ซีอีโอ หัวเว่ย (Huawai) ประกาศเดินหน้าพัฒนา Os และอุปกรณ์ในเครื่องเองทั้งหมด ใน 2-3 ปี ไม่สนใจ กูเกิ้ล (Google) หากไม่ทำงานกับหัวเว่ยหัวเว่ยก็มีแผนสำรองรออยู่แล้ว …
highlight
- มร. เหริน เจิ้งเฟย ลั่น หากกูเกิลไม่ได้รับใบอนุ
ญาตจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ให้กลับมาทำธุรกิจกับหัวเว่ย เรามีแผนสำรองรอไว้อยู่แล้ว โดยเราพัฒนาสินค้าของตัวเอง โดยจะไม่ใช้เทคโนโลยี ของอเมริกาเลย 100% โดยหัวเว่ยได้เริ่มไปแล้วในรุ่น Huawei Mate 30 นอกจากนี้ยังได้พัฒนา Os ของเราอย่างต่อเนื่องเองอีกด้วย
Huawai ประกาศเดินหน้าพัฒนาอะไหล่สมาร์ทโฟน ใช้เองใน 2-3 ปี
มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้
“ผมเชื่อว่าในอีก 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า เราจะสร้างอีโคซิสเต็มที่จะใช้
ร่วมกันทั่วโลกเองได้สำเร็จ”
นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ ไม่ใช่แค่สำหรับหัวเว่ย แต่สำหรับพวกเราทุกคนด้วย เขาหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะ “พักเรื่องการเมืองไว้ก่อน” และคำนึงถึงประโยชน์ของบริษั
“ผมนับถือสหรัฐอเมริ
กาในฐานะชาติที่ยิ่งใหญ่ และทุ กคนที่หัวเว่ยได้เรียนรู้ อะไรมากมายจากความสำเร็จของสหรั ฐฯ ความนับถือนั้นจะยังคงอยู่ไม่ เปลี่ยนแปลง แต่เพื่อความอยู่รอด บริษัทจำเป็นต้องเตรียมตัวให้ พร้อมในกรณีที่บริษัทอเมริกั นไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งชิ้ นส่วนให้หัวเว่ย ซึ่งหากบริษัทอเมริกันไม่ได้รับอนุ ญาตให้ทำธุรกิจกับเรา เราก็ยังมีออปชั่นอื่น”
และเมื่อเราพบว่าทางเลือกใหม่
มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานคณะกรรมการบริหารของหัวเว่ย ให้สัมภาษณ์กับ CNN
หลังจากสหรัฐฯ ประกาศแบนหัวเว่ยในเดื
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหัวเว่
“ขณะนี้หัวเว่ยผลิตสถานีฐาน 5G ที่ปราศจากชิ้นส่วนของอเมริ
กาได้เดือนละ 5,000 ชุด เป็นการตอกย้ำว่าบริษัทอยู่ได้ สบาย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี ของสหรัฐฯ“
เรามีแผนสำรองรอไว้อยู่แล้ว ซึ่งหัวเว่ยมีความตั้
การที่สหรัฐฯ พยายามล็อบบี้ไม่ให้ประเทศพั
โดยในช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา หัวเว่ย เองก็ได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองสำเร็จแล้ว ในชื่อ หงเมิ่ง “Hongmeng” ที่ได้เริ่มมีการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2012 ทั้งนี้คาดว่าระบบปฏิบัติการ Hongmeng จะถูกนำมาใช้ในโทรศัพท์มือถือของ Huawei แทนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android)
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th