Data is New Oilยังคงเป็นหลักในการทำการตลาดออนไลน์อยู่เสมอ แต่เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันบนโลกดิจิทัลอย่างแท้จริงในปีนี้ การทำ Data Marketingเพียงผิวเผิน โดยไม่มีการสร้างฐานข้อมูลลูกค้าเป็นของตนเอง บวกกับปัจจัยภายนอก
เช่น นโยบายการตั้งค่าบล็อก Third–Party Cookiesเป็นค่าเริ่มต้นจากแพลตฟอร์มต่างๆ จะยิ่งกลายเป็นข้อจำกัดสำคัญในการเติบโตบนโลกดิจิทัล ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่จะหันมาให้ความสำคัญกับการมีข้อมูลของลูกค้าเป็นของตนเอง(1st Party Data)
โดยต้องเป็นข้อมูลที่ลูกค้าอนุญาต ด้วยการสร้างCDPหรือ Customer Data Platformเป็นของตนเอง เพื่อเดินหน้าสู่การทำ “Advanced Data Marketing“ยกระดับโครงสร้าง ระบบการทำธุรกิจบริการในทุกภาคส่วน (Full-Loop) ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำสู่วิถีดิจิทัล ไม่ใช่เพื่อการสื่อสาร การตลาดเพียงอย่างเดียว
ที่เชื่อมต่อทุก Touchpointของธุรกิจให้เป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างประสบการณ์การอันไร้รอยต่อให้กับลูกค้า ตัวอย่างแบรนด์ที่เริ่มสร้างCDPและมีการนำดาต้ามาสร้าง Journeyที่ดีให้กับลูกค้า เช่น Starbucksและ Central
ที่มีการใช้ข้อมูล 1stParty Data ที่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าผ่าน ไลน์ Official Accountมาเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลลูกค้าของตนเองจากช่องทางต่าง ๆ มาสร้างประสบการณ์การใช้งานของสมาชิกแต่ละคนได้เป็นอย่างดี
ลงสนาม LIVE Commerce ผสานความบันเทิงแบบ Shoppertainment
การขายของผ่าน LIVE ยังคงเป็นการขายของที่มีเสน่ห์โดนใจคนในแถบเอเชียโดยเฉพาะ สำหรับในไทย SMEอาจเห็นการลงทำ LIVE Commerceมาแล้วมากมาย แต่มีแบรนด์ใหญ่เพียงบางรายเพิ่งเริ่มลงสนามทำ LIVE Commerceบนช่องทางของตนเองอย่างจริงจัง ซึ่งการสร้างรูปแบบ คอนเทนต์ในการขายได้อย่างอิสระ
และลูกค้าได้มีส่วนร่วมโดยตรงกับสินค้าและแบรนด์ไปเต็มๆ ถือเป็นข้อได้เปรียบของการทำ LIVE Commerceบนช่องทางตนเองสำหรับแบรนด์ใหญ่ ดังเช่น แบรนด์ Homeproที่ลงสนามLIVE Commerceผ่าน ไลน์ Official Accountด้วยยอดวิวเฉลี่ยหลักแสน
โดยคาดว่าแบรนด์จะมองหาลูกเล่นมาสร้างสีสัน ความสนุกในโลกของ LIVE Commerceมากขึ้น และShoppertainmentจะกลายเป็นรูปแบบหลักที่ผลักดันให้ LIVE Commerceเติบโต เห็นได้จากรายการ TuesLive x LINE SHOPPINGรายการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ผสานกลิ่นอายวาไรตี้ความบันเทิง