ชาร์ป ประกาศพร้อมขาย!! ปล่อยโน้ตบุ๊ก SHARP Dynabook 3 รุ่นรวด

SHARP Dynabook

ชาร์ป ประกาศพร้อมขาย!! ปล่อยโน้ตบุ๊ก SHARP Dynabook 3 รุ่นรวด ชูจุดเด่นแตกต่างอย่างเหนือกว่าคู่แข่งด้วย แกร่งทนทาน, ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยม และ AI แจ้งเตือนอัพเดทอัตโนมัติ…

ชาร์ป ประกาศพร้อมขาย!! ปล่อยโน้ตบุ๊ก SHARP Dynabook 3 รุ่นรวด

เชื่อว่าหลายคนยังพอจะ แบรนด์ โตชิบา ที่เคยทำ แล็ปท็อป หรือ โน้ตบุ๊ก กันได้ ไม่มากก็น้อย ก็คงจะพอทราบกันดีว่า เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน บริษัท โตชิบา ไคลเอนต์ โซลูชันส์ บริษัทฯ ลูกของโตชิบา ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ได้ถูกทาง บริษัท ชาร์ป ยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น เข้าซื้อหุ้น

ด้วยวงเงินกว่า 4,000 ล้านเยน (ประมาณ 1,160 ล้านบาท) และถือครองหุ้นกว่า 80.1% และประกาศเป้าหมายที่จะกัลมาร้างชื่ออีกครั้ง โดยใช้คามดโดดเด่น เทคโนโลยีแอลซีดี ผสานเข้ากับความสามารถในการผลิตของ บริษัท หงไห่ พรีซิชัน อินดัสทรี บริษัทจากไต้หวัน หรือฟ็อกซ์คอน (Foxconn)

โดยเล็งที่ใช้แบรนด์ ไดนาบุ๊ก (Dynabook) แบรนด์โน้ตบุ๊กเดิมที่สร้างชื่อเสียงให้กับ โตชิบา ในอดีต กับมาสู่ตลาด แล็ปท็อป หรือ โน้ตบุ๊ก อีกครั้ง จนเมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2563 ที่ผ่านมา ทาง ชาร์ป ได้ออกมาประกาศว่าพร้อมแล้วที่จะนำ Dynabook กับมาสู่ตลาดไทย แถมไม่ได้แค่รุ่นเดียว แต่ปล่อยสู่ตลาดไทยพร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น ได้แก่ Satellite Pro L40, Protégé X30 และ Tecra X40 

มากิ ยามาชิตะ General Manager Global Strategy & Business Planning Division ของ ไดนาบุ๊ก เผยว่าผลิตภัณฑ์ Dynabook เป็นแบรนด์ใหม่ของแล็ปท็อปหรือโน้ตบุ๊ก ที่แต่เดิมนั้นอยู่ภายใต้แบรนด์โตชิบา โดยหลังจากที่เราได้เข้าซื้อกิจการคอมพิวเตอร์ และเครื่องมือสื่อสารจากโตชิบา เมื่อปี 2018 

ทางแบรนด์ได้เพิ่มขีดความสามารถด้านการจัดซื้อ และศักยภาพในการผลิต จากความร่วมมือของผู้ถือหุ้นหลักอย่างบริษัท Foxconn ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลกโทรนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทาง ชาร์ป เองก็ได้ช่วยเสริมประสิทธิภาพของหน้าจอ และสนับสนุนเทคโนโลยี AIoT จากความร่วมมือของทุกฝ่าย

SHARP Dynabook

ก่อให้เกิดเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่าง Dynabook โดย ความพิเศษของโน้ตบุ๊กแบรนด์ Dynabook คือมีความหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ มี Zero Client Solutions เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลและมีประสิทธิภาพการใช้งานที่เป็นเลิ

ทั้งยังมี Mobile Edge Computing devices & Smart Glasses ที่เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ Dynabook ไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นเพียงแค่แบรนด์ที่ผลิตสินค้า แต่มุ่งมั่นเป็นแบรนด์ที่สร้างการบริการซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สืบทอดวามเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ต่อจาก 35 ปี ที่ผ่านมานับจากการกำเนิดของโน้ตบุ๊กที่วางจำหน่ายเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของโลกของโตชิบา โดยยึดหลักการทำงานอย่างมีคุณภาพและเชื่อถือได้ พร้อมสร้างความร่วมมือกับบรรดาพันธมิตร และพัฒนาผลงานที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน

SHARP Dynabook
สุริยา ก้อนคำ Head of Solution Design Department บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด

ด้าน สุริยา ก้อนคำ Head of Solution Design Department บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า สิ่งที่ทำให้โน้ตบุ๊ก Dynabook นั้นแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆนั้น เกิดขึ้นจาก 4P ที่ประกอบด้วย P-People คือบุคลากรที่มีความเชื่อถือได้ มีความรู้ มีประสบการณ์

P-Product ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการมีนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ P-Process การมีเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดในระดับสูงสุด และ P-Partnership การมีพันธมิตรทางธุรกิจและนวัตกรรมที่แข็งแกร่งและล้วนเป็นบริษัทชั้นนำของโลก

SHARP Dynabook

โดย ชาร์ป ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุดแก่ข้อมูล โดยได้ออกแบบ BIOS (Basic Input/Output System) ซึ่งเป็นระบบที่เป็นเสมือนตัวเชื่อมระหว่าง Hardware กับ Software ในการเก็บข้อมูล ที่เป็นโมเดลของแบรนด์โดยเฉพาะขึ้นมา พร้อมทั้งฝังปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าไป

ทำให้ผู้ใช้สามารถกดอัพเดทเวอร์ชั่นได้เองเมื่อมีการแจ้งเตือน โดยไม่ต้องพึ่งพาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งลดความไม่จำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ เพื่อเสถียรภาพในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ทุกเครื่องของ Dynabook ยังมีเทคโนโลยีเอกสิทธิ์ EasyGuard นวัตกรรม

เพื่อช่วยในการรักษาข้อมูลไม่ให้สูญหาย หรือถูกทำลาย ด้วยการหยุดการทำงานของฮาร์ดดิสก์ให้อัตโนมัติ เมื่อเจอแรงกระแทก ถูกน้ำหกใส่ หรือถูกทับด้วยของหนัก ๆ

Beyond Reliable Experience for Your Everyday Work

SHARP Dynabook
โรเบิร์ต อู๋ กรรมการผู้จัดการ ชาร์ป ไทย

โรเบิร์ต อู๋ กรรมการผู้จัดการ ชาร์ป ไทย กล่าวว่า การสร้างสรรค์ Dynabook ถือเป็นการสร้างไลฟ์สไตล์แบบ Remote Life อย่างเต็มรูปแบบ เพราะ Dynabook ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสะดวกสบาย และเต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เติมเต็มสุนทรียะด้านความความบันเทิงได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ด้วยแนวคิด Beyond Reliable Experience for Your Everyday Work ที่สุดแห่งประสบการณ์ในการทำงานกับ Dynabook โน๊ตบุ๊กรุ่น Satellite Pro L40 รุ่น Protégé X30 และรุ่น Tecra X40 จึงมีความหลากหลายของสเปค และวัสดุที่ทนทานสูงให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

SHARP Dynabook

เหมาะสำหรับคนทำงานที่กำลังมองหาเครื่องคู่กาย ซึ่งสามารถพกพาไปทำงานได้ทุกวัน คนที่ต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลาและต้องการเครื่องที่ทนทาน หรือแม้แต่นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการใช้งานทั้งที่บ้าน และที่โรงเรียน ทั้งเล่นเกม และการบ้าน ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนสเปกได้ตามความต้องการที่แตกต่างกันสำหรับการใช้งานในระดับองค์กรได้อีกด้วย

SHARP Dynabook

สำหรับ Dynabook Satellite Pro L40 ซึ่งเป็นรุ่นไฮไลท์มี 2 ราคา คือ 10th Gen Intel® Corei5 ราคา 29,900 บาท และ 10th Gen Intel® Core™ i7 ราคา 32,990 บาท ขณะที่อีก 2 รุ่น ซึ่งเน้นทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร คือ รุ่น Dynabook Protégé X30 ราคา 57,990 บาท

SHARP Dynabook

และรุ่น Dynabook Tecra X40 ราคา 47,990 บาท สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไปทาง Sharp Official Store บน Lazada และ Shopee

SHARP Dynabook

การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์สู่ตลาด แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดและที่มา ทีทำให้ Dynabook ได้ขับเคลื่อนโน้ตบุ๊กสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน ให้ก้าวสู่การสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่

ด้วยความร่วมมือของเหล่ายักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบที่สุดแห่งประสบการณ์ในการทำงานให้แก่ผู้ใช้ทุกคน

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.