เทคโน (TECNO) เปิดตัวเทคโนโลยี AI Ecosystem ในงาน MWC Barcelona 2025 พร้อมเผยโฉม สมาร์ตโฟนซีรีส์ CAMON 40, แล็ปท็อป MEGABOOK S14 และแว่นตาอัจฉริยะ AI Glasses…
highlight
- เทคโน สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน MWC Barcelona 2025 โดยเปิดตัว TECNO AI Ecosystem (เทคโน เอไอ อีโค่ซิสเต็มส์) นำเสนอแนวทาง AI เชิงปฏิบัติ พร้อมเปิดตัวสมาร์ตโฟน CAMON 40 Series (คามอน 40 ซีรี่ย์), TECNO AI Glasses Pro (เทคโน เอไอ กลาสซิส โปร) และแล็ปท็อป MEGABOOK S14 (เมกะบุ๊คส์ เอส14) อย่างเป็นทางการ โดยมี Laury Bai ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ TECNO ซึ่งได้รับเกียรติจาก Oliver Mas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมตัวแทนจาก MediaTek, Google Cloud, DxOMark และ Qualcomm ร่วมเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด และเน้นย้ำความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนา AI และเทคโนโลยีการถ่ายภาพบนมือถือ
TECNO เปิดตัวเทคโนโลยี AI Ecosystem ในงาน MWC Barcelona 2025 พร้อมเผยโฉม 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่
Jan Stryjak ผู้อำนวยการฝ่ายวิจั

ด้าน Laury Bai ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่
ตลอดจนกำลังใช้แนวทางที่เป็นรู

“คามอน 40 ซีรี่ย์” สร้างมิติใหม่แห่ งวงการถ่ายภาพด้วย AI One–Tap FlashSnap
Olivier Mas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเปิ
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สะท้อนถึ

คามอน 40 ซีรี่ย์ เป็นตัวอย่างที่ชั
Matt Waldbusser กรรมการผู้จัดการฝ่
เช่น Ask Ella, AI Image Extender, AI Writing และ AI Translate ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่
โดยเฉพาะฟีเจอร์ AI ของ เทคโน ที่
เพื่อปลดล็อกศักยภาพอันไร้ขี

ฟีเจอร์ One-Tap FlashSnap เป็นนวัตกรรมของ คามอน 40 ซีรี่ย์ ที่ใช้ AI ยกระดั
ขณะที่การประมวลผลหลายเฟรมด้วย
เพื่อให้ได้ภาพที่แม่นยำ และมีคุ

ด้าน Frédéric Guichard ซีอีโอของ DXOMARK กล่าวเสริมว่า คามอน 40 โปร แสดงศักยภาพด้านการถ่
และยังเป็นอุปกรณ์เครื่องแรกที่

และเครื่
“เมกะบุ๊คส์ เอส14” แล็ปท็อป OLED ขนาด 14 นิ้ว ที่เบาที่สุดในโลก
เมกะบุ๊คส์ เอส14 คือแล็ปท็อป OLED รุ่นแรกของ เทคโน และเป็นแล็ปท็อป OLED ขนาด 14 นิ้ว ที่เบาที่สุดในอุตสาหกรรม โดยมาพร้อมกับจอภาพ 2.8K OLED และมีน้ำหนักเพียง 899 กรัม (31.7 ออนซ์) เท่านั้น แล็ปท็อปเครื่องนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังอันยอดเยี่ยมจาก Snapdragon® X Elite
แพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ AI PCs โดย Qualcomm Technologies และยังมาพร้อมกับโมเดล AI ขนาดใหญ่ที่พัฒนา โดย เทคโน เองเพื่อช่วยให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (multitasking) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการสนับสนุนจาก AI

ล็ปท็อป เมกะบุ๊คส์ เอส14 ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับการใช้งานด้าน AI ในอนาคต โดย เทคโน เอไอ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพของผู้ช่วย Ella AI, การสร้าง PPT ด้วย AI, การค้นหาภาพด้วย AI, สมาร์ตอัลบั้ม, และการถอดเสียงการประชุมแบบออฟไลน์ พร้อมรองรับหลายภาษา
ส่วน External Graphics Dock ที่มาพร้อมการ์ดกราฟิก NVIDIA ที่ทรงพลังมอบประสิทธิภาพสูงในด้านการออกแบบ เกม และการสร้างเนื้อหา หน้าจอ OLED 2.8K ของแล็ปท็อปมีอัตราการรีเฟรช 120Hz มอบภาพที่คมชัด และน่าทึ่ง
ขณะที่ลำโพง DTS:X Ultra dual 2W, Wi-Fi 6E, ระบบล็อกอินด้วยลายนิ้วมือ และ PC Manager ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อ และประสบการณ์การใช้งาน
ด้าน เคดาร์ คอนแด็ป รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายคอมพิวเตอร์ และเกมโดย Qualcomm ขึ้นเวทีเพื่อพูดถึงการผสานชิปเซ็ต PC ที่ทันสมัยของ Qualcomm เข้าในแล็ปท็อป เมกะบุ๊คส์ เอส14 ใหม่ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ เทคโน ในการนำเสนอโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง

นอกจากนี้ เทคโน ยั
แ
“เทคโน เอไอ กลาสซิส โปร” พลิกโฉมประสบการณ์ AR ด้วยการออกแบบสุดล้ำ
เทคโน เผยโฉม เทคโน เอไอ กลาสซิส โปร ด้วยคุณสมบัติที่ล้ำสมัย มี รุ่น AI Glasses Pro และ รุ่น มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 50MP ซึ่งรวมเซ็นเซอร์ OV50D, เลนส์มุมกว้างพิเศษ 100° และชิป AI ISP เพื่อสร้างระบบการถ่ายภาพระดับมือถือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่คมชัด และมีความละเอียดสูง
พร้อมการลดเสียงรบกวนด้วย AI และความสามารถ HDR นอกจากนี้ ยังรองรับการแปลภาษาแบบเรียลไทม์มากกว่า 100 ภาษา โดยมี AI Ella ที่ช่วยแปลภาษาอย่างแม่นยำ รวมถึงการควบคุมด้วยเสียง การจดจำวัตถุด้วย AI และการสรุปข้อมูลอัจฉริยะเพื่อความสะดวกสูงสุด

เทคโน เอไอ กลาสซิส รุ่น โปร ยังมีการแสดงผล MicroLED พร้อมเทคโนโลยี Resin Waveguide เจเนอเรชั่นที่ 7 ซึ่งช่วยให้มุมมองอยู่ที่ 30° พร้อมความสว่างกว่า 1,500 nits สำหรับการแสดงผล AR ที่ชัดเจน และการออกแบบที่บาง และเบา แ
สดงผล AR ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การแสดงผลการแปลภาษา การนำทาง การแจ้งเตือนข้อมูล และการแสดงข้อความโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย
โดย แว่นตาทั้ง 2 รุ่น ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 250mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 11 ชั่วโมงในการฟังเพลง และ 8 ชั่วโมงในการใช้งานผสมเพียงแค่ชาร์จ 30 นาที นอกจากนี้ยังมีลำโพงอัลตร้าไลน์เนียร์ การเสริมเบส และเสียงพื้นที่ที่ช่วยให้ประสบการณ์เสียงสมจริง และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.4 เพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่น
ด้วยนวัตกรรมล่าสุดที่เปิดตัวในครั้งนี้ เทคโน กำลังกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับการถ่ายภาพบนมือถือ และเทคโนโลยี AI เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมต่อ และศักยภาพของผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่อย่างก้าวกระโดด พร้อมตอกย้ำอัตลักษณ์ของแบรนด์ “Stop at Nothing” ที่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้าถึงง่าย เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสนวัตกรรมแห่งอนาคตก่อนใคร
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th