Open Banking จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ปรากฎอยู่ในทุกภาคส่วนของการบริการด้านการเงินในอนาคต และยิ่งทวีความชัดเจนมากขึ้น และนี่คือ 4 แนวทางที่อาจจะเกิดขึ้น…
highlight
- ในอนาคตการใช้ซอฟต์แวร์
แบบกระจายศูนย์ของธนาคาร จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ปรากฎอยู่ในทุกภาคส่วนของการบริการด้านการเงินในอนาคต - ปัจจุบันการพัฒนาซอฟต์แวร์
แบบกระจายศูนย์ของธนาคารไปใช้งาน กำลังอยู่ในระหว่างการหารือร่วมกันกับผูู้กำกับดูแลกฎระเบียบในกว่า 47 ประเทศทั่วโลก เช่น ใน 28 ประเทศในสหภาพยุโรปจำเป็นต้องเปิด API ให้ธุรกิจอื่น ๆ - การพัฒนาซอฟต์แวร์
แบบกระจายศูนย์ของธนาคารทำให้กระบวนการสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วทำให้ธนาคาร สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากรูปแบบการบริการใหม่ ๆ ได้
4 “O” ของ Open Banking
ปัจจุบันโลกการเงินได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมากกมาย เราได้เห็นการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวจะยิ่งทวีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ในรูปแบบที่ที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งในอนาคตโลกของการเงินจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไรนั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่นอนคืดมันจะช่วยให้ชีวิตสะดวกมากขึ้นอย่างแน่นอน
ซึ่งที่ทำให้ผู้เขียนคิดเช่นนี้ เนื่องจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจจาก อิสมาอิล ชาอิบ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบั
“โอเพ่นซอร์สเป็นแนวคิดที่มีพลัง และมีความเป็นไปได้สูงในการนำไปใช้งาน โอเพ่นซอร์สไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่เชื่อถือได้ และฟรีเท่านั้น แต่ยังมอบโอกาสให้เราคืนกลับองค์ความรู้ให้แก่ชุมชนทั่วโลกจากห้องเรียนเล็ก ๆ ของเราในแอลจีเรียได้อีกด้วย การถกเถียงกันอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับโอเพ่นซอร์สในขณะนั้น ก็ไม่แตกต่างไปจากการถกเถียงกันเรื่องธนาคารคารแบบเปิดในยุโรป และทั่วโลกในปัจจุบัน และตั้งแต่โอเพ่นซอร์สกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นกันทั่วไป ผมก็เชื่อตั้งแต่ตอนนั้นว่า ธนาคารคารแบบเปิด จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ปรากฎอยู่ในทุกภาคส่วนของการบริการด้านการเงินในอนาคตเช่นกัน” อิสมาอิล ชาอิบ กล่าว
ขณะที่ในปัจจุบันกระแสการพัฒนาธนาคารแบบเปิด กำลังได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลก และเป็นสิ่งที่น่าจับตามองเพราะจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงบทบาทของธนาคาร และสถาบันการเงินในอนาคตอันใกล้นี้ และให้ความสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมการธนาคารคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งภาคธุรกิจ และผู้บริโภคมากขึ้น
ธนาคารแบบเปิด คืออะไร?
ธนาคารคารแบบเปิด เป็นรูปแบบการพัฒนาซอฟต์แวร์
ซึ่ง จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้
ในขณะที่ผู้พิการทางสายตาจะใช้
ทำไมต้อง ธนาคารแบบเปิด ?
