Nutanix ประกาศพร้อมให้บริการจัดการคลาวด์บน One Platform เดียว

นูทานิกซ์ (Nutanix) ประกาศพร้อมให้บริการจัดการคลาวด์ (Cloud) ที่หลากหลายให้ง่ายดายบน แพลตฟอร์มเดียวอย่าง Nutanix Cloud Platform ที่ช่วยทำให้การจัดการแอปพลิเคชัน และข้อมูลต่าง ๆ ได้จากทุกทุกเวลา…

Nutanix ประกาศพร้อมให้บริการจัดการคลาวด์บน One Platform เดียว

Nutanix
เฟตรา ซาห์บานา ผู้จัดการประจำกลุ่มประเทศ GEMS นูทานิคซ์

เฟตรา ซาห์บานา ผู้จัดการประจำกลุ่มประเทศ GEMS นูทานิคซ์ กล่าวว่า ปัจจุบันการทำความเข้าใจ และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีขององค์กรมีความซับซ้อน และมีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่อยู่ในบนคลาวด์จากผู้บริการต่าง ๆ

ที่องค์กรใช้งาน ไ่ม่ว่าจะเป็น แอมะซอน เซอร์วิส คลาวด์ (Amazon Sevice Cloud) และกูเกิล คลาวด์ (Google Cloud) ซึ่งทำให้ข้อมูลเพิ่มจาก กิกะไบต์ (Gigabyte) ไปเป็น เทระไบต์ (Terabyte) ไปสู่ เอกซะไบต์ (Exabyte) จนไปสู่ระดับของ เซตตะไบต์ (Zettabyte) ที่มีข้อมูลมากกว่า 1000 ล้านล้านล้านไบต์

ไปแล้วในปัจจุบัน ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจ และการวางกลยุทธ์ด้านไอที วิธีการจัดระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น ลดความซับซ้อนในการดำเนินงานต่าง ๆ ความปลอดภัยด้านไซเบอร์, การป้องกัน และฟื้นฟูข้อมูล และบริการข้อมูล และเพิ่มการใช้งานการประชุมผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น ขององค์กรทั้งในปัจจุบัน และอนาคต

Nutanix

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ทุกองค์กรต่างต้องการแพลตฟอร์มหนึ่งเดียว (One Platform) เพื่อรันแอปพลิเคชัน และข้อมูล ได้จากทุกที่ ทั้งบนพับลิคคลาวด์ (Public Cloud) และไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud) ใน ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ระบบที่ติดตั้งอยู่ในองค์กร และที่ เอดจ์ (Edge)

นูทานิคซ์ จึงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้องค์กรได้ใช้แพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่จัดการได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการกับแอปพลิเคชันระดับองค์กร, คลาวด์-เนทีฟแอปพลิเคชัน, การวิเคราะห์ และแมชชีนเลิร์นนิง, ดาต้าเบส, เดสก์ท็อป และบริการสำคัญต่าง ๆ

เพื่อมอบอิสระให้องค์กรสามารถเลือกระบบ เลือกคลาวด์ เลือกแอปพลิเคชัน และเทคโนโลยีได้ตามต้องการ และให้องค์กรสามารถจัดการทุกอย่างได้จากจุดเดียวด้วยแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ ตามพันธกิจของนูทานิคซ์ ที่ต้องการช่วยองค์กรต่าง ๆ ปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีความทันสมัย สร้างไพรเวทคลาวด์ด้วยไฮเปอร์คอนเวิร์จ

ที่มีการประมวลผล การจัดเก็บ เวอร์ชวลไลเซชัน และเน็ตเวิร์กกิ้ง พร้อมสรรพ และจะเป็นฐานรากสำหรับการใช้ไฮบริดคลาวด์ขององค์กร และพร้อมช่วยให้องค์กรใช้คลาวด์ที่ใช้อยู่ทุกประเภทเสมือนเป็นคลาวด์เดียวกัน ผ่านโซลูชันไฮบริด มัลติคลาวด์ ที่ช่วยให้องค์กรย้ายแอปพลิเคชันและข้อมูลไปมาระหว่างพับลิคคลาวด์-ไพรเวทคลาวด์

และเอดจ์ ได้อย่างไม่ยุ่งยาก และได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ไฮบริดมัลติคลาวด์อย่างแท้จริง และช่วยให้องค์กรรันแอปได้ทุกสเกลด้วยการใช้ Cloud Platform ของ นูทานิคซ์ ที่สามารถรันแอปพลิเคชัน และเวิร์กโหลดบนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีความพร้อมใช้สูง มีประสิทธิภาพ และมีความเรียบง่ายอย่างเหนือชั้น

