มูลนิธิ Schneider Electric จับมือ สภากาชาดไทย ผุดโครงการ Tomorrow Rising Fund เพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19…
highlight
- มูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวโครงการ Tomorrow Rising Fund ช่วยชุมชนที่ได้รับผลกระทบให้
ปรับตัวได้มากขึ้นหลังวิ กฤตการณ์โควิด-19 - พนักงานและพันธมิตรของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กว่า 60 ประเทศทั่วโลก จัดทัพเข้าร่วมทั้งการระดมทุ
นและการเป็นอาสาสมัครเพื่อช่ วยเหลือชุมชนราว 65 โครงการ คาดเป็นประโยชน์ต่อผู้คนราว 800,000 ราย - โครงการ Tomorrow Rising Fund ยังช่วยสนับสนุนด้านการศึ
กษาและการฝึกอบรมอาชีพ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีที่สุดให้ กับเยาวชนและชุมชนของผู้ที่ได้ รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
มูลนิธิ Schneider Electric จับมือ สภากาชาดไทย ช่วยเหลือคนไทยจากวิกฤตโควิด–19
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ด้านการบริหารจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชัน เดินหน้าส่งพลังในโครงการ “Tomorrow Rising Fund“ ล่าสุดจับมือสภากาชาดไทย
เตรียมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ที่ยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด 19 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเจตนารมณ์ที่ มูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งเน้น โดย โครงการ Tomorrow Rising Fund เปิดตัวเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
และเพื่อการฟื้นฟูในระยะยาวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในทุกประเทศที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้ดำเนินงาน โดยมูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เชิญชวนให้ผู้บริหาร และพนักงานของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เข้ามีส่วนร่วมในการบริจาค โดยรวมถึงพันธมิตร และคู่ค้า
โดย กองทุนดังกล่าวนับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) เพื่อต่อสู้กับความยากจน ส่งเสริมการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี มีน้ำสะอาด มีสุขอนามัย มีงานที่เหมาะสม ตลอดจนการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงคุณภาพด้านการศึกษา
3 ลำดับความสำคัญที่กองทุน Tomorrow Rising Fund มุ่งเน้นได้แก่
1.การรับมือ : การให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบ มีรายได้น้อย และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
2.การฟื้นฟู : ใช้เงินทุนที่ระดมมาในการสนับสนุนโปรแกรมการให้ความรู้ และการฝึกอบรมวิชาชีพ ให้กับชุมชนได้รับผลกระทบจากการระบาด โดย ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งเป้าไปที่การฝึกอบรมให้ผู้ที่ด้อยโอกาสทั่วโลก จำนวน 1 ล้านราย ให้ได้ก่อนปี 2568
3.ความยืดหยุ่น : เชื่อมโยงเครือข่ายพนักงานและพันมิตร ผ่านโปรแกรมระดับโลก เช่น VolunteerIn program
นับตั้งแต่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เปิดตัวแคมเปญการระดมทุน ตั้งแต่เดือนเมษายน ได้มีพนักงาน ลูกค้าและคู่ค้าในกว่า 60 ประเทศเข้าร่วม และมีการสนับสนุนโครงการราว 65 โครงการ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้คนกว่า 800,000 ราย
ธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ประธานชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประจำประเทศไทย ลาว และเมียนมา เผยว่า จากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก มูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงมีการส่งเสริมให้พนักงาน ลูกค้า พันะมิตรและคู่ค้าทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
จึงได้จัดทำโครงการ “Tomorrow Rising Fund“ เพื่อช่วยสนับสนุนการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมสร้างกิจกรรมเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนหลัง โควิด-19 โดยโครงการ “Tomorrow Rising Fund“ นี้จะช่วยเหลือกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้ไร้บ้านและสร้างกิจกรรมเพื่อการฟื้นฟูสถานการณ์ในระยะยาว รวมถึงการให้ความรู้
และการฝึกอบรมวิชาชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม ทั้งนี้ พนักงานและคู่ค้าของชไนเดอร์ อิเล็คทริค สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วยการบริจาคเงินหรือเป็นอาสาสมัคร ซึ่งในการบริจาคเงินทั้งหมดทางมูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะพิจารณาตามโครงการที่เหมาะสม โดยโครงการของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันตามความจำเป็น
สำหรับประเทศไทย ทางมูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะมีการร่วมบริจาคเงินจำนวน 5,000 ยูโร หรือราว 174,750 บาท โดยได้มีการเตรียมส่งมอบในนามชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ให้กับสภากาชาดไทย นอกจากนี้ ยังมีพนักงานชไนเดอร์ อิเล็คทริค และคู่ค้า ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมบริจาคสมทบเพิ่มเติม
โดยทุกๆ 10 ยูโร หรือ ราว 350 บาท ที่ได้รับการสมทบโดยพนักงาน ทางมูลนิธิชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะบริจาคเพิ่มเติมให้อีก 5 ยูโร หรือราว 175 บาท ซึ่งจำนวนเงินที่รวบรวมได้ทั้งหมด จะเป็นการสนับสนุนการจัดทำถุงยังชีพโดยสภากาชาดไทย
ในการนำไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งถุงยังชีพดังกล่าวประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารอบแห้ง ไข่ไก่ สบู่ แชมพู และอื่น ๆ ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
“การฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบในประเทศไทยเป็นสิ่งที่ยังมีความจำเป็น เราพร้อมที่จะมอบกำลังใจให้ทุกคนผ่านช่วงเวลาวิกฤตไปด้วยกัน โดยสิ่งเหล่านี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ทั่วโลกยึดถือกันเป็นวัฒนธรรมองค์กรหลัก มุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุก ๆ คนอย่างยั่งยืน”
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th