Review : Fitbit Charge 5 สมาร์ทวอทช์สำหรับสายออกกำลังกายที่ไม่ควรพลาด

Fitbit Charge 5

มาแล้ว!! สำหรับรีวิว Fitbit Charge 5 สมาร์ทวอทช์ สำหรับสายออกกำลังกายที่มาพร้อมดีไซน์สวย และโหมดเทรนเนอร์ออกำลังแบบจัดเต็ม…

จากสถาการณ์ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้หลายคนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และจำเป็นต้องทำงานแบบ ทำงานที่บ้าน หรือ เรียนจากที่บ้าน แน่นอนว่าสภาวะการที่เป็นอยู่นี้ ย่อมส่งผลทำให้เกิดความเครียดสะสม ที่อาจจะทำให้สุขภาพทรุดโทรมลงได้ไม่ยาก เนื่อจากร่างกายจะตอบนองต่อความครียด

ซึ่งทำให้กิจวัตรประจำวันที่เราเคยเป็นปกติเปลี่ยนไปจากเดิม นอนไม่เป็นเวลา และแม้ว่ายากจะออกกำลังกายไปฟิตเนสก็ทำไม่ได้ แต่หากคุณมีเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 (Fitbit Charge 5) เอาไว้ใช้งานแล้วล่ะก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องดังที่กล่าวไปเลย เพราะเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 นั่นสามารถช่วยตรวจสอบความเครียดของคุณได้

อีกทั้งสามารถช่วยจัดระเบียบกิจวัตรประจำวันของคุณให้กับมามีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย และฟังก์ชั่นเทรนเนอร์ที่จะมาออกแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้หับคุณนั่นเอง

Review : Fitbit Charge 5 สมาร์ทวอทช์สำหรับสายออกกำลังกายที่ไม่ควรพลาด

Fitbit Charge 5

ไหน ๆ ก็พูดถึง ฟิตบิต ชาร์ด 5 มาได้ซักพักแล้วเรามาลองดูกันดีกว่าว่าเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 ตัวนี้มีดีอะไรบ้าง หลังจากที่ได้ทดสอบ และทดลองใช้มาซักพักคงต้องบอกว่าเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 ตัวนี้ ถือเป็นสมาร์ทวอทซ์ ที่ค่อนข้างใช้งานได้เป็นอย่างดี แถมยังมีดีไซน์ที่สวยขึ้นมากเมื่อเทียบกับ ฟิตบิต ชาร์ด รุ่นก่อน ๆ

ที่สังเกตได้ชัดเจนเลยคือ ฟิตบิต ชาร์ด 5 ตัวนี้ มีหน้าจอที่ใหญ่มากขึ้น แถมยังเป็นหน้าแบบ AMOLED ขนาด 1.04 นิ้ว ที่การออกแบบใหม่ที่โค้งมนที่บางกว่า ชาร์ด 4 และรองรับการสั่งการงานแบบสัมผัส (Touch Screen) อีกทั้งยังรองรับการใช้งานฟีเจอร์ AlwaysOn Display ทำให้ไม่ต้องหน้าปัดติดตลาดเวลา เพื่อดูการแจ้งเตือน หรือเวลาได้ตลอด อีกด้วย (*ไม่รองรับการแสดงผลภาษาไทย) ขณะที่ตัวหน้าปัดเรือนก็เป็นกระจกที่ดูค่อนข้างแข็งแรงกันรอยขีดข่วนได้ดีระดับหนึ่ง

ด้านตัวเรือนจะดีไซน์ออกแบบมาให้มีสีโลหะทอง และมีตรงกลางเป็นสีบลอนด์ทองทั้ง 2 ฝั่ง แต่ที่น่าสนใจคือเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 ไม่มีปุ่มกดใด ๆ เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ เลย การใช้งานก็แค่ปัด ซ้าย-ขวา-ขึ้น-ลง และกดต้องฟังก์ชั่นที่ต้องการใช้เท่านั้น อีกทั้งตัวเครื่องยังมาพร้อม GPS ในตัว และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 วัน และสมาชิก Fitbit Premium ฟรี 6 เดือน เลยทีเดียว

