Review : belkin BoostCharge Pro 3-in-1 Magnetic Charging Pad Qi2 15W

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

รีวิว (Review) แท่นชาร์จไร้สายความเร็วสูง belkin BoostCharge Pro 3-in-1 คู่หูที่สาวก Apple ไม่ควรพลาด!! มีไว้ครอบครอง…

เคยมั้ย? เวลาที่เราต้องชาร์จอุปกรณ์ ทั้ง สมาร์ทโฟน หูฟังไร้สาย สมาร์ทวอทช์ ของ Apple เราต้องวุ่นวายหาสายชาร์จมาใช้ ซึ่งหลายครั้งมันทำให้สายชาร์จพันกันพะรุงพะรัง แถมยังประสบปัญหาเรื่องของการใช้ของไม่ได้มาตราฐานที่อุปกรณ์ของเราจะฟ้องว่าทำให้เกิดชาร์จช้า หรือไม่ยอมชาร์จไฟให้เลยก็มี

และยังสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้อุปกรณ์ของเราเสื่อมสภาพ หรือพังได้ง่าย ๆ อีกด้วย แต่จะใช้แต่ของแท้ก็มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้สิ้นเปลื้องเงินเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเรามี belkin BoostCharge Pro 3-in-1 Magnetic Charging Pad Qi2 15W ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปอย่างง่ายดาย

เรามาดูกันดีกว่าทำไมถึงควรลงทุนหาซื้อ belkin BoostCharge Pro 3-in-1 Magnetic Charging Pad Qi2 15W (เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 แมกเนติก ชาร์จเจอร์ แพด คิวไอ2 15วัตต์) ตัวนี้มาใช้งาน

Review : belkin BoostCharge Pro 3-in-1 Magnetic Charging Pad Qi2 15W คู่หูที่สาวก Apple ไม่ควรพลาด!!

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

หากเรา พูดถึงแบรนด์ “เบลกิ้น” เราคงปฏิเสธกันไม่ได้ว่านี้คือหนึ่งในแบนด์ชั้นนำที่ผลิตสายชาร์จ และอุปกรณ์ไอทีสำหรับอุปกรณ์พกพา ที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานของอุตสาหกรรม ในระดับสูง และได้รับการนอมรับว่ามีคุณภาพเป็นอย่างมาก แถมยังมีดีไซน์การออกแบบที่หลากหลาย และมีความทนทานในระดับที่ดี และยังมีการพฒนาเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย อย่างต่อเนื่อง

โดยเจ้า “เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 แมกเนติก ชาร์จเจอร์ แพด คิวไอ2 15วัตต์” ตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีคุณสมบัติที่สามารถชาร์จไฟได้รวดเร็ว กำลังไฟเสถียร จ่ายไฟสม่ำเสมอ และสามารถป้องกันความร้อนไม่ให้สูงเกินไป เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบความปลอดภัย และยังผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (PCR) ที่เป็ยมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงช่วยลดการใช้พลาสติกลงไปอย่างมาก

ถือว่าเป็นแบรนด์ที่นอกจากจะมีคุณภาพ และยังใส่ใจต่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมโลกอีกด้วย แต่ชมมากไปก็ดูจะอวยเราต้งไปดูกันดีกว่าว่าทำไม แอดมินถึงเชียร์ “เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 แมกเนติก ชาร์จเจอร์ แพด คิวไอ2 15วัตต์” หรือ เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 ตัวนี้ และแนะนำให้ไปลองพิจารณาในการหาไปใช้งานกันครับ

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง “เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 แมกเนติก ชาร์จเจอร์ แพด คิวไอ2″

  • Belkin Boost Charge Pro 3-in-1 Magnetic Wireless Charging Pad
  • Apple Watch Puck (แท่นชาร์จ Apple Watch แบบแยกส่วน)
  • สาย USB-C to USB-C ยาว 1.5 เมตร
  • เอกสาร คู่มือการใช้งาน

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

สเปคข้อมูล (Specification) : เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2

