Nokia G20 สมาร์ทโฟนพันธุ์อึด!! ที่จัดเต็มด้วยแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 3 วัน พ่วงการอัปเดตระบบปฏิบัติการให้นานถึง 2 ปี ในราคาเพียง 4,990 บาท…
หลังจากการกลับมาทำตลาดโทรศัพท์อีกครั้งกับแบรนด์ โนเกีย ได้เดินหน้าพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดขายในเรื่องของความคุ้มค่าคุ่มราคา ทำให้ทิศทางของแบรนด์นั่นกลับมาดีขึ้นที่ล่ะน้อย หลังจากที่ปล่อยให้คู่แข่งทำคลาดกันไปล่วงหน้า จนแทบตามไม่ทัน
แบบชนิดที่เรียกได้ว่า เด็กยุคใหม่แทบจะไม่รู้จัก (ยกเว้นคนยุค 90 อย่างแอดมิน 555) แต่การกลับมาครั้งนี้ต้องยอมรับว่า โนเกีย จัดหนัก จัดเต็ม กันเลย โดยเราจะเห็นสมาร์ทโฟน โนเกีย มีความทันสมัย ดีไซต์สวยมากขึ้น และยังอัดสเปกมาคุ้มกับราคามากกว่าเดิม
โดบรุ่นล่าสุดที่ได้มีการเปิดตัวคือ โนเกีย G20 (Nokia G20) ที่ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้มีแบตเตอรี่สุดอึด ที่ทำให้สามารถใช้งานได้นาน 3 วัน โดยไม่ต้องชาร์จ แถมพ่วงมากับระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่โดดเด่นในเรื่องการแจ้งเตือนแบบถูกแยกออกเป็นหมวดหมู่ไม่ปะปนกับการแจ้งเตือนทั่วไป
แถมยังดีไซน์ใหม่สไตล์สแกนดิเนเวียน ทำให้ตัวเครื่อง สวยมากขึ้น ซึ่งวันนี้ แอดมิน ได้เครื่อง โนเกีย G20 จาก เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD Global) ผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟแบรนด์โนเกีย ส่งเครื่องมาให้รีวิวครับ ถ้าอยากรู้ว่ามีดียังไง ลองไปอ่านรีวิวกันได้เลยครับ
Review : Nokia G20 สมาร์ทโฟนพันธุ์อึด!! ฟังก์ชั่นดี ในราคาเบา ๆ
เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติเบื้องต้น ต้องยมรับว่า โนเกีย G20 เครื่องนี้เหมาะกับงานด้านครีเอทีฟพอสมควร แม้ว่าจะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานในการสร้างงานสร้างสรรค์ เพราะจัดเต็ม ด้วยกล้อง 4 ตัว โดยเลนส์หลักนั้นมีความละเอียดมาให้ถึง 48MP ขณะที่ตัวเครื่องก็ยังมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 128GB และ RAM 4GB
รองรับการเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 512GB อีกทั้งยังใส่ระบบ OZO Audio ที่ช่วยให้สามารถบันทึกเสียงเซอร์ราวด์แบบ
ด้านความเร็วเร็วก็หมดห่วง เพราะใช้ชิปประมวลผลจาก MediaTek Helio G35 แบบ 8 คอร์ ที่มอบความเร็วสูงสุดที่ 2.3 GHz กันเลยทีเดียว ทำให่สามารถใช้งานได้หลากหลาย นอจากนีตัวเครื่องยังรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนคลื่น 4G LTE ได้อีกด้วย และอีกจุดเด่นที่กล่าวไว้คือ แบตเตอรี่ ขนาด 5050mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องเสียบสายชาร์จไฟผ่านพอร์ต USB Type–C กันบ่อย ๆ
สเปคข้อมูล (Specification) : โนเกีย G20
- สี : สีน้ำ
เงิน (Polar Night) - ขนาด : 164.9 x 76 x 9.2 มม.
