NTT ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการความปลอดภัยคว้า No.1 จาก IDC MarketScape : Asia/Pacific Managed Security Services (MSS) 2020 Vendor Assessment…

highlight

  • เอ็นทีที ได้รับการประเมินว่าเป็นผู้นำในด้าน Managed Security Services (MSS) ของ Asia/Pacific จาก IDC MarketScape เหนือผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย อีก 19 ราย
  • การถูกคัดเลือกในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ เอ็นทีที ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำอุตสาหกรรม MSS ในเอเชียแปซิฟิกจากการผสานรวมของ 31 องค์กรชั้นนำ รวมทั้ง NTT Communications, Dimension Data และ NTT Security เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา

NTT คว้า No.1 ด้าน MSS ใน Asia/Pacific จาก IDC MarketScape

NTT

เอ็นทีที ได้รับการยอมรับจากการประเมินผลด้านประสิทธิภาพการบริหารจัดการความปลอดภัยบนระบบเครือข่ายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปี 2020 หรือ IDC MarketScape: Asia/Pacific Managed Security Services (MSS) 2020 Vendor Assessment (doc #AP45547820, February 2020)

ซึ่งในรายงานระบุด้วยว่าลูกค้าได้ให้การยอมรับ เอ็นทีที และความเป็นเลิศในฐานะพันธมิตรด้านกลยุทธ์เชิงธุรกิจ โดยจากรายงานดังกล่าว เปิดเผยว่า เอ็นทีที ได้รับการประเมินผลพร้อมกับผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่าย (Managed Security Services : MSS) อีก 19 ราย

 

ซึ่งในรายงานได้ตั้งข้อสังเกตว่า เอ็นทีที มีการนำเสนอผลงานด้าน MSS ที่ครอบคลุมการให้บริการมากที่สุด ทั้งยังครอบคลุมการตรวจจับภัยคุกคาม และการให้บริการด้านบริหารจัดการบนระบบเครือข่าย ที่มาพร้อมด้วยเครื่องมือเพื่อส่งเสริมรายได้ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

NTT

ซึ่งการถูกคัดเลือกในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ เอ็นทีที ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำอุตสาหกรรม MSS ในเอเชียแปซิฟิกจากการผสานรวมของ 31 องค์กรชั้นนำ รวมทั้ง NTT Communications, Dimension Data และ NTT Security เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา

ส่งผลให้ปัจจุบัน เอ็นทีที เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยมีการให้บริการโดยตรงใน 17 ประเทศของภูมิภาคดังกล่าว เนื่องจาก เอ็นทีที ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากร และความเชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่าย

ไ่ว่าจะเป็น ดาต้าเซ็นเตอร์ และคลาวด์ เพื่อช่วยให้องค์กรมีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยแพลทฟอร์ม “secure by design” เนื่องจากธุรกิจต่างๆ กำลังมองหานวัตกรรม เพื่อรองรับการการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล

การตรวจจับภัยคุกคามระดับโลก และการจัดการแบบอัจฉริยะ

 

 

จากรายงานดังกล่าว เมื่อมีการสร้างแอพพลิเคชั่นและเวิร์คโหลดการทำงานเป็นจำนวนมากขึ้นบนระบบคลาวด์ ยิ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ เอ็นทีที ทั้งในด้านการให้บริการความปลอดภัยบนคลาวด์ (Cloud-based) และการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์บนคลาวด์ฃ

นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงความเชี่ยวชาญของ เอ็นทีที ในการตรวจจับ และคัดกรองภัยคุกคามไซเบอร์แบบอัจฉริยะ (Cyber Threat Intelligence : CTI) ซึ่งดำเนินการโดยทีมงานจากศูนย์ข้อมูลภัยคุกคามระดับโลก (Global Threat Intelligence Center : GTIC)

และยิ่งไปกว่านั้นความคิดเห็นจากลูกค้ายังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการของ เอ็นทีที อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตร เพื่อมีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจในเชิงกลยุทธ์ต่อไป

แมทธิว กายด์ ประธานบริหารด้านการรักษาความปลอดภัย เอ็นทีที กล่าวว่า การที่เราได้รับการยอมรับมาอย่างต่อเนื่องในฐานะ “ผู้นำ” ด้านการรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายในเอเชียแปซิฟิก หรือ MSS ในรายงานของ IDC Marketscape นับเป็นการยืนยันถึงขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

และความเป็นผู้นำทางด้านการให้คำปรึกษาของ เอ็นทีที ด้วยแนวคิดในการพัฒนาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มมาตรการตรวจจับความเสี่ยงจากภัยคุกคาม ซึ่งองค์กรธุรกิจต่าง ๆ กำลังมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่มีนวัตกรรม

ในการเสริมสร้างความยืดหยุ่น และสมรรถนะด้านการป้องกันภัยในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์ภัยคุกคามแบบอัจฉริยะ ทั้งการโจมตีรูปแบบใหม่ และการเจาะระบบขั้นสูง รวมถึงให้บริการตรวจจับภัยคุกคาม และแจ้งข่าวกรองภัยคุกคามเพื่อให้ลูกค้าดำเนินการป้องกันได้ทันเวลา

โดย เอ็นทีที ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนามาตรฐานการให้บริการ โดยเราได้ลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนา หรือ R&D เพื่อพัฒนาเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูง และเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในเครื่องมือเหล่านั้น

NTT

นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (Security Operations Centers : SOC) และศูนย์วิจัยพัฒนา (R&D) ได้พัฒนาเพื่อให้การตรวจสอบครอบคลุมไปถึงเว็บใต้ดิน (dark web) โดย เอ็นทีที ได้รับการยอมรับว่ามีทัศนวิสัยในการมองเห็นปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตของโลกได้อย่างกว้างขวาง

ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้ เอ็นทีที เข้าถึงข้อมูลการเก็บบันทึกเหตุการณ์การโจมตี รูปแบบการโจมตี และภัยความเสี่ยงต่างๆ ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลการคุกคามที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจจับภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นใหม่ ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และตอบสนองต่อการบุกรุกได้เร็วยิ่งขึ้น

ที่ เอ็นทีที เรามองหาวิธีที่เราจะพัฒนาให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา และเป็นวิธีที่เราสามารถมอบศักยภาพที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราตัวอย่างเช่น ภัยคุกคามที่ตรวจพบในศูนย์ SOCs ของเรา ประมาณ 75% ได้รับการจัดการและดูแลผ่านการเรียนรู้จากเครื่องมือต่าง ๆ และข่าวกรองภัยคุกคามอัจฉริยะ

โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของเราได้ใช้ขั้นตอนและกระบวนการแก้ไขปัญหาด้วยการจดจำรูปแบบ ระบุความผิดปกติ และควบคุมการรักษาความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ โดยได้ฝังกระบวนการเรียนรู้เหล่านี้ไว้ในระดับโครงสร้างพื้นฐานและแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กร

NTT

และแน่นอนว่าองค์กรต่างๆ ไม่สามารถได้รับการปกป้องจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้ถึง 100% แต่เราสามารถช่วยให้พวกเขาใช้วิธีการเชิงรุก โดยทำให้การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นหัวใจของธุรกิจ และด้วยความเชี่ยวชาญของ เอ็นทีที ในการให้บริการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง

และในฐานะผู้นำการให้บริการ MSS จะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจถึงการปกป้องภัยคุกคามอย่างเต็มศักยภาพ และเหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงกระบวนการทางธุรกิจ, เทคโนโลยี, การให้บริการ และบุคลากร 

*ดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ IDC MarketScape excerpt for additional findings.

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.