  • สี : 2 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว
  • ขนาด : 8.1 x 8.5 x 2 มม.
  • น้ำหนัก : 450 กรัม (0.99 ปอนด์)
  • ความยาวสาย : 1.5 ฟุต
  • เทคโนโลยีชาร์จ : Qi2
  • จ่ายไฟไร้สายสูงสุด : 15 วัตต์
  • ความสามารถในการรองรับอุปกรณ์ Apple : 3 อุปกรณ์ (iPhone / Airpod / Apple Watch) รองรับเทคโนโลยี MagSafe *รองรับ iPhone ตั้งแต่ iPhone 13 ถึง iPhone15 Pro Max (ข้อมูล ณ ปัจจุบัน), (รองรับ AirPods เฉพาะรุ่นที่รองรับการชาร์จไร้สาย)
  • บรรจุภัณฑ์ : ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (PCR) *ตัวเครื่อง (ไม่รวมสาย แหล่งจ่ายไฟ และส่วนประกอบซิลิโคน) ทำจากพลาสติกรีไซเคิลหลังการบริโภคขั้นต่ำ 60%
  • ราคา : 4,490 บาท

การออกแบบ (design)

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 ตัวนี้มากับกล่องกระดาษดีไซน์สี่เหลี่ยมผืนผ้า สีเขียวขาวตัดกันอย่างล่ะครึ่ง ตัวกระดาษจะไม่ใช่กระดาษที่แข็งมากมีลักษณะเป็นกล่องกระดาษทั่วไป ด้านหน้าจะสกรีนชื่อรุ่น ชื่อแบรนด์ รูปภาพของตัวอุปกรณ์ สัญลักษณ์การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการใช้งาน และความสามารถของอุปกรณ์ ด้านข้างตัวกล่องฝั่งขวาสกรีน QR code ให้แสกนความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ ขณะที่ฝั่งด้านซ้ายจะสกรีนรูปภาพของอุปกรณ์ ด้านบนกล่องจะสกรีนแจ้งว่าโปรดักซ์นี้ปราศจากพลาสติก 100% ในด้านล่างจะสกรีน หมายเลขซีเรียล และ IMEI ของตัวอุปกรณ์

ในส่วนของด้านหลังตัวกล่องจะสกรีนภาพโปรดักซ์ และความสามารถของตัวอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นความยาวของสาย, รูปแบบของหัวสายชาร์จ (USB-C to USB-C cable), ความสามารถในการชาร์จไฟ (กำลังวัตต์) ที่จะจ่ายให้แก่ตำแหน่งต่าง ๆ ที่ใช้วางอุปกรณ์พกพาที่ค้องการจะชาร์จ (iPhone / Airpod / Apple Watch), วารันตี 2 ปี และชื่อผู้ผลิต ซึ่งตัวที่แอดมินได้มารีวิวจะเป็นสีดำครับ

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

ด้านในกล่องเมื่อแกะออก (ฝั่งด้านซ้าย) จะพบกับตัวแท่นชาร์จไร้สาย คู่มือการรับประกัน คู่มือการใช้งาน สายชาร์จ USB-C to USB-C cable เส้นหนา และกล่องใส่แท่นแยกวางของ Apple Watch สำหรับเสียบต่อพ่วงกับตัวแท่นชาร์จไร้สายที่ด้านข้างฝั่งขวา ขณะที่ช่องเชื่อมต่ออะแดปเตอร์จะอยู่ตรงตำแหน่งด้านบน โดยสัมผัสแรกที่ได้จับเจ้าตัวแท่นชาร์จไร้สาย เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 ถือว่าค่อนข้างมีนำหนักอยู่พอสมควรในแว่บแรกอาจจะรู้สึกถึงความหนัก แต่หากคิดกลับกันก็จะแสดงให้เห็นถึงความแน่นหนาในการตัวอุปกรณ์ที่ได้รับได้รับการออกแบบที่ใส่ใจมาเป็นอย่างดี

โดยตัวแท่นชาร์จไร้สายนี้จะมีผิวสัมผัสที่ดำด้าน และมีการสกรีนชื่อโลโก้ เบลกิ้น ที่ด้านหน้า ขณะที่ด้านหลังจะสกรีนชื่อรุ่น และความสามารถของตัวแท่นชาร์จไร้สาย เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 เอาไว้ ที่แอบต้องระวังซักหน่อยด้วยความที่ผิวสัมผัสเป็นแบบดำด้านก็อาจจะทำให้เกิดคราบมันจากมือไปติดได้ง่าย ๆ สำหรับคนที่ไม่สนใจก็คงไม่เป็นไร แต่หากคนที่ักความสะอาดอยากให้ตัวแท่นชาร์จไร้สายสะอาดดูดีก็คงต้องระมัดระวังกันหน่อย

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

ขณะที่ในส่วนของ แท่นแยกวางของ Apple Watch ถือว่าไม่ได้มีน้ำหนักมากเท่าไร แต่ก็ออกแบบมาได้ดี ดูไม่ทำแบบลวก ๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหัวชาร์จอะแดปเตอร์ แถมมาให้ด้วย แต่เข้าใจได้เพราะอาจจะต้องใช้ควบคู่กับหัวชาร์จอะแดปเตอร์ที่มีกำลังส่งไฟสูง ซึ่งในกรณีนี้ผู้ใช้งานจำเป็นอย่างต้องเลือกใช้ให้เหมาะ หากไปเลือกใช้หัวที่ไม่ได้มาตราฐาน ก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพที่ดี และเลี่ยงต่อความเสียหายที่อาจะเกิดขึ้นด้วย

ซึ่งในตรงจุดนี้ทาง เบลกิ้น เองก็มีหัวชาร์จอะแดปเตอร์จำหน่ายแยกให้แต่นั่นก็หมายถึงราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีหากเรามีหัวชาร์จอะแดปเตอร์ของเดิม Apple เดิมอยู่แล้วก็สามารถใช้ร่วมกันได้ครับ กลับมาที่ตัวแท่นชาร์จไร้สายกัน ในส่วนของที่เอาไว้วาง iPhone จะมีส่วนที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่ในการหยิบจับได้ง่าย และให้ตัวแผ่น MagSafe สัมผัสกับส่วนรับไฟของตัวเครื่องได้ง่ายขึ้น

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

ส่วนตำแหน่งในการวาง Airpod นั้นจะมีลักษณะที่เว้าลงจากตัวแท่นชาร์จไร้สายเล็กน้อยเพื่อให้รับกับตัวเคสของ Airpod ได้พอดี ซึ่งช่วยป้องกันการวางไม่ถูกตำแหน่ง หรือการไหลลื่นได้ในระดับหนึ่งครับ สำหรับเจ้าแท่นเสียบแยก Apple Watch ที่เอาไว้เสียบทางด้านข้างฝั่งขวานั้นจะเป็นการผสมผสานกันระหว่างตัวผิวสัมผัสแบบดำด้าน และส่วนที่สัมผัสกับส่วนชาร์จ Apple Watch ที่เป็นสีขาวด้าน ขณะที่ตัวส่วนที่ยื่นไปเพื่อเสียบกับช่องด้านข้างนั้นจะเป็นเเบเคลือบเงาที่สกรีนชื่อโลโก้ เบลกิ้น เอาไว้ครับ

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

ในด้านความสามารถในการชาร์จไฟ ตัว เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 นั้นถือว่าทำออกมาค่อนข้างดีเยี่ยมเพราะจากที่ลองชาร์จกำลังไฟที่ส่งผ่านเข้าตัวอุปกรณ์พกพา ไม่ว่าจะเป็น iPhone, Airpod หรือ Apple Watch ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจครับ โดยในส่วนของการชาร์จ iPhone (รุ่นที่รองรับ MagSafe) นั้นเพียงแค่วาง iPhone ลงตำแหน่งตัว เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 ก็จะเริ่มจ่ายไฟ 15 วัตต์ ให้ทันที

โดยจุดเด่นอีกจุดคือการที่ตัวตำแหน่งของการชาร์จนั้นจะมีการยกขึ้นเพื่อช่วยให้ไม่เกิดความร้อนสะสมขณะชาร์จได้ดีขึ้นครับ โดยเมื่อเริ่มชาร์จจะมีไฟบอกสถานะการทำงานเล็ก ๆ แสดงให้เห็นอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องมีแถบยางกันลื่นมาให้ 2 แถบ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าแท่นชาร์จจะเลื่อนเมื่อต้องวางในพื้นผิวที่กระเบื้อง หรือในที่ลื่น ๆ ได้

ขณะที่ตัวแท่นเสียบแยก Apple Watch ก็ถือว่าสามารถจ่ายไฟได้เร็วขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ที่น่าสนใจคือการที่ ตัวแท่นเสียบแยก Apple Watch เป็นพอร์ตแบบ USB-C ทำให้เราสามารถนำสายชาร์จที่มีหัวชาร์จเป็น USB-C มาต่อพ่วงเพิ่มเพื่อชาร์จสมาร์ทโฟนอีกเครื่องได้ สำหรับตำแหน่งการชาร์จของ Airpod ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน

ข้อสรุปการใช้งานหลังจากทดสอบ (Conclusion of use)