- น้ำหนัก : 197 กรัม
- เชื่อมต่อโครข่ายสัญญาณ : GSM 850/900/1800/1900 MHz, UMTS 850/900/1900/2100 MHz และ LTE Bands 1/ 3/ 5/ 7/ 8/ 38/ 40/ 41 (CAT 4)
- หน้าจอ : IPS ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720) พิกเซล ที่ให้รีเฟรชเรทที่ 90Hz
- หน่วยประมวลผล : MediaTek Helio G35, IMG PowerVR GE8320 (GPU)
- หน่วยความจำภายในเครื่อง : 128GB รองรับ MicroSD Card ได้สูงสุด 512GB
- ระบบปฏิบัติการ : Android (One) 11 (รองรับการอัปเดตถึง Android 13)
- รองรับการเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11a/b/g/n 2.4GHz, Bluetooth 5.0, GPS/AGPS, GLONASS, Beidou, Ambient light sensor, Proximity sensor, Accelerometer (G-Sensor), Gyroscope, NFC (TA-1336)
- กล้องหลัง : 4 เลนส์ (เลนส์หลัก : ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล / Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล / Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และDepth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล) + แฟลช LED หนึ่งดวง
- กล้องหน้า : ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- รองรับระบบซิม : 2 ซิมการ์ด (Triple-Slot) ที่สามารถใส่ 2 แบบ (Dual Sim : Nano Sim+Nano Sim+MicroSD) และ (Single Sim : Nano Sim+MicroSD)
- ระบบรักษาความปลอดภัย : เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มเพาเวอร์
- แบตเตอรี่ : 5050mAh
- อื่น ๆ : ปุ่มเรียกใช้ Google Assistant / ช่องหูฟัง / ฟีเจอร์วิทยุ FM / ไมโครโฟน 2 ตัว / IPX 2
- ราคา : 4,990 บาท
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่องโทรศัทพ์ โนเกีย G20
- อะแดปเตอร์แปลงไฟขนาด 10W + รองรับระบบชาร์จไว
- สาย USB Type-C
- เข็มจิ้มถาดซิม
- เคสใส
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาให้จากโรงงาน)
- หูฟัง
- คู่มือการใช้งานเบื้องต้น Quick Start (5 เล่ม)
- ใบรับประกันสินค้า
การออกแบบ (design)
ด้านการออกแบบดีไซน์ ตัวกล่อง (Packaging Design) นั่น จะเป็นกล่องกระดาษแบบไม่หนา ตัวกล่องจะมีสีขาวทั้งด้านหน้า และหลัง โดยที่ตัวด้านหน้านั้นจะมี รูปตัวเครื่อง และ Logo โนเกีย พร้อมชื่อรุ่น ที่ด้านฝั่งซ้ายนั้นจะมีชื่อรุ่นพร้อมสัญลักษณ์ Android (One) 11 ระบุ รองรับอัพเดท 2 ปี
ส่วนด้านขวาข้างกล่องระบุรายละเอียดของผู้จัดจำหน่าย 2 ภาษา ขณะที่ด้านหลังตัวกล้องนั้นจะระบุชื่อรุ่น และคุณสมบัติคร่าว ๆ ของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ, กล้อง, แบตเตอรี่, ระบบแสกนลายนิ้วมือ, ปุ่มเรียกใช้ Google Assistant เป็นต้น ส่วนด้านท้ายตัวกล่องจะมีสติกเกอร์ซีเรียลเครื่องครับ
ด้านตัวเครื่องนั้นค่อนข้างมีนำหนักเบาครับ ไม่หนักเกินไปถือจับถนัดมือ โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว แบบ HD+ (1600×720 พิกเซล) ที่ให้รีเฟรชเรทที่ 90Hz ซึ่งตัวจอยังสามารถเพิ่มความสว่างในระดั
ด้านสีสันการออกแบบดีไซน์ลวดลาย ตัว โนเกีย G20 ที่ด้านหลังตัวเครื่องนั้นออกแบบมาในคอนเซ็ปต์สไตล์สแกนดิเนเวียน ผ่าน สีน้ำ
ขณะที่ด้านบนนั้นช่องสำหรับเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ และที่ด้านหลังนี้เราจะเห็นตัวกล้อง 4 เลนส์ ที่ยื่นออกมาจากตัวเครื่องประมาณ 1 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าไม่หนาเกินไป โดยเมื่อใส่เคสก็จะน่าช่วยให้สามาถป้องกันการกระแทกได้พอดีครับ
โดยตัวเลนทีใส่มานั้นจะมี เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และแฟลช LED หนึ่งดวง
ที่ด้านตัวเครื่องฝั่งขวานั้นใส่ ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเพาเสอร์ที่สามาถใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล้ฮคตัวเครื่องมาให้ด้วย แต่ไม่เพียงเท่านี่้ตัวเครื่องยังรองรับการสแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้าด้วย ขณะที่ด้านซ้ายตัวเครื่องจะมีช่องใส่ซิม (Sim) และปุ่มพิเศษสำหรับการเรียกใช้งาน Google Assistant โดยเฉพาะมาให้ครับ
หน่วยประมวลผล และหน่วยความจำ
โนเกีย G20 มาพร้อมกับชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 ขนาด 12 นาโนเมตร และมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) IMG PowerVR GE8320 มาให้ ทำให้สามารถใช้งางานทั่วไปในใช้ในชีวิตประจำวัน ได้ดีพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการ เล่นโซเชี่ยล การแชต หนังสือ ดูหนังฟังเพลง และใช้งานแอพสวัสดิการของรัฐ ก็เพียงพอ
ส่วนการใช้งานกับ หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว แบบ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ที่ให้รีเฟรชเรทที่ 90Hz นั้น สำหรับการใช้เพื่อดูหนังฟังเพลง แชต ถือว่าทำได้ออกมาดีครับ แต่!! (ส่วนตัว) การใช้ในการเลนเกมส์ นั้นถือว่ายังไม่สามาถตอบสนองได้ดีมากเท่าไร มีอาการช้าบ้างครับ แต่ไม่ถึงกับกระตุกจนเล่นไม่ได้
ด้านแอปฯ ภายในตัวเครื่องที่มีมาให้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีทั่วไปในระบบของ google บนสมาร์ทโฟน ซึ่งหากจะใช้แอปฯ อื่น ๆ ก็ต้องไปโหลดมาใหม่นะครับ แน่นอนว่าด้วยการแสดงผลที่ความละเอียด 1600x720 พิกเซล นั้นจะมอบสีสน และแสงได้เป็นอยา่งดี แต่หากเราไม่อยากให้สว่างมากเกินไปก็สามารถเข้าไปที่
การตั้งค่าโหมดใช้งานกลางคืน เพื่อลดความเมื่อยล้าในสายตา ลดแสงสีฟ้า โยเราสามารถเข้าไปปรับให้เป็นธีมสีดำ (Dark Mode) รวมถึงยังสามารถตั้งเวลาให้ทำงานได้เองในแต่ละวันครับให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของเราได้ครับ
ขณะทีด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายที่นอกจาก 4G LTE นั้น ตัวเครื่องนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อจาก Bluetooth 5.0 และ GPS/AGPS รวมถึง Wi–Fi 802.11a ได้ เพียงแต่ ได้ถึง 2.4Ghz เท่านั้นครับ และด้วยการที่ โนเกีย G20 นั้นไม่มีปุ่มในบริเวณหน้าจอ หรือล่างจอ ก็อาจทำให้คนใช้งานลำบากได้
แต่ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการเข้าไปตั้งที่ปุ่มซอร์ฟแวร์ระบบ ที่เรียกว่า “การนำทางระบบ” ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ การนำทางแบบ 3 ปุ่ม และ การนำทางด้วยท่าทางสัมผัส ซึ่งการตั้งค่าก็เพียงแต่เข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า เลือก การช่วยเหลือพิเศษ เลือก การนำทางระบบ เพียงเท่านี้ก็จะสะดวกมากขึ้นแล้วครับ
กลับมาที่การทดสอบตัวกล้อง ทั้ง 4 เลนส์ กันโดยจากการทดสอบจะเห็นว่าตัวเลนส์นั้นรองรับการถ่ายภาพในหลายระยะ โดยสามารถถ่ายภาพได้ตั้งแต่มุมกว้าง 0.6x ไปจนถึงซูมภาพ 4x และภ่ายภาพระยะใกล้ในระยะ 4 เซนติเมตร หรือจะถ่ายไร้ขอบ หรือแบบนับเวลาถอยหลัง รวมไปถึงการใช้กล้องเพื่อตรวจหาสิ่งที่ต้องในอินเทอร์เน็ตก็ได้
ขณะที่ภาพถ่ายบุคคล หน้าชัดหลังเบลอได้ โดยสามารถปรับความเบลของฉากด้านหลังได้ หลังจากถ่ายไปแล้ว ซึ่งภาพที่ออกมาถือว่าพอใช้ แต่ยังติดความขาวมากไป แต่สำหรับคนที่ชอบภาพเหมือนในความฝันก็น่าจะถูกใจไม่น้อย เพราะสามารถเลือกระดับความฟรุ้งฟริ้งของใบหน้าได้ 10 ระดับ กันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังปรับแก้ภาพได้ผ่านโปรแกรม Google Photo โดยจะเลือกเลือกจุดโฟกัสใหม่ หรือจะปรับระยะชัดลึกใหม่ รวมไปถึงสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างของแสงโบเก้ในภาพก็ทำได้ครับ ส่วนฟังก์ชั่นการถ่ายวีดีโอ คุณภาพที่ออกมานั้นถือว่าไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ถึงกับคมกริบครับ
ข้อสรุปการใช้งานหลังจากทดสอบ
ข้อสรุปหลังจาการทดลองใช้ แอดมิน ขอฟันธงว่า โนเกีย G20 นั้นถือเป็นอีกหนึงสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจครับ ถ้าเทียบกับราคาจำหน่ายที่ไม่ถึง 5 พัน กับฟังก์ชั่นการใช้งาน และฟีเจอร์ รวมถึงสเปกที่ใส่เข้าให้ในเครื่อง ซึ่งหากกำลังมองหาเครื่องใหม่ก็เป็นอีกทางเลือกที่พอใช้ได้ครับ เพราะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้
แต่หากจะใช้เพื่อนำมาเป็นเครื่งไว้สำหรับการเล่ยเกมส์ ก็อาจจะต้องมองหาเครื่องอื่นจะดีกว่า ถ้าไม่อยากหงุดหงิด หรือหัวร้อนตอนเล่น จุดที่น่าสนใจสำหรับ โนเกีย G20 ฺก็คือการที่ตัวเครื่องนั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Android (One) 11 ทำให้ไม่กินสเปคหน่วยความจำ อีกทั้งยังรองรับการอัปเดตถึง 2 ปี
และยังออกแบบให้มีปุ่ม Google Assistant ทำให้หากนำไปใช้กับบนอุปกรณ์พกพา และสมาร์ทโฮมต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยี IoT ก็จะสะดวกมากครับ
ในส่วนของประสิทธิภาพในการเล่นเกมบนหน้าจอ 6.5 นิ้ว แบบ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ที่ให้รีเฟรชเรทที่ 90Hz สำหรับการเล่นเกมส์ อย่าง ROV, free fire และ Asphalt ถือว่า ทำได้พอใช้ครับ เนื่องจากภาพที่แสดงออกมาไม่ได้ดีมาก และอัตราการตอยสนองต่อการสั่งการยังมีความหน่วงอยู่พอสมควร
ในการเล่นเกม ROV, free fire และ Asphalt ผลที่ได้ ถือว่าทำได้ดีพอสมควรครับ ไม่ติดขัด แต่ก็ยังมีความหน่วงเล็กน้อย แต่ทั้งนี้ แอดมิน ต้องขอแจ้งไว้ก่อนว่าในที่นี้หากเราใช้เน็ตผ่าน 4G ในพื้นที่มีคนเยอะน่าจะน่าหงุดหงิคเหมือนกัน
ส่วนการรับชมคอนเทนต์ความละเอียดสูง นั้นถือว่าภาพที่แสดงผลออกมายังถือว่าไม่คมเท่าไร แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดมากถือว่าใช้ได้ครับ
ข้อดี–ข้อเสีย
ข้อดี
- ตัวเครื่องดีไซน์ออกมาสวย และมีน้ำหนักเบา
- สแกนลายนิ้วมือผ่านปุ่มเพาเวอร์ได้
- ประมวลผลทรงพลังสุดขีดจาก MediaTek Helio G35
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5050mAh
- ให้กล้องมาเยอะมากถึง 4 เลนด์
- มีปุ่ม Google Assistant มาให้โดยเฉพาะ
- เสียงการสนทนาดังชัดเจน
- รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ NanoSIM 2 ซิม
- ราคาคุ้มค่า
ข้อเสีย
- หน้าจอไม่สู้แสง ใช้งานกลางแจ้งได้ไม่ค่อย
- ไวต์บาลานซ์ (White Balance) ไม่นิ่ง และอุณหภูมิสีภาพที่ได้ไม่ตรง ภาพออกมาทางสีขาวเยอะ
- ตัวเครื่องไม่กันคราบมัน
- ไม่เหมาะกับการใช้เล่นเกมส์
- ลำโพงดังแต่ไม่ไม่ค่อยให้เสียงทุ่ม
- ไม่รองรับ 5G
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th