และมีเซ็นเซอร์ EDA วัดการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด จากการเปลี่ยนแปลงของต่อมเหงื่อบริเวณนิ้วมือและ มีเซ็นเซอร์ SpO2 และวัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถใช้ตรวจจับ AFib หรือภาวะการเต้นผิดจังหวะของหัวใจที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้อีกด้วย เพื่อนำไปแสดงใน Health Metrics Dashboard ที่จะติดตามผลระยะยาวใน Fitbit Premium ได้อีกด้วย

Fitbit Charge 5

สเปคข้อมูล (Specification) : Fitbit Charge 5

  • สี :  ดำ (Black) / สีทองไททาเนียม (Platinum) / น้ำเงิน (Mineral Blue)
  • เทคโนโลยีการชาร์จ : หัวแบบ USB ออกแบบเฉพาะรุ่น (แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 7 วัน)
  • หน้าจอ : AMOLED ขนาด 1.04 นิ้ว แบบสี รองรับฟีเจอร์ Always-On Display
  • สายรัดข้อมือ : เปลี่ยนได้
  • โหมดการออกำลัง : รองรับการออกกำลังกาย 20 แบบ รองรับ Active Zone Minutes
  • เซ็นเซอร์ : EDA ตรวจวัดค่าความเครียดได้ รองรับ ECG และตรวจจับ AFib ได้
  • ฟีเจอร์ : วัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • ระบบติตาม : มี GPS ในตัว
  • การจับคู่อุปกรณ์บลูทูธ : รองรับ Google Fast Pair
  • น้ำหนัก : 28 กรัม (รวมสาย)
  • ระบบชำระเงิน : รองรับ Fitbit Pay (ผ่าน NFC)
  • ระบบปฏิบัติการ : รองรับ iOS 12.2 ขึ้นไป และ Android 8.0 ขึ้นไป
  • ขนาด (W x D x H) : 3.678 x 2.279 x 1.12 cm.
  • สาย : ซิลิโคน (มีมาให้ 2 เส้น)
  • การควบคุม : หน้าปัดทัชสกรีน
  • กันน้ำ : 5ATM (ลึกสุด 50 เมตร)
  • ภายในกล่อง : สายข้อมือ 2 เส้น / สายชาร์จ / คู่มือการใช้งาน / ตัวเรือน
  • แบตเตอรี่ : ใช้งานได้ยาวนาน 7 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
  • จุดขาย : หน้าจอแบบ AMOLED Touch Screen รองรับการใช้งานฟีเจอร์ Always-On Display มีเซ็นเซอร์ EDA และ SpO2 และวัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถใช้ตรวจจับภาวะการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ (AFib) รองรับใช้งานได้ยาวนาน 7 วัน
  • ราคา : 7,690 บาท

Fitbit Charge 5

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ตัวเรื่อนอะลูมิเนียม สีทองไททาเนียม (Platinum) ตัดกับหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 1.04 นิ้ว
  • สายข้อมือซิลิโคนมีมาให้ 2 เส้น (ขนาด S และ L *ภายในกล่อง)
  • สายชาร์จหัวแบบ USB ออกแบบเฉพาะรุ่น
  • คู่มือ

การออกแบบ (design)

การออกแบบตัวกล่อง (Packaging Design) ตัวกล่องจะมีรูปทรง สีเหลี่ยม ฝืนผ้า สกรีนรูปสินค้า และลงพื้นสีหลังตามสีตัวเครื่อง เพื่อง่ายต่อการเลือก และมีโลโก้ ฟิตบิท พร้อมชื่อรุ่นระบุอยู่ ด้านข้าง ด้านหลัง และด้านล่างจะมีตัวบอกสถานที่ผลิต และคุณสมบัติคร่าว ๆ ด้านในตัวกล่องจะเป็นกล่องสีขาวที่เปิดฝั่งเดียว

เมื่อเปิดตัวกล่องจะพบกับเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 ที่ดีไซน์ค่อนข้าง ออกมาได้สวยงาม สามารถใช้งานได้ในทุกโอกาส เรียกได้ว่าจะใส่เที่ยว จะใส่ออกกำลัง ก็ไม่มีปัญหา เพราะเข้าได้กับทุกชุดที่ส่วมใส่ เนื่องจากตัวเรือนมีขนาดหน้าจอ AMOLED เพียง 1.04 นิ้ว เท่าน้้น โดยมีตัวกระจกนั้นเป็นแบบกระจกนิรภัยที่ป้องกันรอยได้ดีในระดับหนึ่ง  (หากว่ายังกลัวเป็นรอย หรือแตกสามารถซื้อกระจกเสริมแกร่งเพิ่มได้ที่ร้านค้าออนไลน์ซึ่งอาจจะต้องหากันนานหน่อย)

ขณะที่ตัวสายนาฬิกานั้นเป็นแบบ ซิลิโคน ที่มีมาให้ 2 เส้น (ขนาด S และ L *ภายในกล่อง) ทำให้สามารถเปลี่ยนได้ตามขนาดของข้อมือของแต่ล่ะคน เรียกได้ว่าจะผู้ชาย ผู้หญิง ก็ใช้งานได้หมด และสายชาร์จหัวแบบ USB ออกแบบเฉพาะรุ่น (แพ็คมาอย่างดีในกล่องกระดาษเล็กจะต้องดึงรอยบุออกถึงจะสามารถนำออกมาใช้งานได้ และมีคู่มือมาให้ 1 เล่ม

ซึ่ง ฟิตบิต ชาร์ด 5 เปิดตัวมาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ดำ (Black) / สีทองไททาเนียม (Platinum) / น้ำเงิน (Mineral Blue) แต่เท่าที่เห็นจะเห็น ดำ (Black) / สีทองไททาเนียม (Platinum) เท่านั้น ส่วนเรื่องสายแบบอื่น ๆ ก็น่าจะหาซื้อเพิ่มได้ ตามร้านค้าออนไลน์ทั่วไปครับ

Fitbit Charge 5

สมาร์ทวอทช์ลดความเครียด

อย่างที่กล่าวไปในขนาดต้นว่าเจ้า ฟิตบิต ชาร์ด 5 ตัวนี้ค่อนข้างจะพิเศษมาก เนื่องจากตัวเครื่องนั้นใส่ ฟีเจอร์ และเซ็นเซอร์ EDA ที่คอยวัดการตอบสนองของร่างกายของคุณต่อความเครียด ที่วัดจากการเปลี่ยนแปลงของต่อมเหงื่อบริเวณนิ้วมือ ซึ่งทำงานผ่านการการแตะที่ขอบข้างเครื่องค้างไว้ 3 นาที แล้วปล่อย นอกจากนี้ยังมี เซ็นเซอร์ตรวจระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2) และวัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถใช้ตรวจจับภาวะการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ (AFib) ได้

โดยยังสามารถแสดงผลได้ที่ Health Metrics Dashboard ที่จะติดตามผลระยะยาวใน Fitbit Premium ได้ ขณะที่ GPS ในเครื่อง ก็มาพร้อมโหมดการออกกำลังกว่า 20 แบบ ระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ และค่าประมาณ V02 max ของผู้ใช้งานได้

นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์ Active Zone Minutes ที่มีก็จะเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนความหนักเบาของการออกกำลังกายได้ โดยวัดจากกิจกรรมส่วนบุคคลที่นอกเหนือจากการก้าวเดิน ระบบนี้สามารถวัดระยะเวลาที่คุณใช้ในแต่ละระดับของอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดกิจกรรมระดับปานกลาง และหนัก เพื่อจะได้บรรลุเป้าหมายระยะเวลา 150 นาทีของการออกกำลังกายซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพของผู้ใช้งานอีกด้วย