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

จากการทดสอบต้องยอมรับว่า เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 นั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่เป็นคู่หูที่ดีสำหรับคนที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์จากค่าย Apple จริง ๆ ครับ ในเรื่องการดีไซน์ออกแบบก็ถือว่าออกแบบมาได้ฉีกไปจากเดิมที่รุ่นก่อน ๆ จะมีลักษณะเหลี่ยม ๆ ซะส่วนมาก การดีไซน์ให้มีความโค้งมนมากขึ้นจึงทำให้ดูสวยงามมากกว่าเดิม ในด้านประสิทธิภาพในการใช้งานก็ถือว่าทำได้เป็นอย่างดีสามารถชาร์จไฟได้ด้วยกำลังไฟที่นิ่งเสถียร

โดยผลจากการทดสอบชาร์จ iPhone 13 Pro จากแบตเตอรี่ 40% จนเต็ม 70% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (ชาร์จจากเพาเวอร์แบงค์) ซึ่งถือว่าไม่ได้ช้ามากจนเกินไปเท่าไรนัก ขณะที่การชาร์จสาย USB-C to USB-C cable ทำได้ดีกวา่ครับ โดยประมาณแล้วสามารถจนเต็ม 100% ได้ในเวลา 2 ชั่วโมง (กรณีที่หัวชาร์จอะแดปเตอร์ไม่ได้เป็นแบบจ่ายไฟกำลังสูง)

และแม้ว่าเจ้า เบลกิ้น บูสชาร์จ โปร 3 อิน 1 คิวไอ2 นี้จะถือว่าเป็นคู่หูที่ดีของสาวก Apple แต่ในความเป็นจริงก็สามารถใช้งานได้กับแบรนด์สมาร์ทโฟนอีกหลายแบรนด์ด้วยเช่นกัน แต่ต้องเป็นเครื่องที่รองรับการชาร์จไร้สายเท่านั้นนะครับ ในส่วนของการชาร์จ Airpod และ Apple Watch นั้น คงต้องบอกว่าค่อนข้างมีอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันได้น้อยกว่า

belkin BoostCharge Pro 3-in-1

หากจะมองที่เรื่องที่น่าเสียดายก็น่าจะหนีไม้พ้นเรื่องที่ตัวเครื่องนั้นไม่แถม หัวชาร์จอะแดปเตอร์ มาให้ด้วย ซึ่งก็ปกติของการจำหน่ายอุปกรณ์การชาร์จสมัยนี้ที่ไม่แถมมาให้ ซึ่งหากสามารถจัดโปรโมชั่นแบบแพ็คคู่ในราคาที่น่าสนใจเชื่อว่าน่าจะเป็นตัวกระตุ้นยอดขายได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว อีกเรื่องที่น่ากังวลเล็ก ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องของผิวสัมผัส โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบสีดำ ซึ่งการออกแบบมาให้เป็นสีดำด้านแม้จะดูสวยงามแต่ก็ต้องแลกมาด้วยคราบที่จะทำให้ความสวยลดลงไปไม่มากก็น้อย

ข้อดี

  • ดีไซน์เพรียวบาง กะทัดรัด พกพาสะดวก มีความโค้งมนมากขึ้นจึงทำให้ดูสวยงามมากกว่าเดิม
  • ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (PCR) ที่เป็ยมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • มาพร้อมเทคโนโลยี MagSafe ที่เหมาะสำหรับ iPhone
  • สามารถชาร์จไฟได้พร้อมกันทั้งหมดพร้อมกัน 3 อุปกรณ์ ในเวลาเดียวกัน
  • ตำแหน่งของการชาร์จนั้นจะมีการยกขึ้นเพื่อช่วยให้ไม่เกิดความร้อนสะสมขณะชาร์จได้ดี
  • สายชาร์จ USB-C to USB-C cable ที่มีมาให้มีความหนาทนทาน
  • ตัวแท่นเสียบแยก Apple Watch เป็นพอร์ตแบบ USB-C ทำให้ต่อพ่วงเพิ่มเพื่อชาร์จสมาร์ทโฟนอีกเครื่องได้
  • มีแถบยางกันลื่นมาให้ 2 แถบ ทำให้กันลื่นไหลได้ดีในระดับหนึ่ง
  • รับประกัน 2 ปีและรับประกันความเสียหายต่ออุปกรณ์

ข้อเสีย

  • ผิวสัมผัสเป็นแบบดำด้านก็อาจจะทำให้เกิดคราบมันจากมือไปติดได้ง่าย
  • ไม่มีหัวชาร์จอะแดปเตอร์ แถมมาให้
  • ตัวแท่นเสียบแยก Apple Watch ที่แยกออกมาก็อาจเสี่ยงสูญหายได้ง่าย หรือหากไม่ระมัดระวังก็อาจทำให้หักได้ง่าย
ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay