Huawei เปิดตัว Nova 7 และNova 7 SE พร้อมชูประสิทธิภาพคุ้มกว่าแบรนด์อื่น

วันนี้ หัวเว่ย เปิดตัว Huawei Nova 7 และ  Nova 7 SE อย่างเป็นทางการ พร้อมชูประสิทธิภาพคุ้มกว่ากว่าแบรนด์อื่นราคาในเรทราคาใกล้เคียงกัน…

highlight

• หัวเว่ย เปิดตัว Huawei Nova 7 และ  Nova 7 SE อย่างเป็นทางการ พร้อมชูประสิทธิภาพคุ้มกว่ากว่าแบรนด์อื่นราคาในเรทราคาใกล้เคียงกัน พร้อมกันนี้ยังเผยโฉม Free Buds 3i ที่มาพร้อมเทคโนดลยีสุดล้ำ และ nova 7i สีใหม่ อย่าง Skyline Gray และHuawei MatePed Pro 5G สีใหม่ Forest Green และของแถมกว่า 9,210 บาท ตบท้ายด้วยรุ่น Y8p ที่เตรียมจะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อย่าง Huawei Online Store และJD Central

Huawei เปิดตัว Nova 7 และNova 7 SE อย่างเป็นทางการ

หัวเว่ยตอกย้ำความคุ้มค่าของเทคโนโลยี 5G ด้วย หัวเว่ย nova 7 และ หัวเว่ย nova 7 SE สมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุดที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G เต็มรูปแบบ บนทุกเครือข่าย และทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย เปิดประสบการณ์ 5G อย่างเต็มศักยภาพ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนรุ่นใหม่ผู้ชื่นชอบสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า

และมาพร้อมนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในหลายรูปแบบ โดย หัวเว่ย nova 7 สุดยอดสมาร์ทโฟน 5G สำหรับคอเกม ทำงานด้วยขุมพลังชิปเซ็ต Kirin 985 5G เพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลสำหรับการเล่นเกมมือถือขั้นสูงสุด สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เฟรมไม่สะดุด

พร้อมหน้าจอแบบ หัวเว่ย Punch Display ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ให้ภาพชัดเต็มตา มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดด้วยภาพกราฟิกที่สวยงามสมจริง ขณะที่ หัวเว่ย nova 7 SE โดดเด่นด้วยกล้องหลังสี่ตัวสุดล้ำด้วยเทคโนโลยี AI ทำให้ทุกโมเม้นท์การถ่ายภาพและทุกการถ่ายวิดีโอออกมาสวยงามไร้ที่ติ

ประกอบไปด้วยกล้องความละเอียดสูงสุด 64MP กล้องเลนส์กว้างพิเศษ 8MP กล้องเลนส์วัดระยะ 2MP และกล้องเลนส์มาโคร 2MP รองรับการถ่าย VDO ความละเอียดระดับ 4K ที่มาพร้อมโหมดการถ่ายวีดีโอ “DUAL–View“ สามารถถ่ายวิดีโอพร้อมกันได้ด้วย 2 เลนส์ ไม่ว่าจะถ่ายกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง

หรือกล้องเลนส์กว้างพิเศษพร้อมเลนส์หลัก ให้ภาพและวิดีโอคมชัดในทุกรายละเอียด นับเป็นการกลับมาอีกครั้งของ หัวเว่ย nova 7 series พร้อมอัตลักษณ์ของ nova ด้วยแพทเทิร์นสุดเก๋ ที่ออกแบบมาเพื่อให้โดนใจคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังมีสมาร์ทโฟน ขณะที่ หัวเว่ย nova 7i มาพร้อมสีใหม่

ในรุ่น Limited Edition สี Skyline Grey และยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ที่รองรับการใช้ MEETime และ eBook Mode ได้แล้ว โดย หัวเว่ย nova 7 มีให้เลือก 2 สี คือ Midsummer Purple และ Space Silver และ หัวเว่ย nova 7 SE มีให้เลือก 2 สี คือ Space Silver และ Crush Green

โดย หัวเว่ย nova 7 SE จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ที่ราคา 11,990 บาท และจะเริ่มเปิดพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 12–21 มิถุนายน 63 นี้ ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปหรือร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ทั้งบนช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์

ซึ่งทุกการสั่งซื้อในช่วงพรีออเดอร์ จะได้รับของสมนาคุณพิเศษรวมมูลค่ากว่า 4,667 บาท สำหรับ หัวเว่ย nova 7 และ หัวเว่ย nova 7i สีลิมิเตด จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ที่ราคา 16,990 บาท และ 8,990 บาท ตามลำดับ 

สำหรับลูกค้า หัวเว่ย nova 7 series จะยังได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เริ่มต้นจากด้านความบันเทิงและแอปพลิเคชันที่ชาวไทยใช้งานทุกวันกับ LINE ที่สามารถใช้งานได้แล้ววันนี้บนสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย มาพร้อมความร่วมมือสุดพิเศษในการออกแบบสติ๊กเกอร์ชุดน้องหว่าหวา (VAVA)

เอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้า หัวเว่ย nova 7 series และยังมีส่วนลดพิเศษเมื่อสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับคอนเท้นต์ฟรีระดับพรีเมี่ยมบน LINE TV และมื้อขนมสุดพิเศษกับดังกิ้น โดนัท ที่มาพร้อมคูปอง เพื่อแลกซื้อโดนัทในราคาพิเศษ

MatePad Pro 5G และ FreeBuds 3i สองสมาร์ทดีไวซ์ยอดฮิต 

นอกจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสมาร์ทโฟน หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ยังเปิดตัวอีกสองดีไวซ์ที่จะเข้ามาเติมเต็มการใช้งาน 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย หัวเว่ย MatePad Pro 5G แท็บเล็ตระดับโปร ดีไซน์เรียบหรู เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์ในเครื่องเดียว

