เอ็นไอเอ (NIA) เผย 5 เทรนด์ฮิต ทราเวลเทค (Travel tech) เชื่อช่วย อุตฯท่องเที่ยวโตปี 2020 พร้อมชวนสตาร์ทอัพจับกระแสนักเดินทาง ชี้กลุ่ม FIT ยังแรงต่อเนื่อง…
highlight
- สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เผย 5 นวัตกรรมสำคัญ และจำเป็น สำหรับอุ
ตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีถัดไป ได้แก่ AR และ หรือการนำเสนอข้อมูลเชิงเสมื อนที่ผสมผสานกับโลกของความเป็ นจริง บล็อกเชน (Blockchain) เทคโนโลยีที่ช่วยสร้ างความปลอดภัย และแม่นยำของข้อมู ล เทคโนโลยีเพื่อการจดจำ (Recognition) เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกั บสมาร์ทโฟน เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยว 45% ใช้สมาร์ทโฟนดำเนินการทุกอย่ างที่เกี่ยวกับแผนท่องเที่ยว และผู้ช่วยเสมือนอัจฉริยะ (AI) เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความเชื่ อมั่นและทำให้นักท่องเที่ยวได้ รับข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมชี้กลุ่มนักท่องเที่ ยวแบบเดินทางด้วยต้นเองหรือ FIT ยังคงเป็นกลุ่มที่มาแรง - ในปี 2019 มีการเดินทางเข้
ามาในประเทศไทยกว่า 19.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ยังได้แนะแนวทางที่ผู้เกี่ยวข้ องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้ องให้ความสำคัญ และปรับตัวเพิ่ มขึ้น อาทิ การค้นหาข้อมูลที่ต้องทำได้ฉั บไวรวดเร็วขึ้น การพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ๆที่ช่ วยมอบประสบการณ์ให้กับผู้มี แนวโน้มที่จะเดินทางมาเยือนพื้ นที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำศั กยภาพทางการท่องเที่ยว ฯลฯ
เอ็นไอเอ ยัน Travel tech ช่วยดัน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวโตใน ปี 2020
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่
ขณะที่ “ตัวแทนจากองค์กรท่องเที่ยว“ กลายเป็น “ผู้ให้คำแนะนำ“ หรือ “ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว“ ผู้บริโภคสามารถจองตั๋วเครื่
โดยเฉพาะการสตอบสนองความต้
AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality)
การนำเสนอข้อมูลเชิงเสมื
เพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นก่
Blockchain
เทคโนโลยีที่ช่วยสร้
Recognition
เทคโนโลยีเพื่อการจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการจดจำข้อมูลด้
เพื่อคั
Smart phone
ปัจจุบันนักท่องเที่
บริการจองที่พักหรือร้านอาหารที่
AI (Artificial Intelligence)
ผู้ช่วยเสมือนอัจฉริยะ ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับ Siri หรือ Alexa แต่เป็นผู้ช่วยที่ฝึกฝนมาเพื่อช่วยเหลือหรือให้ประสบการณ์เฉพาะเกี่ยวกับการท่องเที่ยว พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย มีความปลอดภัย และได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
ยุคของการใช้ข้อมูลเพื่อยกระดับธุรกิจ
นอกจากเทคโนโลยีต่างๆจะมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้ว สิ่งที่ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ และผู้พัฒนานวัตกรรมในธุรกิจดังกล่าวต้องปรับตัวให้ทันอีกหนึ่งเรื่องคือ พฤติกรรมต่าง ๆ ของนักเดินทางที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น การเลือกที่พักที่ต้องมีทางเลือกมากขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการในรูปแบบที่เน้นคุณค่า และบ่งบอก ลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้น
เช่น มีอินเทอร์เน็ตฟรีทุกพื้นที่ มีบริการที่เข้าถึงง่าย มีการสร้างปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว ประเด็นถัดมาคือ การค้นหาข้อมูลที่ทำได้ฉับไวรวดเร็วขึ้น ส่งผลต่อระยะการวางแผนล่วงหน้าที่เคยเฉลี่ยอยู่ที่ 60 วัน ก่อนการเดินทางเป็นอย่างต่ำ เปลี่ยนเป็นใกล้วันเดินทางแบบนาทีสุดท้ายหรือ last minute booking จนกลายเป็นเทรนด์หลักของนักเดินทางยุคปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการเดินทางที่เปลี่ยนจากยุคของกรุ๊ปทัวร์มาสู่การเดินทางด้วยตัวเอง (Free Independent Traveller: FIT) ซึ่งในปีนี้มีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 19.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รวมถึงการพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยมอบประสบการณ์ให้กับผู้มีแนวโน้มที่จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพทางการท่องเที่ยว และเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยจากการคาดการณ์ขององค์การการท่
“การพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยมอบประสบการณ์ให้กับผู้มีแนวโน้มที่จะเดินทางมาเยือนพื้นที่ต่าง ๆ จะตอกย้ำศักยภาพทางการท่องเที่ยว และเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น“
จะปรากฏชัดในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งจะมีนักเดินทางทั่วโลกกว่า 1,600 ล้านคน ขับเคลื่อนมาสู่ภูมิภาคเอเชี
ด้วยการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ ประสานด้วยความร่วมมือจากทุ
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th