Global Enterprise Cloud Index (ECI) ครั้งที่ 5

Nutanix

นอกจากนี้ผลสำรวจ Global Enterprise Cloud Index (ECI) ครั้งที่ 5 ที่เป็นการสำรวจวัดความก้าวหน้าของการใช้คลาวด์ขององค์กรต่าง ๆ จากผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีจำนวน 1,450 คน แสดงให้เห็นว่าองค์กรต่าง ๆ ต้องการแพลตฟอร์มไฮบริดมัลติคลาวด์หนึ่งเดียว

เพื่อรันแอปพลิเคชัน และบริหารจัดการดาต้าบนสถาพแวดล้อมไอทีที่แตกต่างกันได้ทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานไอทีมีความหลากหลายและแตกต่างกันมากขึ้น และองค์กรต่างพบกับความท้าทายที่จะต้องบูรณาการการบริหารจัดการและการควบคุมข้อมูลจากจุดเดียว

ขณะที่ทั่วโลกเอง ก็ต้องการโครงสร้างพื้นฐานไอทีมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าครึ่งหนึ่ง (60%) ใช้สภาพแวดล้อมไอทีหลายประเภท และยังมีแผนทำเช่นนี้ต่อไปหรือมีแผนเพิ่มประเภทให้หลากหลายมากขึ้นอีกในอีก 3 ปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า การใช้โมเดลไฮบริดมัลติคลาวด์

ซึ่งประกอบด้วยไพรเวทคลาวด์ที่อยู่ในองค์กรหรือที่เอดจ์ บวกกับแพลตฟอร์มมัลติพับลิคคลาวด์ จะเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่า ในขณะที่จะมีการใช้โมเดลอื่น ๆ คงที่หรือลดลง ในเวลาเดียวกัน ดาต้าจะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนที่มีบทบาทเบื้องหลังการตัดสินใจด้านไอทีมากขึ้น

วันนี้องค์กรต่างเผชิญความท้าทายว่าจะลดความซับซ้อน และบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของตนอย่างไรที่จะสามารถรองรับทั้งแอปพลิเคชันและดาต้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสภาพแวดล้อมไอที และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน และงบประมาณด้วย องค์กรส่วนใหญ่มีความคืบหน้าในการทำให้การจัดการง่ายขึ้น

ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่าสามารถทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างสภาพแวดล้อมไอทีต่าง ๆ ของตนได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังขาดการมองเห็นแบบองค์รวมว่าดาต้าของตนอยู่ ณ ที่ใดบ้าง มีเพียง 94% เห็นเหมือนกันว่าความสามารถในการมองเห็นได้ทั้งหมดเป็นเรื่องสำคัญ

และ 40% เท่านั้นที่ระบุว่าสามารถมองเห็นว่าดาต้าของตนอยู่ที่ไหนได้อย่างสมบูรณ์ นั่นหมายความว่า 60% ยังไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ซึ่งการไม่สามารถมองเห็นว่าดาต้าอยู่ที่ใด ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสามารถขององค์กรในการกำหนดและบังคับใช้นโยบายด้านความปลอดภัยได้อย่างรัดกุมกับทุกแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ใช้

จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผลสำรวจปีนี้พบว่าความปลอดภัยของดาต้า และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การกำกับดูแล และปัญหาด้านการควบคุมดาต้า จึงยังคงเป็นสิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจคำนึงถึงมากที่สุด

การใช้คลาวด์ขององค์กรในไทยเติบโตน้อย แต่มีย้งมีความต้องการใช้ Cloud

Nutanix
สุรักษ์ ธรรมรักษ์ หัวหน้าวิศวกรระบบ ของ นูทานิคซ์ (ประเทศไทย)

สุรักษ์ ธรรมรักษ์ หัวหน้าวิศวกรระบบ ของ นูทานิคซ์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขณะที่ผลสำรวจ ECI ของประเทศไทย พบว่า องค์กรในประเทศไทยใช้ไอทีแบบผสม หรือ ไฮบริดมัลติคลาวด์ น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลก และยังไม่มีแผนที่จะใช้งานแบบไฮบริดมัลติคลาวด์

โดยมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยยังอยู่ในการเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีโดยร่วมให้ได้ตามเป้าหมายในการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานไฮบริดมัลติคลาวด์จาก 0% ในวันนี้เป็น 50% แภายใน 3 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะลดการใช้งานของระบบไอทีแบบเดิม ๆ ลง และหันมาใช้งานบนคลาวด์ (Cloud) มากขึ้น

โดยมีปัจจัยสำคัญคือเรื่องของ อำนาจในการควบคุมข้อมูล และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เป็นแรงผลักดันสำคัญในการตัดสินใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีบนคลาวด์ (Cloud) อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจยังพบว่าองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทย กว่า 98% ต้องการแพลตฟอร์มจัดการส่วนต่าง ๆ ของโครงสร้างพื้นฐานที่หลากหลาย

ได้จากจุดเดียว พร้อมต้องการเข้าถึงเครื่องมือแบบรวมศูนย์ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงตำแหน่งจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดที่องค์กรมีอยู่ ซึ่งคาดว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่คาดว่าจะขยายตัวจาก 2% เป็น 6% ได้