แนวคิด ธนาคารคารแบบเปิด มักจะถูกมองว่าจะเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม มีการนำซอฟต์แวร์
เข้ามาใช้งานได้ภายใต้คำสั่งของกฎระเบียบใหม่ในการชำระเงิน (Payment Services Directive2 หรือ PSD2) ที่มีผลบังคับใช้ทั่วทั้งสหภาพยุโรป นอกจากการใช้ระบบนี้จะทำให้สถาบันการเงินสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้แล้ว สถาบันการเงินจะได้รับประโยชน์จากซอฟต์แวร์
สร้างโอกาสให้กับธนาคาร ทำให้กระบวนการสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ปรับขยายได้ คู่ขนานไปกับความร่วมมือกับพันธมิตรนอกองค์กร ซึ่งพันธมิตรส่วนหนึ่งจะสามารถช่วยให้ธนาคาร นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น มอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และทำให้ธนาคาร สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากรูปแบบการบริการใหม่ ๆ อีกด้วย
ส่งเสริมประสิทธิภาพภายในองค์กร ด้วยการเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัล และการทบทวนขั้นตอนการทำงานที่มีอยู่เดิม ทำให้ธนาคารสามารถใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศของผู้ให้บริการภายนอกองค์กร และผู้เชี่ยวชาญได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความคล่องตัวและความยืดหยุ่นให้กับการดำเนินงานได้มากขึ้น
ในตลาดที่กำลังเติบโต ความสามารถในการสร้างสรรค์บริ
แล้วอะไร คือ 4 “O” ของ ธนาคารแบบเปิด
หนทางสู่ความสำเร็จยังอยู่อีกยาวไกลสำหรับผู้ที่มุ่งมั่นสู่อนาคตที่เปิดกว้าง ซึ่งต้องเผชิญความท้าทายด้านการออกแบบ API ที่เป็นระบบเปิด หรือการสร้าง Ecosystem ให้กับผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้องในการยอมรับการใช้งาน API เหล่านั้น ดังนั้นการเริ่มดำเนินการระบบซอฟต์แวร์
เราได้ระบุหลักการสี่ข้อที่น่าจะช่วยให้การใช้ระบบ ธนาคารคารแบบเปิด ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ซึ่งหลักการเหล่านี้ได้กลายเป็นคำจำกัดความซึ่งเรียกว่า Four Os ของระบบซอฟต์แวร์
นวัตกรรมเปิด (Open Innovation) เป้าหมายของการใช้ระบบ ซอฟต์แวร์
ซึ่งนวัตกรรมที่นำมาใช้นั้นจะต้องเป็นสิ่งที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง และไม่เลือกปฏิบัติกับลูกค้ารายเล็ก ๆ เราเคยเห็นโครงการ Open Banking-as-a-Compliance ล้มเหลวมาแล้ว เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงมุมมองของผู้ให้บริการอื่น ๆ
มาตรฐานเปิด (Open Standard) การนำมาตรฐานเปิดมาใช้ เป็นการแก้ไขความท้าทายที่นักพัฒนาส่วนใหญ่ไม่ยอมรับโซลูชันที่เหมาะสมจากภายนอกเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาภายในองค์กร Open Banking Project (OBP) ที่รวมถึงคอมมิวนิตี้ของนักพัฒนาด้านฟินเทคทั่วโลกของเร้ดแฮทมากกว่า 11,000 ราย ได้ช่วยให้สถาบันทางการเงิน 40 แห่งใช้ APIs ได้อย่างปลอดภัย
รวมไปถึงช่วยให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานของท้องถิ่นต่าง ๆ และสร้างระบบนิเวศที่รุ่งเรือง ช่วยให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ประหยัดเวลา และสามารถสร้าง APIs ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการศึกษาจากวิธีการและกรณีต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว อันจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการก้าวสู่ความเป็นซอฟต์แวร์
APIs แบบเปิด (Open APIs) ด้วย APIs แบบเปิดไม่ได้หมายถึง API สาธารณะ แต่เป็น APIs ที่สามารถเปิดให้กับบุคคลที่สามใช้งานได้ในลักษณะที่ควบคุมได้ และบุคคลที่สามควรใช้ APIs ของธนาคารได้โดยไม่ต้องถูกบังคับให้ผ่านหลายขั้นตอนที่ยุ่งยาก
เพื่อสนับสนุนการทดลองนี้ ลูกค้าของเร้ดแฮทหลายรายได้ลองใช้สภาพแวดล้อม sandbox ของ TESOBE (Technical Solutions Berlin), กิจกรรมแฮคคาทอน และรูปแบบการทดลองอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน
ระบบเปิด (OpenSource) การเลือกใช้โอเพ่นซอร์สสำหรับองค์กร ซึ่งอาจหมายถึงว่าไม่มีการจำกัดการใช้เทคโนโลยีจากผู้ขายคนใดคนหนึ่ง (no vendor lock-in) และมีการควบคุมการสร้างส่วนประกอบของระบบซอฟต์แวร์
ซึ่งการใช้ และบูรณาการองค์ประกอบของโอเพ่นซอร์สสำหรับระบบซอฟต์แวร์
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th