Fitbit Charge 5

นอกจากนี้ ฟิตบิต ชาร์ด 5 ยังมีฟีเจอร์ Stress Management Score บนแอปพลิเคชัน Fitbit ที่ช่วยให้คุณได้ข้อมูลในทุกเช้าว่า คุณพร้อมสำหรับความท้าทายที่มากขึ้นหรือต้องการการพักผ่อน ด้วยระบบสมาชิก Premium คุณยังสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การทำสมาธิกว่า 300 แบบจากแบรนด์ และผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ อาทิ Daily Burn, barre3, obé เป็นต้น

โดยในครั้งนี้ทาง ฟิตบิต ได้จับมือกับทีมเทรนเนอร์ StrongWill เพื่อให้ผู้ใช้สามารถออกกำลังกายได้ความสนุกมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการความเครียดได้อีกด้วย สำหรับ ฟีเจอร์การใช้งานที่โดดเด่นที่มีมาให้ในเครื่องก็มี ดังนี้

Fitbit Charge 5

  • Heart Rate Variability : ช่วยให้ติดตามการแปรผันของหัวใจ เช่น จังหวะการเต้นของหัวใจที่จะสามารถบ่งบอกสภาวะร่างกายของบุคคลในขณะนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็น สภาวะผ่อนคลาย หรือ สภาวะความเครียดต่าง ๆ เพื่อผู้ใช้ได้รับรู้ท่วงทันและสามารถปรับสมดุลร่างกายให้กลับสู่สภาวะดังเดิม นอกจากนั้นยังช่วยดูอัตราการหายใจ และเซ็นเซอร์วิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดง หรือ SpO2 ที่เกี่ยวข้องกับการเต้นของหัวใจที่มาพร้อมกับแผงข้อมูลดูแลสุขภาพออกใหม่ล่าสุด
  • ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ : ทำให้คุณสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจในปัจจุบันและวัดการเผาผลาญพลังงานได้ตลอดเวลา อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักเป็นเครื่องบ่งชี้สุขภาพหัวใจโดยรวมของคุณ ยิ่งเลขน้อย ยิ่งได้คะแนนมาก คุณสามารถเลือกประเภทการออกกำลังกายได้ถึง 20 ประเภท อาทิ กอล์ฟ พิลาทิส การปั่นจักรยาน เทนนิส ฯลฯ
  • Stress Management Score : บริหารความเครียดเพื่อช่วยให้คุณมีสุขภาพดี, ประเมินระดับความเครียดของร่างกายคุณแบบรายวัน โดยวิเคราะห์ระดับกิจกรรม การนอนหลับและอัตราการเต้นของหัวใจคุณ
  • Health Metrics Dashboard : เพื่อจะได้เข้าใจค่าพื้นฐานด้านสุขภาพของคุณได้ดียิ่งขึ้น และเห็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังได้รู้อัตราการหายใจ ค่าความผันแปรของอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจในขณะพัก ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิบนผิวหนังและความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด (SpO2)
  • Sleep Score : เพื่อเข้าใจการนอนหลับและพัฒนาการนอนให้ดีขึ้นแบบรายวัน Sleep Stage หรือคะแนนด้านการนอนหลับที่จะช่วยให้คุณค่อย ๆ แสดงคุณภาพการนอนในแต่ละวันได้อย่างชัดเจน และการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้านอน และฟีเจอร์ปลุกแบบ Smart wake นอกจากนี้สมาชิก Fitbit Premium จะได้รับบทวิเคราะห์เชิงลึก และแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการนอนอีกด้วย

ส่วนในส่วนของพลังงานที่ใช้งานเจ้าตัว ฟิตบิต ชาร์ด 5 ก็มาพร้อมหัวชาร์ตแบบ USB ออกแบบเฉพาะรุ่น ที่ชาร์ตไฟเพียง 1 ครั้ง ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 7 วัน ด้านตัวสายจะเป็นวัสดุซิลิโคนแบบนิ่มสวมใส่สบาย ออกแบบให้สายมีรูขนาดยาวเพื่อใส่ให้พอดีกับข้อมือ โดยในกล่องยังมีสายมาให้ 2 ขนาด (ขนาด S และ L *ภายในกล่อง) เพื่อใช้ปรับเปลี่ยนสำหรับขนาดข้อมือของคนใช้งานที่แตกต่างกัน

Fitbit Charge 5

ซึ่งวิธีการเปลี่ยนสายก็เพียงแค่กดสลักที่ด้านลงตัวเรือนใกล้ ๆ กับตำแหน่งแป้นชาร์จเบา ๆ แล้วดึงสายออก ก็เปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย ขณะที่ในการสวมใส่ก็เพียงแค่ สอดสายด้านที่เจาะรูเข้ากับห่วงที่ปลายสายอีกฝั่ง จากนั้นเลือกรูที่พอดีกับขนาดข้อมือแล้วกดให้แน่น และเก็บปลายสายเข้ากับช่องด้านใน ก็จะแน่นหนาไม่หลุดออกง่าย

Fitbit Charge 5

สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ ฟิตบิท มาเลย หรือใช้ตัว ฟิตบิต ชาร์ด 5 เป็นครั้งแรก

สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ ฟิตบิต หรือใช้ ฟิตบิต ชาร์ด 5 เป็นครั้งแรกมีเรื่องที่ต้องรู้ดังต่อไปนี้ครับ อันดับแรกคือจะต้องโหลดแอปพลิเคชั่น ฟิตบิต มาก่อนครับ โดยทำการลงทะเบียนสมัคร และทำตามขั้นตอนให้เรียบร้อย เสร็จแล้วเราจึงจะสามารถนำตัวเครื่องมาทำการเชื่อมต่อกับแอปฯได้

Fitbit Charge 5

โดยสิ่งสำคัญคือจะต้องเสียบนาฬิกาเข้ากับแท่นชาร์จขณะที่เชื่อมต่อ จากนั้นก็จัดการทำตามขั้นตอนที่ปรากฏไปจนจบขั้นตอนครับ ซึ่งในการเชื่อมต่อครั้งแรกจะค่อนข้างใช้เวลานานซักนิด

Fitbit Charge 5

เนื่องจากตัวเครื่องจะทำการอัพเดต และถ่ายโอนข้อมูลไปยังสมาร์ทวอทช์ (20-30 นาที โดยประมาณ) ซึ่งตัวแป้นชาร์จนั้น จะไม่ประกบกับตัวเรือนหากหันไม่ถูกทาง ตัวแม่เหล็กจะไม่ดูดเข้าหากันครับ

Fitbit Charge 5

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จเรามาดูการใช้งานกันบ้าง ซึ่งเมื่อเชื่อมต่อบนแอปฯ จะบอกข้อมูลของอุปกรณ์ สถานะแบตฯ คงเหลือ รวมถึงฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้ารวมข้อมูล Profile ก็จะแสดงข้อมูลโปร์ไฟล์ที่เชื่อมต่อ และตั้งค่าไว้ เช่น Active Zone Minutes, การเต้นของหัวใจ, การนอนหลับ, การออกกำลังกาย เป็นต้น

Fitbit Charge 5

ในส่วนของการเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลให้เราเข้าไปที่ชื่อรุ่นที่แสดงขึ้นมา Charge 5 โดยเมื่อกดเข้าไปก็จะ หน้าต่างการใช้งานให้เราเลือกที่ Gallery ครับ ซึ่งก็จะพบว่ามีทั้งที่ถูกออกแบบมาจาก ฟิตบิต หนึ่งอัน ให้เราลองกดเข้าไปดูที่ Clock เท่านี้เราก็จะพบแบบหน้าจอที่หลากหลายให้ได้เลือกโหลดมาใช้งานกันแล้วครับ

Fitbit Charge 5

นอกจากนี้เรายังสามารถโหลด App ที่ต้องการมาใช้งานได้ที่ หน้า App ได้อีกด้วยครับ (แอปฯ ของ ฟิตบิต อาทิ การตั้งเตือน, SpO2, EDA Scan เป็นต้น) นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ Fitbit Pay เพื่อการใช้จ่ายที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการสัมผัส ได้อีกด้วย เพียงเเค่เข้าไปตั้งค่าที่ Wellet ครับ

Fitbit Charge 5

ข้อสรุปการใช้งานหลังจากทดสอบ

ฟิตบิต ชาร์ด 5 จัดว่าเป็นสมาร์ทวอช ที่ดีไซน์สวยสามารถใช้งานได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชาย และมีฟีเจอร์การออกกำลังกายหลายรูปแบบซึ่งเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไปของแต่ล่ะคน ตัวดีไซน์ถือว่าออกแบบมาให้ใช้งานได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะใช้เพื่อเป็นเครื่องประดับ หรือใช้เพื่อเพื่อออกกำลังกายก็ใส่ก็ได้

และยังมีฟีเจอร์เพื่อความสะดวกให้คุณ ด้วยการปัดเพียงปลายนิ้ว ดูสถิติ จ่ายเงินแบบไร้การสัมผัส รับ/ส่งการแจ้งเตือน จากสมาร์ตโฟนได้ และด้วยหน้าจอสีแบบ AMOLED Alwaysondisplay ทำให้ ฟิตบิต ชาร์ด 5 เป็นสมาร์ทวอทซ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้คุณมองเห็นหน้าจอได้ตลอดเวลาออกกำลังกาย แต่ที่แบบเสียดายคือยังไม่มีการแจ้งเตือนภาษาไทยมาให้ในรุ่นนี้นั่นเอง

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

  • หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.04 นิ้ว แบบสี รองรับฟีเจอร์ Always-On Display
  • มีระบบติดตั้งระบบ GPS พร้อมโหมดการออกกำลังกว่า 20 แบบ
  • รองรับเซ็นเซอร์วิเคราะห์ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดแดง (SpO2)
  • มี EDA ตรวจวัดค่าความเครียดได้ รองรับ ECG และตรวจจับ AFib ได้
  • Sleep Stage ระบบช่วยตรวจวัดการนอนและข้อมูลเชิงลึก บ่งบอกระดับการนอนแต่ละระดับทั้ง หลับลึก หลับไม่สนิท และช่วงหลับฝัน ทำให้ผู้ใช้สามารถประเมินคุณภาพการนอนได้แบบเรียลไทม์ทุกเช้าหลังตื่นนอน
  • ฟังก์ชั่น Active Zone Minute ตัวช่วยตรวจจับชีพจรและระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกาย
  • รองรับการแจ้งเตือนทั้ง ข้อความ, อีเมล, LINE และสายเรียกเข้าโทรศัพท์
  • รองรับเทคโนโลยี NFC เพื่อชำระเงินผ่าน Fitbit Pay
  • ใช้งานได้ยาวนาน 7 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

ข้อเสีย

  • ไม่มีปุ่มกดเหมือนกับรุ่นก่อน ๆ
  • สายชาร์จหัวแบบ USB ออกแบบเฉพาะรุ่น
  • ไม่รองรับการแจ้งเตือนเป็นภาษาไทย
  • ต้องสมัคร บริการแบบสมัครสมาชิก Premium ถึงจะใช้งาน Health Metrics Dashboard ได้
ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

Itdayleadger

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.