เพิ่มการประมวลผลฉับไวด้วยชิปเซ็ตเรือธง Kirin 990 5G มอบประสบการณ์ทำงานและความบันเทิงอันยอดเยี่ยม อัดแน่นไปด้วยระบบเสียงรอบทิศทางให้คุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ ออกแบบโดย Harman Kardon ด้วยลำโพง 4 จุด และไมโครโฟน 5 ตัว ช่วยลดเสียงรบกวน

อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีการกระจายความร้อนใหม่ล่าสุดด้วยกราไฟท์ 3 มิติสุดบางเฉียบ ซัพพอร์ตการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ ได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ App–Multiplier รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันสูงสุดพร้อมกันถึง 4 หน้าจอ

และเป็นแท็บเล็ตตัวแรกของโลกที่รองรับ Reverse Wireless Charge ที่ 7.5 วัตต์ ร่วมด้วย M–Pencil และ Smart Magnetic Keyboard แบบไร้สาย สามารถใช้งานได้เสมือนแล็ปท็อป ตอบโจทย์ทุกความต้องการทุกที่ทุกเวลา

ด้าน หัวเว่ย FreeBuds 3i หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ ดีไซน์สวย คุณภาพเสียงคมชัดปราศจากเสียงรอบข้างด้วยเทคโนโลยี “Active Noise Cancellation“ ฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยการควบคุมหูฟังแบบสัมผัสอัจฉริยะเพียง one tap ก็สามารถคอนโทรลได้หลากหลายฟังก์ชั่นจากเพียงปลายนิ้วสัมผัส

สำหรับ หัวเว่ย MatePad Pro 5G สีเขียว Forest Green ที่ผลิตจากหนังวีแกน ราคา 29,990 บาท จะเริ่มพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 12–26 มิถุนายน 63 นี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 มิถุนายน 2563 ในขณะที่ หัวเว่ย FreeBuds 3i ราคา 3,299 บาท จะเริ่มพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 12–21 มิถุนายนนี้

และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ณ หัวเว่ย แบรนด์ช้อปหรือร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ ทั้งบนช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ โดยทุกการสั่งซื้อในช่วงพรีออเดอร์ จะได้รับของสมนาคุณพิเศษรวมมูลค่ากว่า 9,210 บาท สำหรับ หัวเว่ย MatePad Pro 5G

Y8p น้องเล็กสเปคแรง

นอกจากการเปิดตัวในซี่รี่ย์ 7 ไป 2 รุ่น แล้ว หัวเว่ยยังได้ประกาศกำลังจะจำหน่ายรุ่นน้องเล็กอย่าง Y8p อีกด้วย โดยเปิดเผยว่า Y8p จะมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.3 นิ้ว มาพร้อมหน่วยความจำ 128 GB ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1

และความสามารถของกล้องในการถ่ายภาพบุคคลแบบ HDR การถ่ายภาพ Super Slow motion และโหมดภาพกลางคืน Super Night Shot และระบบแสกนนิ้วมือเสมือนสมาร์ทโฟนใหม่ล่าสุด มาพร้อมสีที่เคยได้รับความนิยมจากสมาร์ทโฟนเรือธงของหัวเว่ย กับสี Breathing Crystal ไล่เฉดสีสวยงาม

ซึ่ง Y8p จะวางจำหน่ายเฉพาะช่องทาง หัวเว่ย Store ที่ http://shop.huawei.com/th และเว็บไซต์ JD Central เท่านั้น โดยจะจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ที่ราคา 6,990 บาท

หัวเว่ย nova 7 series และ หัวเว่ย Y8p มาพร้อมบริการ หัวเว่ย Mobile Service หรือ HMS และยังร่วมมือกับนักพัฒนาทั่วโลกในการสร้างสรรค์แอปพลิเคชันให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้โดย หัวเว่ย AppGallery

โดยแบ่งประเภทการใช้งานของแอปไว้ถึง 18 ประเภท มีครบถ้วนทุกหมวดหมู่ ตัวอย่างเช่น การท่องเที่ยว การเงินการธนาคาร ช้อปปิ้ง การศึกษา เป็นต้น

ทั้งนี้ หัวเว่ย Store พร้อมให้บริการแล้วในประเทศไทย เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้แบรนด์หัวเว่ย และเป็นช่องทางอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทยที่บริหารงานโดยหัวเว่ย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่แฟน ๆ และผู้บริโภคชาวไทยในการเข้าถึงข้อมูล-ซื้อสินค้า และข่าวสารต่าง ๆ ของแบรนด์

พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ 1+8+N ในการสร้างอีโคซิสเต็มที่เป็นมิตรและเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใช้ มอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าหัวเว่ยทุกท่าน กับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยจุดเด่นในการให้บริการ 3 ด้าน คือ บริการส่งสินค้าฟรีให้กับทุกการสั่งซื้อที่มีมูลค่ารวม 2,500 บาท ขึ้นไป

รับรองความปลอดภัยในการชำระเงินทุกช่องทางบนแพลตฟอร์ม และรับประกันคุณภาพการผลิตสินค้าทุกชิ้น 100% และยังมาพร้อมสิทธิพิเศษต่าง ๆ

อาทิ การลดราคาสินค้าเฉพาะรุ่นเฉพาะช่วงเวลา Flash Sale ที่ลดราคาสินค้าสูงสุดถึง 50% และทั้งหมดนี้ ผู้บริโภคยังมั่นใจได้ว่าจะได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพ การจัดส่งรวดเร็ว พร้อมระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย และยังได้อุปกรณ์เสริมของแท้จาก หัวเว่ย อีกด้วย

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

• Facebook
• X
• Line