Huawei หนุน มทส. ก้าวสู่ศูนย์กลาง “Smart City” แห่งภาคอีสาน

Huawei

หัวเว่ย (Huawei) หนุน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ก้าวสู่ศูนย์กลางความเป็นเลิศ “สมาร์ทซิตี้” (Smart City) แห่งภาคอีสาน…

Huawei หนุน มทส. ก้าวสู่ศูนย์กลาง “Smart City” แห่งภาคอีสาน

หัวเว่ย ประเทศไทย ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ในด้านการพัฒนา และส่งเสริมทักษะทางด้านไอทีของนักศึกษา ภายใต้โครงการ “Huawei ICT Academy” ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อม และสร้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

และการสื่อสารขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมไอซีทีในประเทศไทย รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว จะมีการผลักดันการพัฒนาโซลูชันเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทซิตี้ โดยยกระดับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศสำหรับสมาร์ทซิตี้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย

Huawei
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้เกียรติเยี่ยมชม ICT Experiences Center ศูนย์แสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ อาคารสุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เพื่อส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยฯ มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความรู้ การวิจัย และการฝึกอบรม
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนการก้าวสู่ความอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ และสิ่งสำคัญคือ การเตรียมพร้อมทักษะความรู้ความเชี่ยวชาญ รวมถึงความพร้อมของโครงสร้างเทคโนโลยี

ซึ่งสถาบันการศึกษาก็เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในความเปลี่ยนแปลงนี้ หัวเว่ย ได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพาร์ทเนอร์และลูกค้าในทุกภาคส่วนมาโดยตลอด โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายความร่วมมือไปยังแต่ละภูมิภาค

เพื่อให้ลูกค้าในทุก ๆ ที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของ หัวเว่ย ได้สะดวกมากขึ้น ความร่วมมือกับ มทส ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงทุกภาคส่วนโดยเฉพาะการร่วมขับเคลื่อนความเป็นเมืองอัจฉริยะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จเร็วยิ่งขึ้น

Huawei
พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันพัฒนาทักษะบุคลากรด้านไอซีที ระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และหัวเว่ย ประเทศไทย โดยมี รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี (ซ้าย) และวรวิทย์ จำปาไชยศรี รองประธานอาวุโสธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วยคณาจารย์และผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดนครราชสีร่วมเป็นเกียรติในงาน

โดย หัวเว่ย จะสนับสนุนหลักสูตร และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้านไอซีทีที่ครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น 5G, AI และ IoT เพื่อให้นักศึกษา ได้สัมผัสประสบการณ์การใช้โซลูชันจริง อันจะช่วยส่งเสริมความคิดในเชิงสร้างสรรค์ ช่วยพัฒนาความรู้ในด้านเทคโนโลยี ตลอดจนช่วยส่งเสริม และพัฒนานักศึกษา

ให้มีความรู้ความสามารถในด้านเทคโนโลยีเฉพาะทาง พร้อมก้าวเข้าสู่สายอาชีพในภาคอุตสาหกรรมต่อไป
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว “ศูนย์แสดงเทคโนโลยีไอซีที” (ICT Experience Center) ซึ่งจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ อาคารสุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรสนับสนุนอุปกรณ์ และโซลูชันไอซีที เช่น โซลูชันอินเทลลิเจนซ์ คอลลาบอเรชัน ที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนผ่านจออัจฉริยะ หรือ ไอเดีย ฮับ เพื่อมุ่งหวังให้เป็นพื้นที่สำหรับให้นักศึกษา และบุคลากรของมหาวิทยาลัยได้ใช้ประโยชน์ เพื่อการเรียนการสอนยุคใหม่ พร้อมเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจากอุปกรณ์ที่ใช้งานจริงในอุตสาหกรรมไอที

Huawei

รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า การพัฒนาบุคคลากรด้านผู้ประกอบการเป็นหนึ่งในเป้าหมายของมหาวิทยาลัย ความร่วมมือกับหัวเว่ยช่วยส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลงานผ่านความเชี่ยวชาญและการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้

เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ในด้านต่าง ๆ ของการพัฒนา โดยเฉพาะการเสริมสร้างบุคคลากรด้านเทคโนโลยีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ หัวเว่ย ได้ร่วมกับพันธมิตรนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านเครือข่ายและพลังงานมาจัดแสดงภายในงานเกษตรสุรนารี’ 68

ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Sustainable Agri-Innovation for BCG : เกษตรสร้างสรรค์ นวัตกรรมก้าวหน้า สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน” โดยหนึ่งไฮไลต์สำคัญในงาน คือ หัวเว่ย ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

จัดกิจกรรม E-SAN Agricultural Innovation Hackathon แข่งขันแก้โจทย์ปัญหาสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเกษตร โดยการนำแนวคิดทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎี หลักการ และวิธีการต่าง ๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ไขประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับภาคการเกษตร

ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะด้านความเป็นผู้ประกอบการ และส่งเสริมให้เกิด การนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมาบูรณาการ และประยุกต์ใช้ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเกษตร และต้นแบบนวัตกรรม เพื่อให้สามารถต่อยอดใช้งานได้จริง

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay