เร้ดแฮท (Red Hat) เผย 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะมาในปี 2564 พร้อมแนะองค์กรเร่งปรับตัว เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19…
Red Hat เผย 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะมาในปี 2564 พร้อมแนะองค์กรเร่งปรับตัว
แฟรงค์ เฟลด์มันน์ รองประธาน APAC Office of Technology เร้ดแฮทเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การเปลี่่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนโยบายทำงานจากที่ บ้าน ไปจนถึงความต้องการของลูกค้าที่ เพิ่มขึ้นทั้งด้านการบริ การและต้องการประสบการณ์ที่ดีขึ้ น ทำให้องค์กรต่าง ๆ จำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้เร็ วขึ้น
เพื่อรับมือกั บผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิ ด-19 เร้ดแฮทคาดว่าแนวโน้ มทางเทคโนโลยีจะยังคงมีการพั ฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะการพึ่งพาเทคโนโลยีทวี ความสำคัญมากขึ้นในสภาพสั งคม และเศรษฐกิจในปัจจุบัน องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ที่ต้องการอยู่ให้ รอดจากสถานการณ์เช่นนี้ ควรทบทวนกลยุทธ์ด้านดิจิทั ลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยอ้างอิงจากแนวโน้มที่เร้ ดแฮทคาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้
แฟรงค์ เฟลด์มันน์ รองประธาน APAC Office of Technology เร้ดแฮทเอเชียแปซิฟิก
5G , IoT และ Edge computing คือ สามเทคโนโลยีแห่งการเชื่อมต่อที่ ชาญฉลาด
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะพัฒนาเส้ นทาง 5G ของตนอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริการ 5G เชิงพาณิชย์ได้เปิดให้บริการแล้ วในเก้าประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน และยังมีอีก 12 ประเทศที่ได้ ประกาศแผนการทำนองเดียวกันนี้ อย่างเป็นทางการ ความพร้อมในการใช้งาน 5G ที่เพิ่มขึ้น
จะช่วยขับเคลื่อนอิ นเทอร์เน็ตออฟธิงค์ ( IoT) และเอดจ์คอมพิวติ้ง (Edge computing) ที่ให้ค่าความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ เครือข่ายแบนด์วิธที่สูง และรองรับการเข้าถึงอุปกรณ์ ปลายทางของผู้ใช้จำนวนมากได้อย่ างมีประสิทธิภาพ เช่น 5G , IoT และ Edge computing สามารถนำไปใช้
เพื่อการบริหารจั ดการยานพาหนะในอุตสาหกรรมขนส่ งได้อย่างชาญฉลาด อุปกรณ์ประมวลผลแบบ edge จะใช้ตรวจสอบระบบยานพาหนะที่ สำคัญ ๆ ได้ และสามารถใช้เครือข่าย 5G เพื่อส่งการแจ้งเตือน และติดตามเส้นทางในการขนส่งสิ นค้า การวางแผนเส้นทางต่าง ๆ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการสื่ อสารระหว่างยานพาหนะ
และอุปกรณ์ที่ใช้ IoT ที่อาจส่งผลกระทบหรือได้รั บผลกระทบจากยานพาหนะนั้น ๆ เร้ดแฮทคาดการณ์ว่าในปี 2564 องค์กร และเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมี การใช้ 5G , IoT และ Edge computing เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ และเพิ่ มประสิทธิภาพ การใช้งานต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากสามเทคโนโลยีนี้
รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ จากเซ็นเซอร์เพื่อคาดการณ์ การบำรุงรักษาและการควบคุมคุ ณภาพ การใช้เทคโนโลยีโลกเสมือน ( Augmented Reality-AR) ในการควบคุมการทำงานจากระยะไกล และ “ประสบการณ์เชื่อมต่อ “ เฉพาะบุคคลเพื่อการมีส่วนร่ วมของลูกค้า และซัพพลายเออร์
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดั บแรกสำหรับไฮบริดคลาวด์
ลูกค้าและพนักงานต่างคาดหวังให้ มีแอปพลิชั่นทางธุรกิจ และบริ การที่มีความพร้อมสูง และมี ความปลอดภัยให้ใช้งานได้ตามที่ ต้องการเหมือน ๆ กัน เพื่อให้ตอบโจทย์ดังกล่าว เร้ดแฮทแนะนำให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ระบบไฮบริดคลาวด์เพื่อให้ การทำงานบนทุกสภาพแวดล้อม (เช่น แบบ on-premises, ไพรเวทหรือพับลิคคลาวด์)
เป็นไปอย่างง่ายดายและรวดเร็ วมากยิ่งขึ้น จากรายงาน 2021 Global Tech Outlook ของเร้ดแฮทพบว่าภายใน 12 เดือนข้างหน้า 77 % ขององค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิ กที่ตอบแบบสำรวจ มีแผนที่จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ มากกว่าหนึ่งประเภทไม่ว่าจะเป็ นไพรเวทและพับลิคคลาวด์
โดยเพิ่มขึ้นจาก 53 % จากการสำรวจของปี 2563 จากผลการสำรวจ เหตุผลหลักสามประการที่ทำให้ องค์กรต่าง ๆ ใช้งานแอปพลิเคชั่นของตนผ่ านไฮบริดคลาวด์ ได้แก่ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของข้ อมูล เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นด้านไอที และเพื่อจัดการรับมือกับปัญหาข้ อมูลส่วนบุคคล
ความก้าวหน้าของการใช้ไฮบริ ดคลาวด์ขององค์กรต่าง ๆ ทำให้เรื่องความปลอดภัยจะยั งคงเป็นประเด็นสำคัญที่องค์ กรให้ความสนใจ เกือบครึ่งหนึ่งขององค์กรที่ ทำการสำรวจทั่วโลกระบุว่า การรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์เป็ นสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญสู งสุดในการลงทุนในปีนี้ ความท้าทายเรื่องความปลอดภัยมี องค์ประกอบที่แตกต่างกันไป
เช่น อุปกรณ์ปลายทางของผู้ใช้ เน็ตเวิร์ก และความปลอดภัยของข้อมูล วิธีหนึ่งที่จะเอาชนะความท้ าทายเหล่านี้ได้คือการใช้ กรอบการทำงานด้านการรั กษาความปลอดภัยอัตโนมัติแบบเปิด ที่รวมแนวปฏิบัติในการรั กษาความปลอดภัยต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันโดยใช้ชุดเวิร์ กโฟลว์อัตโนมัติ
การดำเนินการดั งกล่าวจะทำให้องค์ กรสามารถมองเห็นการทำงานทั้ งหมดได้ดีขึ้นผ่านฟังก์ชั่นรั กษาความปลอดภัยทั้งหมด ช่วยให้ระบุภัยคุกคาม หรื อการโจมตีทางไซเบอร์ได้รวดเร็ วมากยิ่งขึ้น
คลาวด์เนทีฟจะผลักดันให้มี การใช้คอนเทนเนอร์
แอปพลิเคชั่นแบบคลาวด์เนที ฟสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ ยนแปลง การนำไปปรับใช้ และการพัฒนาได้อย่างรวดเร็วด้ วยคุณสมบัติและฟังก์ชั่ นการทำงานแบบใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ รวดเร็ว และเชื่อถือได้โดยมี ความเสี่ยงน้อยลง เนื่องจากองค์กรจำนวนมากขึ้นมี การใช้ไฮบริดคลาวด์
เพื่อเพิ่ มความสามารถในการปรับขยาย และความพร้อมใช้งานของแอปพลิ เคชั่น ทำให้บรรดาองค์กรที่ใช้การพั ฒนาแบบคลาวด์เนทีฟอยู่ในสถานะที่ ดีกว่าในการสร้าง และใช้ งานแอปพลิเคชั่น ที่สามารถตอบสนองได้ดี และปรั บขนาดได้บนคลาวด์ทุกระบบ อีกทั้งยังสามารถทำงานต่อไปได้ แม้จะเกิดความเสียหายบางส่วน
คอนเทนเนอร์เป็นเทคโนโลยีหลักที่ จะปลดปล่อยคุณประโยชน์ต่าง ๆ ของการพัฒนาระบบคลาวด์เนทีฟ คอนเทนเนอร์ช่วยจั ดรวบรวมและแยกแอปพลิเคชั่นด้ วยสภาพแวดล้อมที่เป็นแบบรันไทม์ ทั้งหมด ทำให้ง่ายต่อการโยกย้ายแอปพลิ เคชั่นไปมาระหว่างสภาพแวดล้ อมแบบต่าง ๆ
โดยยังคงการทำงานได้อย่างเต็มรู ปแบบ นักพัฒนาสามารถใช้คอนเทนเนอร์ ในการเปิดใช้และอัพเดตแอปพลิ เคชั่น ได้ง่ายขึ้นในรูปแบบของการบริ การที่เป็นอิสระต่อกัน เช่น ไมโครเซอร์วิส แทนที่จะต้องรอการอัพเดทครั้ งใหญ่เพียงครั้งเดียว
การตระหนักว่าคอนเทนเนอร์ช่ วยเร่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ ทำให้ 45 % ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิ ภาคเอเชียแปซิฟิกคาดหวังจะนำปริ มาณงานกว่าครึ่งของตนมาเก็บไว้ ในคอนเทนเนอร์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ระบบอัตโนมัติจะทวีความสำคั ญมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ลูกค้ามีความต้องการเพิ่ มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถาปัตยกรรมด้านไอทีเองก็มี การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และสร้างด้วยเทคโนโลยีที่ซับซ้ อนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งองค์กรต่าง ๆ ยังคงจำเป็นต้องสนับสนุ นการทำงานจากที่บ้านในช่ วงการแพร่ระบาดของโควิด- 19 เพื่อให้สามารถรับมือกับความต้ องการเหล่านี้
องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจึ งหันมาใช้ระบบอัตโนมัติมากขึ้น เพื่อลดความซับซ้อน เพื่อเพิ่มผลผลิต และเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับประโยชน์ จากระบบอัตโนมัติได้อย่างเต็มที่ จะต้องมีกลยุทธ์การใช้ระบบอั ตโนมัติในภาพรวมทั่วทั้งองค์กร แทนที่จะมีการปรับใช้ระบบอั ตโนมัติในการทำงานแบบแยกส่วน
มีองค์กรมากขึ้นที่หันมาใช้ ระบบอัตโนมัติร่วมกับปัญญาประดิ ษฐ์ และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกแบบอั ตโนมัติเพิ่มเติมขึ้นอีก เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพของกระบวนการทางธุรกิจ ธนาคารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิ กบางแห่งใช้ระบบหุ่นยนต์อัตโนมั ติที่ทำงานแทนมนุษย์ ( Robotic Process Automation: RPA)
เพื่ออนุมัติการสมัครบัตรเครดิต การชำระเงินอัตโนมัติ และการตรวจสอบการอ้างสิทธิ์ เนื่องจาก RPA สามารถเรียนรู้เพิ่ม และลอกเลียนแบบการตัดสิ นใจ และพฤติกรรมของมนุษย์ เพื่อสำเนาพฤติกรรมของผู้ใช้ งานที่ปฏิบัติตามกฎที่ตั้งไว้ ช่วยลดเวลาในการทำงานเหล่านั้ นได้เป็นอย่างมาก
วัฒนธรรมการทำงานแบบเปิดเป็นสิ่ งจำเป็นที่จะช่วยส่งเสริมการปรั บเปลี่ยนเทคโนโลยีให้ทันสมัย
ผลการศึกษาในเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่สนับสนุนโดยเร้ดแฮท สำรวจพบว่า 80 % ของผู้นำธุรกิจในเอเชียแปซิฟิ กจัดลำดับให้การเปลี่ยนแปลงวั ฒนธรรมในการทำงาน และการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้ มีความ
ทันสมัยมากขึ้น มีความสำคัญเท่าเทียมกั นในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่ น
คุณลักษณะทางวัฒนธรรมที่สำคั ญสำหรับการเปลี่ยนแปลงนั้น รวมถึงความสามารถในการปรับใช้ , การมีส่วนร่วมของบุคลากรในองค์ กร , ความโปร่งใส และการทำงานร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นหลั กการทำงานแบบโอเพ่นซอร์ส องค์กรที่สนับสนุนแนวคิดริเริ่ มเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมในการทำงาน อันเป็นความพยายามในการปรับปรุ งโครงสร้างพื้นฐาน
และสถาปั ตยกรรมแอปพลิเคชั่นของตนให้ทั นสมัยมาโดยตลอด จะสามารถพัฒนาและส่งมอบแอปพลิ เคชั่นใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ อย่างฉับไว และควบคุมค่าใช้จ่ายในการบำรุ งรักษาได้เป็นอย่างดี
ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิ กตระหนักดีว่า ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเกิ ดจากการปรับเปลี่ ยนกระบวนการทางความคิด เราจึงคาดการณ์ว่าองค์กรต่าง ๆ จะเปิดรับหลักการ กระบวนการ และวัฒนธรรมแบบเปิดมากขึ้ นและเมื่อมีการยอมรับแล้ว องค์กรต่าง ๆ จะสามารถรักษาความร่วมมือร่วมใจ
และส่งเสริมให้พนักงานใช้ความคิ ดและตัวตนที่ดีที่สุดของตนมาใช้ ในการทำงาน ซึ่งจะช่วยเร่งการสร้างสรรค์นวั ตกรรม และรับมือกับความต้องการของลู กค้าและธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงได้ อย่างคล่องตัว
เหตุการณ์สำคัญระดับโลกในปี 2563 ทำให้องค์กรต่าง ๆ ตั้งเป้าสนใจเรื่องความอยู่ รอดในระยะสั้นเพื่อส่งเสริ มความต่อเนื่องทางธุรกิจ ในขณะที่ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง องค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิ กจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรั บอนาคต ด้วยการนำโซลูชั่นเทคโนโลยีที่ ยืดหยุ่น คล่องตัว
และปรับขยายได้มาใช้กับธุรกิ จของตน องค์กรต่าง ๆ ที่ต้องพัฒนาหรืออั พเดตแผนในการทำดิจิทัลทรานส์ ฟอร์เมชั่นในปี 2564 นี้ ควรจะพิจารณาถึงเทรนด์ต่าง ๆ เช่น 5G และ Edge computing , ไฮบริดคลาวด์ และระบบอัตโนมัติ ที่สามารถช่วยองค์กรได้
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.freepik.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th