CPram เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์อาหารสุขภาพโลก

ซีพีแรม (CPram) เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์โลกเดินหน้าส่งมอบอาหารปลอดภัยเคียงข้างคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19…

highlight

  • บริษัท ซีพีแรม จำกัดได้ผนึกกำลังกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ “อิ่มคุ้ม” สู้วิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ในปีที่ผ่านมา และเล็งเป้าขยายตลาดเพิ่ม 10% ในปี 2564 นี้ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืนให้สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ อีกทั้งประกาศเปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ภายใต้ตราสินค้า “VG for Love” อาหารสำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก (Plant Based Diet)  ครบ 5 ประเภทรายแรกของไทย

CPram เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์อาหารสุขภาพโลก

วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่   เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปทั่วโลก เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบนั้นเช่นกัน หลายธุรกิจชะลอตัว หลายธุรกิจก็ปิดตัวลง รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายครั้งด้วยกัน

ซีพีแรมร่วมกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ดำเนินโครงการเมนู อิ่มคุ้ม ซึ่งเป็นเมนูอาหารพร้อมรับประทานในราคาปกติทั่วไป แต่อร่อยและมีปริมาณมากจนกินอิ่มในกล่องเดียวหรือชิ้นเดียว ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โครงการเมนู อิ่มคุ้ม ไม่เพียงแต่เป็นโครงการช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภคเท่านั้น

CPram
วิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด

ยังช่วยขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานอาหารภายใต้การจัดการของซีพีแรมให้เดินหน้าต่อไปภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจได้ เป็นผลให้พนักงานซีพีแรมและพนักงานของคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทานยังทำงานเต็มเวลาปกติ ไม่มีการลดคนหรือลดเวลาทำงานลง โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่มุ่งผลลัพธ์ช่วยเหลือทางสังคมมากกว่าผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ

แม้ว่าซีพีแรมจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายปี 2563 ที่ตั้งไว้ แต่ยังคงสามารถรักษายอดขายในระดับ           ที่ใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังสามารถบรรลุเป้าหมายด้านอื่นๆ อาทิ การพัฒนาสินค้าใหม่มากกว่า 338 รายการ การได้รับรางวัลเกียรติยศมากกว่า 13 รางวัล เป็นต้น

CPram

สำหรับปี 2564 ซีพีแรมคาดการณ์ว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงมีต่อเนื่อง แต่จะคลี่คลายลงบ้างตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป โครงการเมนู อิ่มคุ้ม ยังคงเป็นกลยุทธ์หลักของซีพีแรม

โดยเพิ่มขึ้นอีก 50% และยังคงมุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคมมากกว่าเป้าหมายทางเศรษฐกิจ ซีพีแรมกำหนดเป้าหมายการขยายตลาดเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว เป็นมูลค่า 21,310 ล้านบาทในปี 2564 และลงมือสร้างโรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่  ที่จังหวัดชลบุรี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มีกำลังผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน

ซึ่งโรงงานใหม่แห่งนี้จะสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการในกลางปี 2565 นับเป็นโรงงานเบเกอรี่แห่งที่ 6 หรือโรงงานแห่งที่ 16 ของซีพีแรม

CPram

นอกจากนี้ซีพีแรมยังกำหนดเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายาการพัฒนาสู่ความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UNSDG) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ในทุกด้าน ตัวอย่างโครงการที่โดดเด่นเช่น โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญของเกษตรกรเสมือนคู่ชีวิต

และดำเนินการตามแนวทาง Food3S โดยซีพีแรมได้แนะนำและส่งเสริมการปลูกสู่เกษตรกรคู่ชีวิต พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูก และการเก็บเกี่ยวกะเพราให้ได้ผลดี มีผลผลิตต่อไร่สูง เมื่อผลผลิตออกแล้ว ซีพีแรมยังรับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป

CPram

ขยายผลไปสู่เกษตรกรพืชผัก สร้าง อาหารเพื่อสุขภาพป้อนตลาด

สำหรับเป้าหมายโครงการปี 2564 ซีพีแรมจะขยายผลไปสู่เกษตรกรพืชผักชนิดอื่น ๆ เช่น ผักคะน้า เกษตรกรได้รับการส่งเสริมอาชีพเพิ่มขึ้น 30% รวมถึงมูลค่าการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้น 10% และ โครงการเรียนฟรีมีรายได้ (ปัญญาภิวัฒน์-ซีพีแรม) เป็นโครงการที่ซีพีแรมได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาสำหรับเยาวชน

จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์-ซีพีแรม โดยจัดการศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพประเภทวิชาพาณิชยกรรม และประเภทวิชาอุตสาหกรรม ใช้หลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และจัดการศึกษาในระบบ ทวิภาคี เรียนรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติควบคู่กันไป

มุ่งเน้นการใช้ประสบการณ์ตรง สนองตอบความต้องการของสถานประกอบการเป็นสำคัญ สำหรับเป้าหมายปี 2564  คือ การมอบทุนการศึกษาตลอดหลักสูตรจำนวน 60 ทุน มีรายได้ระหว่างเรียน 100% และนักเรียนที่สำเร็จการศึกษามีอาชีพรองรับหลังจบการศึกษา 100%

CPram

จากการที่สังคมไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มการบริโภคอาหารที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ พร้อมกับร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุลตลอดห่วงโซ่อาหาร ซีพีแรม จึงได้พัฒนากลุ่มสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริโภคดังกล่าว

โดยขณะนี้ได้ออกมาวางตลาดแล้ว คือ อาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้า VG for Love อาหารกลุ่มใหม่สำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก Plant Based Diet ซึ่งมีไลฟ์สไตล์สอดคล้องทั้ง 4 ความรัก คือ  รักสุขภาพ รักชีวิตสัตว์ รักสิ่งแวดล้อม และรักโลก

มุ่งหวังให้เกิดความสมดุลตลอดห่วงโซ่อาหาร VG for Love แบ่งประเภทอาหารเป็น 5 ประเภท ได้แก่ หมายเลข 1 อาหารเจ, หมายเลข 2 อาหารวีแกน, หมายเลข 3 อาหารมังสวิรัติกับนม, หมายเลข 4 อาหารมังสวิรัติกับไข่  และ หมายเลข 5 อาหารมังสวิรัติกับนม และ ไข่ 

CPram

ซึ่งบรรจุในบรรจุภัณฑ์ สีฟ้า ปิดผนึกมิดชิด เพื่อคงสภาพความสด ใหม่ สะอาด และความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด โดยบรรจุภัณฑ์ สีฟ้า นี้ ได้รับการออกแบบจากแนวคิด The Blue Planet คือ โลกเราเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในสุริยจักรวาลที่เป็นสีฟ้า

เวลามองดูจาก นอกโลก VG for Love ได้วางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางแม็คโคร, 7-Eleven(online) ร้านค้าชั้นนำ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งพร้อมจะขยายจุดจำหน่ายคลอบคลุมทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th