้นที่ได้รับการเชื่อมต่อ อุปกรณ์ดิจิทัล

และการฝึกอบรมทักษะซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนมากกว่า 100,000 คน ซึ่งวิกฤติครั้งนี้ได้เปลี่ยนโฉมและเปลี่ยนอนาคตของภาคการศึกษา ทั้งยังชี้ให้เห็นว่าโครงการความร่วมมือสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วเพียงใดเมื่อความเชี่ยวชาญ

Huawei
Mobile base station right outside the school

และทรัพยากรมาบรรจบกับความต้องการในพื้นที่ จึงสร้างความมั่นใจได้ว่าการเรียนรู้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนแถบชนบทที่อยู่ห่างไกลที่สุด ในขณะเดียวกัน เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หัวเว่ย ICT Academy ได้เปิดตัวโครงการ Learn ONโดยมีจุดประสงค์คือสร้างความตระหนักถึงความต้องการ

ทางการศึกษาของผู้มีความสามารถด้าน ICT ในกลุ่มมหาวิทยาลัยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด โปรแกรมดังกล่าวเป็นการรวมกลุ่มพาร์ทเนอร์มหาวิทยาลัยระดับโลกเข้าด้วยกัน ทั้งยังได้มอบทุนส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย ซึ่งจะสามารถนำไปใช้สำหรับหลักสูตรการเรียน, การสอบการทดลองในรูปแบบออนไลน์ และอื่น ๆ

พร้อมกันนี้ยังได้มอบทรัพยากรหลักสูตรการเรียนออนไลน์ที่เปิดกว้าง และรองรับนักเรียนจำนวนมาก (Massively Open Online Courses : MOOC) มากกว่า 300 หลักสูตร ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI, Big Data, 5G และ Internet of Things เป็นต้น

Huawei
Primary school students in South Africa learning English online

ความร่วมมือภาครัฐ และภาคเอกชน ในการเร่งแก้ปัญหาทางการศึกษา

งานสัมมนาผ่านเว็บไซต์ในครั้งนี้เน้น 2 หัวข้อหลัก ได้แก่ การเรียนรู้ทางไกลเพื่อความต่อเนื่องทางการศึกษาที่ดีกว่า และ นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ที่ครอบคลุม ภายในงานยังมีการหารือถึงหลักปฏิบัติที่ดีที่สุด และการแบ่งปันประสบการณ์จากประเทศจีน ฝรั่งเศส ลักเซมเบิร์ก เซเนกัล แอฟริกาใต้ และประเทศอื่น ๆ

บอร์รีน ชาครูน ผู้อำนวยการแผนกนโยบาย และระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตขององค์กรยูเนสโก (UNESCO’s Policy and Lifelong Learning Systems) กล่าวย้ำว่า ด้วยจำนวนครูระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาอย่างน้อย 63 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบ

การระบาดของโควิด-19 ชี้ให้เห็นถึงความต้องการด้านการพัฒนาศักยภาพของครูให้สามารถจัดการการเรียนรู้ทางไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการด้านการศึกษาและการฝึกอบรมต่าง ๆ ในอนาคต

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังมีมติว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนนั้นเป็นกุญแจสำหรับการส่งเสริมการศึกษาที่ครอบคลุมผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล

Huawei

ด้าน สเตฟานี ลีนช์-ฮาบิบ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดแห่ง GSMA กล่าวเสริมว่า ในปีนี้กลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลางได้เรียนรู้บทเรียนมากมาย และได้ปรับการให้บริการ ตระหนักถึงความต้องการของผู้ใช้และตอบรับกับผลกระทบจากการระบาดทั่วโลกด้วยการพัฒนาธุรกิจและกลุ่มพันธมิตรสำคัญ

โดยปัจจุบันองค์กรกำกับดูแลมาตรฐานการสื่อสาร (GSMA) และอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้ให้การสนับสนุนและจะยืนหยัดมอบการสนับสนุนในระยะยาวให้แก่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กรสหประชาชาติ ในยุคสมัยแห่งการเป็นผู้นำด้านจริยธรรม

ทั้งนี้ ความสำเร็จด้านการผนวกเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการศึกษานั้นจำเป็นต้องอาศัยความพยายามจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ องค์กรต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงสถาบันการศึกษาและบริษัททางเทคโนโลยี ที่จะให้การสนับสนุนด้วยประสบการณ์ และทรัพยากรของพวกเขา

ท้ายที่สุดแล้วสิ่งนี้จะช่วยเร่งการมุ่งสู่ความสำเร็จของเป้าหมาย SDG ในลำดับที่ 4 (อันได้แก่ การสร้างหลักประกันให้การศึกษามีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ครอบคลุมและส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกคน) ภายในปี พ.ศ. 2573

Technology for Education

เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะทำให้เข้าถึงการศึกษาได้ง่ายขึ้นทำให้ทุกคนมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองมากขึ้น โครงการของเราที่ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการสร้างอนาคตที่ดีกว่า😊https://tinyurl.com/ybnb6gja#Education4ALL #TECH4ALL

โพสต์โดย Huawei Thailand เมื่อ วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2020

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com และ Huawei BlOG

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.