อินเทล เปิดตัว Intel Core โปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่น 11 โดยมาพร้อมชิปกราฟิก Intel Iris Xe ที่ดีที่สุดในโลก เพื่อใช้ในแล็ปท็อปที่ใช้ Windows และ ChromeOS…
highlight
- อินเทลเปิดตัวโปรเซสเซอร์ใหม่ตระกูล อินเทล® Core™ เจนเนอเรชั่น 11 ที่มาพร้อมการ์ดจอกราฟิก อินเทล® Iris® Xe โดยโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดในโลกนี้เหมาะสำหรับแล็ปท็อปรูปลักษณ์บางเบา มอบความเร็วในการสร้างสรรค์คอนเทนต์เพิ่มสูงสุดถึง 2.7 เท่า ความเร็วในการทำงานด้านออฟฟิศเพิ่มขึ้นกว่า 20% พร้อมเล่น และสตรีมเกมไวขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า เหนือกว่าผลิตภัณฑ์คู่แข่งในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง
- เปิดตัวแพลตฟอร์มแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ อินเทล® Evo™ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ดีไซน์จากโปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 พร้อมด้วยชิปกราฟิก อินเทล Iris Xe และผ่านการรับรองตามโปรแกรมนวัตกรรม Project Athena ตรงตามสเปคในรุ่นที่สองและตามตัวบ่งชี้หลักของประสบการณ์การใช้งาน (Key experience indicators หรือ KEIs)
- เตรียมพบกับผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 มากกว่า 150 รุ่นที่กำลังเข้าสู่ตลาด ทั้งจาก Acer, Asus, Dell, Dynabook, HP, Lenovo, LG, MSI, Razer, Samsung และผู้ผลิตรายอื่น ๆ
อินเทล เปิดตัว Intel Core โปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่น 11 เพื่อใช้ในแล็ปท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ ChromeOS
อินเทล เปิดตัว โปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นถัดไปสำหรับคอมพิวเตอร์พกพา พร้อมวิวัฒนาการด้านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ในระบบนิเวศที่ยิ่งใหญ่ของอินเทล เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพีซีคอมพิวเตอร์แบบพกพาให้รุดหน้า โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 ใหม่
มาพร้อมชิปกราฟิก อินเทล Iris Xe (ชื่อรหัส “Tiger Lake”) เป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อปรูปลักษณ์บางเบา พร้อมสมรรถนะเหนือกว่าใครด้านผลิตภาพเพื่อการใช้งานจริง ทั้งการทำงานร่วมกัน การสร้างสรรค์ การเล่นเกม และความบันเทิง บนแล็ปท็อปที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ ChromeOS
ด้วยการใช้เทคโนโลยีการประมวลผล SuperFin ใหม่ของอินเทล ทำให้โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานพร้อมมอบสมรรถนะ และการตอบสนองอันเป็นเลิศในขณะที่ประมวลผลด้วยความถี่ที่สูงขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ
โดยคาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะใช้โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 อีกกว่า 150 ดีไซน์จากพันธมิตรหลายราย เช่น Acer, Asus, Dell, Dynabook, HP, Lenovo, LG, MSI, Razer, Samsung และผู้ผลิตรายอื่น ๆ
นอกจากนี้ อินเทลยังเปิดตัวแพลตฟอร์มแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ อินเทล Evo สำหรับแล็ปท็อปที่ออกแบบและได้รับการรับรองตามสเปครุ่นที่สอง และตามตัวบ่งชี้หลักของประสบการณ์การใช้งาน (KEIs) ของโปรแกรมนวัตกรรม Project Athena เพียงมองหาเครื่องหมาย อินเทล Evo ผู้ใช้งานก็สามารถมั่นใจ