Nutanix Cloud Platform แพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการข้อมููล

เฟตรา ซาห์บานา กล่าวเสริมว่า ใน Nutanix Cloud Platform จะมีความสามารถใหม่ ๆ อาทิ Nutanix Data Services for Kubernetes (NDK) จะช่วยให้ลูกค้าควบคุม คลาวด์เนทีฟ (Cloud native) แอปพลิเคชัน (Application) และดาต้า (Data) ได้ตามต้องการ

ในเบื้องต้น NDK ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Nutanix Cloud Infrastructure (NCI) จะนำความสามารถอย่างเต็มประสิทธิภาพของสตอเรจ, สแน็ปช็อต, และการกู้คืนระบบ ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานระดับองค์กร ของ นูทานิคซ์มาใช้กับ Kubernetes NDK

จะเสริมให้นักพัฒนา Kubernetes สามารถจัดการสตอเรจ และบริการด้านดาต้าต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ควบคู่กับสามารถมองเห็นความเป็นไปและควบคุมการใช้งานได้ นอกจากนี้ NDK ยังได้รับการออกแบบมา เพื่อให้ใช้กับ Red Hat OpenShift ได้อีกด้วย

และยังสามารถใช้โซลูชัน CloudDelivered ที่มอบสมรรถนะในการมองเห็นสถานะความเป็นไป การติดตามตรวจสอบ และการบริหารจัดการบนสภาพแวดล้อมพับลิคคลาวด์, ระบบที่ติดตั้งอยู่ในองค์กร, โครงสร้างพื้นฐานที่โฮสต์กับผู้ให้บริการ หรือที่เอดจ์ได้ครบถ้วนจากคอนโซลเดียว

นับเป็นการขยายการใช้ Cloud Platform ซึ่งเป็นโมเดลการดำเนินงานที่ใช้ได้ครอบคลุมกับคลาวด์ที่หลากหลาย ไปใช้ขจัดการทำงานที่เป็นไซโล และช่วยให้บริหารจัดการแอปพิเคชัน และข้อมูลได้จากทุกที่เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังรองรับการใช้งานหลายโดเมนร่วมกัน

รวมถึงการจัดการระบบพิสูจน์อัตลักษณ์ และการเข้าใช้ทรัพยากร (IAM) แบบรวมศูนย์ จัดการโปรเจกต์ และหมวดหมู่ และ fleet ต่าง ๆ ทั่วโลก ได้ตามความต้องการ และยังสามารถควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความปลอดภัยได้

Nutanix

นอกจากนี้ นูทานิคซ์ ยังได้เปิดตัว Project Beacon ซึ่งเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นตลอดหลายปีที่ผ่านมาของบริษัทฯ ในการนำเสนอพอร์ตโฟลิโอบริการด้าน datacentric Platform as a Service (PaaS) ที่ยึดดาต้าเป็นศูนย์กลางและพร้อมใช้งานได้ทุกที่

รวมถึงบนแพลตฟอร์มของนูทานิคซ์ หรือบนเนทีฟพับลิคคลาวด์ Project Beacon สร้างจากวิสัยทัศน์ในการแยกแอปพลิเคชันและดาต้าออกจากโครงสร้างพื้นฐานหลัก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถสร้างแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพียงครั้งเดียว และนำไปใช้ได้ทุกที่

โดย นูทานิคซ์ มุ่งให้บริการแพลตฟอร์มเซอร์วิสที่องค์กรจำนวนมากต้องใช้ ให้เป็นส่วนหนึ่งของ Project Beacon ด้วย API แลคอนโซลเดียว ที่ผสานการทำงานร่วมกับ Kubernetes® container และการบริหารจัดการที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันบนทุกสภาพแวดล้อม ชุด datacentric platform services นี้

จะมีความโดดเด่นด้วยวิธีการบริหารจัดการที่ง่าย และสอดคล้องกัน, การเคลื่อนย้ายได้แบบอัตโนมัติ, การนำไลเซนส์ไปใช้งานบนสภาพแวดล้อมต่าง ๆ, นักพัฒนาสามารถบริการตนเองได้ ทั้งยังมาพร้อมกับความปลอดภัย และการกำกับดูแลที่มีให้กับทีมปฏิบัติการด้านคลาวด์ที่ติดตั้งมาพร้อมสรรพ

บริการนี้จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์เข้าถึงชุดบริการ PaaS ที่ยึดดาต้าเป็นศูนย์กลางนี้ได้ ไม่ว่าจะอยู่บนเนทีฟพับลิคคลาวด์, ระบบภายในองค์กร หรือที่ edge ในเวลาเดียวกันทีมปฏิบัติงานจะสามารถคงการควบคุมและกำกับดูแลดาต้า, การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และปกป้องข้อมูลได้อย่างเต็มที่

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay