ลือ!!…กันไปเอง dtac ยันไม่มีแผนปรับลดพนักงาน 50% ตามข่าวที่ออกมา

dtac

ดีแทค (dtac) ยืนยัน นอนยัน ตพแคงยัน โต้ข่าวปรับลดพนักงาน 50% ตามที่มีสื่อรายหนึ่งนำเสนอนั้นไม่เป็นความจริง เป็นเพียงลือ!! เท่านั้น…

ลือ!!…กันไปเอง dtac ยันไม่มีแผนปรับลดพนักงาน 50% ตามข่าวที่ออกมา

ตามที่มติชนระบุว่า ผลกระทบจากโควิด ดีแทค ปรับลดพนักงานลง 50% ซึ่งข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ดีแทคขอชี้แจง ว่าดีแทคประกาศให้พนักงานสามารถกลับเข้าทำงานได้ที่สำนักงานใหญ่ สำนักงานประจำภูมิภาค และศูนย์คอลเซ็นเตอร์รวมทั้ง 3 แห่ง ในกรุงเทพฯ และที่จังหวัดเชียงใหม่

แต่ยังคงคุมเข้มโดยกำหนดมาตรการการควบคุมดูแลความหนาแน่นในพื้นที่ทำงานให้มีจำนวนพนักงานเพียง 30% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพอนามัย และความปลอดภัยของพนักงาน ในช่วงการแพร่ระบาทของ COVID-19 โดย ดีแทค เริ่มมาตั้งแต่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา

ขณะที่ศูนย์บริการของดีแทคทั้งหมดสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ภายใต้มาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด อย่างที่ทราบกันดีว่า ดีแทค ใช้รูปแบบการทำงานแบบ ชัดเจนยืดหยุ่นชัดเจน (tight-loose-tight) คือชัดเจนในเรื่องความคาดหวัง ยืดหยุ่นในวิธีการที่พนักงานใช้ในการบรรลุเป้าหมาย

และชัดเจนในเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบ เราเชื่อว่าพนักงานนั้นมองหารูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เนื่องจากการทำงานในลักษณะนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกมีอิสระในการตัดสินใจ อันจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลและความพึงพอใจของพนักงาน

dtac 5G
ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค 

เตรียมพร้อมมานานเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า และพนักงาน

โดยในช่วงเดือน เมษายนที่ผ่านมา ชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เองเคยได้เคยออกมากล่าวว่า ดีแทคต้องการให้บริการแก่ลูกค้าด้วยมาตรการความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น สวมใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง

และตรวจวัดอุณหภูมิก่อนการใช้บริการเป็นประจำ ที่ดีแทค เราได้กำหนดมาตรฐานการทำงานอย่างสูงสุดก่อนเหตุการณ์บานปลาย เราตื่นตัวต่อคำเตือนต่าง ๆ มาตรการการกักตัวของพนักงาน การห้ามเดินทาง ตลอดจนมาตรการการปิดสาขาและอาคารสำนักงาน เรากระจายเครื่องวัดอุณภูมิในสาขาต่าง ๆ

รวมถึงหน้ากากมากกว่า 100,000 ชุด และเจลแอลกอฮอล์จำนวนหลายพันแกลลอน และเราจะไม่หยุด ตอนนี้ พวกเรากำลังสร้างความมั่นใจให้แก่ทัพหน้าของเราโดยสร้างฉากกั้นใสระหว่างการให้บริการกับลูกค้า โดย ดีแทคยังมีจุดให้บริการลูกค้าหลายพันจุดทั่วประเทศ พนักงานหลายพันคนทำงานที่อาคารสำนักงาน และคอลเซ็นเตอร์

และในช่วงต้นปีช่วง มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของการแพร่รบาท ทางดีแทคเอง ก็เคยออกมาเปิดเผย กลยุทธ์ให้บริการเน้นเซฟลูกค้า และพนักงาน เอาไว้ว่า ได้เตรียมแผนสำหรับคอลล์เซ็นเตอร์ 3 แห่ง ในการทำงานรองรับลูกค้าร่วมกัน เพื่อให้ลูกค้าได้พอใจ และสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งยังได้ออกมาตรการเข้มงวดสำหรับการปฏิบัติการเพื่อป้องกันการระบาด โดยคำนึงถึงส่วนรวม และตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และได้ปรับองค์กรสู่ดิจิทัลรองรับการทำงานได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ โดยใช้การทำงานรูปแบบคลาวด และการติดต่อสื่อสารประชุมที่ทำได้ทุกรูปแบบผ่านมือถือและคอมพิวเตอร์

ทำให้การแชร์ข้อมูลร่วมกันเป็นแบบเรียลไทม์แม้จะทำงานคนละสถานที่ รวมทั้งนำแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรองรับการทำงานร่วมกัน และได้มี การแบ่งพนักงานทุกสายงานเป็น 2 กลุ่ม ให้มีการสลับการปฏิบัติงานในสำนักงาน และในพื้นที่อื่นหรือทำงานจากบ้าน (Work from home)

dtac

เรายังทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่สถานการณ์ที่จำเป็น โดยเราได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างมากในขณะนี้อย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าการติดต่อสื่อสารจากมือถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับทุกคน ทั้งการสื่อสารกับครอบครัว การติดต่อธุรกิจ และติดตามสถานการณ์จากภาครัฐ

ข่าว ดีแทค อื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก https://dtacblog.co/

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th