ได้ว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้ขุมพลังจากโปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 พร้อมชิปกราฟิก อินเทล Iris Xe และผ่านการรับรองแล้วว่าเป็นแล็ปท็อปที่จะมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดโดยจะมีผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมสัญลักษณ์ อินเทล Evo กว่า 20 รุ่นวางจำหน่ายในท้องตลาดก่อนสิ้นปีนี้
เกรกอรี ไบรอันท์ รองประธานบริหารอินเทล และผู้จัดการทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์ประมวลผลคอมพิวเตอร์ลูกข่าย กล่าวว่า โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 ที่มาพร้อมกราฟิก อินเทล Iris Xe เป็นการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ด้านประสิทธิภาพโปรเซสเซอร์ในโลกการใช้งานจริง และถือเป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุด
ที่เราเคยสร้างมา ไม่ว่าคุณต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส พลังของ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบทางวิศวกรรมร่วมกัน และผ่านการรับรอง อินเทล Evo จะมอบประสบการณ์แล็ปท็อปที่ดีที่สุด
Intel Evo

อินเทล ยังคงเป็นผู้นำในระบบนิเวศคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในทุกแพลตฟอร์มและมอบประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุด แบรนด์แพลตฟอร์มใหม่ อินเทล Evo เป็นสัญลักษณ์ของแล็ปท็อปที่ดีที่สุดที่ออกแบบมาให้คุณได้โฟกัสกับทุกงานจนสำเร็จลุล่วงในทุกสถานการณ์
ด้วยโปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 พร้อมชิปกราฟิก อินเทล Iris Xe ที่ผ่านวิธีการทดสอบที่เข้มข้นตามข้อกำหนดรุ่นที่สองและตัวบ่งชี้หลักประสบการณ์ (KEIs) ของ Project Athena ทำให้อินเทล และเหล่าพันธมิตรด้านวิศวกรรมได้ร่วมกันยกระดับมาตรฐานใหม่ของประสบการณ์การใช้งานแล็ปท็อปอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการวัดผลการใช้งานภายใต้สภาวะของโลกการใช้งานจริงเพื่อมุ่งสร้างประสิทธิภาพ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่มั่นคงสม่ำเสมอ ทำให้วิธีการทดสอบและวัดผลที่เป็นเอกลักษณ์ของอินเทลเป็นเครื่องบ่งชี้ที่แม่นยำถึงประสิทธิภาพการทำงานจริงของแล็ปท็อป แล็ปท็อป
ที่ได้รับการยืนยันด้วยเครื่องหมาย อินเทล Evo จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบตรงตามหรือเหนือกว่าข้อกำหนดและตัวบ่งชี้หลักประสบการณ์ (KEIs) เท่านั้น โดยข้อกำหนดขั้นพื้นฐานตามเป้าหมายของ KEI ได้แก่
- แบตเตอรี่ให้การตอบสนองอย่างคงเส้นคงวา
- เปิดใช้งานระบบจากโหมด Sleep ภายในไม่ถึง 1 วินาที
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ในสภาพแวดล้อมจริงเท่ากับหรือมากกว่า 9 ชั่วโมง สำหรับระบบที่ใช้จอแสดงผลความละเอียดระดับ FHD
- ชาร์จเร็วในเวลาน้อยกว่า 30 นาที เพื่ออายุการใช้งานนานสูงสุดถึง 4 ชั่วโมง สำหรับระบบที่ใช้จอแสดงผลความละเอียดระดับ FHD
แพลตฟอร์ม อินเทล Evo ยังมาพร้อมคุณสมบัติการเชื่อมต่อแบบมีสายและไร้สายที่ดีที่สุดในบรรดาคู่แข่ง และรองรับการเชื่อมต่อเคเบิลมาตรฐานสากล Thunderbolt™ 4 และ อินเทล® Wi–Fi 6 (Gig+) ในตัว รวมถึงระบบเสียง กล้อง และจอแสดงผลคุณภาพสูง
ทั้งหมดนี้ในอยู่ในรุปลักษณ์ที่สวยงาม และบางเบาเพื่อประสบการณ์ใช้งานระดับพรีเมียม สำหรับข้อกำหนดเป้าหมายของรุ่นที่สอง และขั้นตอนในการรับรอง โปรดดูจากเอกสารข้อมูล อินเทล Evo
พร้อมกราฟิก Intel Iris Xe

โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 พร้อมชิปกราฟิก อินเทล Iris Xe เป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อปรูปลักษณ์บางเบา ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Windows และ ChromeOS โดยโปรเซสเซอร์ในเจนเนอเรชั่นนี้เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นครั้งสำคัญที่สุดของอินเทล
ในการสรรค์สร้างระบบบนชิปประมวลผล (System-on-chip หรือ SoC) ที่จะก้าวกระโดดไปไกลกว่าการผลัดเปลี่ยนเจอเนอเรชั่น ทั้งในด้านประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีที่สุดของการใช้งานแล็ปท็อป U–series ไม่ว่าจะเป็นเพื่อผลิตภาพ งานสร้างสรรค์ การเล่นเกม ความบันเทิง หรือการทำงานร่วมกัน
คุณสมบัติในตัวอันหลากหลายจะช่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รูปลักษณ์บางเบาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) การเร่งความเร็วปัญญาประดิษฐ์ (AI acceleration)
การเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ และสมรรถนะของแพลตฟอร์ม ที่จะมามอบประสิทธิผลสูงสุดในการใช้งานจริง บนแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ผู้คนนิยมเรียกใช้งานบ่อยที่สุด
- การทำงานร่วมกันอย่างหลากหลาย : โปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่น 11 เพื่อการทำงานร่วมกันที่ดีที่สุด พร้อมยกระดับประสบการณ์เฉพาะบุคคลอย่างสมจริงด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มคุณภาพเสียงด้วยการออฟโหลด CPU และลดเสียงรบกวนเบื้องหลังด้วย อินเทล Gaussian และ Neural Accelerator 2.0 (Intel GNA) การเบลอภาพพื้นหลัง และประมวลวิดีโอความละเอียดสูงมาก ที่เร่งด้วย AI หรือการถอดรหัสสัญญาณวิดีโอล่าสุด พร้อมด้วย อินเทล® Wi-Fi 6 (Gig+) ในตัว ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Wi-Fi ที่ดีที่สุดเพื่อการประชุมทางวิดีโอ โดยทั้งหมดนี้อยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาสุดบางเบา
- ผู้นำประสิทธิภาพด้านผลิตภาพ : ด้วยประสิทธิภาพของโปรแกรมผลิตภาพสำหรับการทำงานออฟฟิศที่เร็วขึ้นกว่าเดิมกว่า 20% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง ในขั้นตอนการใช้งานจริงบนแล็ปท็อปของผู้คนในแต่ละวัน และรองรับ Thunderbolt 4 ในตัวพร้อมกันสูงสุดถึงสี่พอร์ต ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์นานาประเภท และยังสามารถชาร์จเร็ว ต่อจอภาพภายนอก หรือต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านสายเคเบิลเพียงเส้นเดียว
- การสร้างสรรค์คอนเทนต์ขั้นสูง : ตกแต่งรูปภาพเร็วขึ้นสูงสุด 2.7 เท่าในการใช้งานจริง ตัดต่อวิดีโอได้เร็วกว่าสูงสุด 2 เท่า เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์คู่แข่ง รองรับจอภาพ 8K HDR หรือจะต่อจอภาพ 4K HDR พร้อมกันสูงสุดสี่จอก็ได้
- ความบันเทิงสมจริงเต็มอิ่ม : โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 จะรองรับ Dolby Vision ด้วยฮาร์ดแวร์เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม มอบประสบการณ์รับชมที่สมจริงกว่าและปรับปรุงระดับพลังงานของระบบ 20% โดยประมาณเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ช่วยให้รับชมการสตรีมวิดีโอได้นานขึ้นหนึ่งชั่วโมงเมื่อใช้งานบนแบตเตอรี่
- ประสบการณ์การเล่นเกมรูปแบบใหม่ : เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมสูงสุดถึง 2 เท่าจากเจนเนอเรชั่นก่อน และเป็นครั้งแรกที่จะเล่นเกมชื่อดังอย่าง Borderlands 3, Far Cry New Dawn, Hitman 2 และเกมอื่นๆ ได้ทันทีที่ความละเอียด 1080p ปลดล็อก และแชร์ความสำเร็จกับเพื่อนๆ ด้วยคุณสมบัติการเล่นเกมพร้อมกับสตรีมเกมที่เร็วกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งเกินกว่า 2 เท่า สัมผัสประสบการณ์ทั้งหมดนี้ได้จากระบบกราฟิก อินเทล Iris Xe ในตัว อยู่ในดีไซน์ที่บางเบา
พานอส พาเนย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟท์ กล่าวว่า โปรเซสเซอร์ อินเทล® Core™ เจนเนอเรชั่น 11 ใหม่ พร้อมกราฟิก Iris® Xe จะมอบประสิทธิภาพ และการตอบสนองที่น่าทึ่งแก่ผู้ใช้ Windows ทั่วโลกให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรับประสบการณ์บันเทิงได้มากขึ้นในทุกๆ วันไปอีกยาวนาน
ด้าน จอห์น โซโลมอน รองประธาน ChromeOS กล่าวว่า จากความร่วมมือกันอย่างยาวนานและแน่นแฟ้นระหว่างอินเทลกับกูเกิล ทำให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านประสบการณ์ผู้ใช้งาน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเสนอ Chromebook รุ่นถัดไปที่ขับเคลื่อนโดย อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 ออกสู่ตลาด
คุณสมบัติที่ปรับแต่งมาในตัวเพื่อแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์บางเบาที่ดีที่สุด

ตามรายละเอียดที่กล่าวไว้ในงาน Architecture Day 2020 ว่าสถาปัตยกรรม CPU ใหม่รุ่น Willow Cove และกราฟิก อินเทล® Xe ที่ผลิตบนเทคโนโลยีการประมวลผล SuperFin ใหม่ของอินเทลจะมาสร้างปรากฏการณ์ความถี่สูงสุดถึง 4.8 Ghz และพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
พร้อมกับเปิดใช้งานอุปกรณ์ประมวลผลพิเศษ ตัวเร่งความเร็ว และการปรับแต่งประสิทธิภาพซอฟต์แวร์ ซึ่งทั้งหมดอยู่บน SoC ในตัว โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 จะมอบการผสมผสานที่ดีที่สุดของนวัตกรรมอุปกรณ์การประมวลผล พร้อมสำหรับทุกเวิร์กโหลดในสภาพการใช้งานจริง ได้แก่
- กราฟิก อินเทล Iris Xe ใหม่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าร้อยละ 90 ของบรรดาการ์ดจอแยกที่นำมาจับคู่เพื่อใช้งานในเซ็กเมนต์นี้ และมอบประสิทธิภาพสูงสุด 96 EUs และสูงสุด 16MB ของ L3 cache
- ชุดคำสั่งแรกสำหรับการอนุมานบนนิวรัลเน็ตเวิร์ก (neural network) อยู่ในกราฟิกในตัว มาพร้อม อินเทล® DL Boost: DP4a และเป็นครั้งแรกที่รองรับประเภทข้อมูล INT8 แบบเนทีฟ มอบประสิทธิภาพ AI ที่ดีขึ้นสูงสุด 5 เท่า
- การเพิ่มความปลอดภัยด้วยฮาร์ดแวร์พร้อมเทคโนโลยีในตัว อินเทล® Control Flow Enforcement Technology (CET) และ Intel® Total Memory Encryption
- รองรับ AV1 CODEC ประสิทธิภาพสูง ที่สามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับความละเอียดระดับ 4K แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีแบนด์วิธจำกัด
- ครั้งแรกสุดที่มีโซลูชันการประมวลผลรูปภาพเพื่อเปิดใช้งานการรับรู้ทัศนวิสัยและปรับลดแสงได้อัตโนมัติ
- การเชื่อมต่อ Thunderbolt 4 ที่ดีที่สุด รองรับสูงสุดถึงสี่พอร์ต พร้อมเชื่อมต่อเคเบิลมาตรฐานสากลที่ใช้ชาร์จไฟ ถ่ายโอนข้อมูล และวิดีโอ
- ครั้งแรกของ SoC สำหรับเครื่องลูกข่ายพกพาที่มีอินเทอร์เฟซ PCIe Gen 4 ต่อกับ CPU สูงสุดสี่เลน
ด้วยประสิทธิภาพที่ปรับสเกลได้ ในรูปแบบดีไซน์การระบายความร้อนตั้งแต่ขนาด 7 ถึง 28 วัตต์ และการกำหนดค่าโปรเซสเซอร์แตกต่างกันเก้าสเปคบนการออกแบบแพ็คเกจสองดีไซน์ เพื่อความยืดหยุ่นด้านฟอร์มแฟคเตอร์
และให้ความถี่เทอร์โบสูงสุด 4.8 GHz ทำให้โปรเซสเซอร์ อินเทล Core เจนเนอเรชั่น 11 สามารถมอบความเร็วคอร์เดี่ยวที่เพียงพอสำหรับเวิร์กโหลดขั้นสูง ในแล็ปท็อปรูปลักษณ์สุดบางเบา
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th